นางราตรี ชีพอุดมวิทย์ นักวิชาการกองการแพทย์ทางเลือก กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงงานวิจัยเรื่อง การศึกษาการใช้น้ำมูตรบำบัดในเครือข่ายชาวอโศก ว่า กองการแพทย์ทางเลือกเริ่มการวิจัย โดยเบื้องต้นศึกษาในกลุ่มของชาวสันติอโศก เพราะทราบว่าทางผู้ปฏิบัติธรรม หรือพระมักจะมีความเชื่อ ในเรื่องการบำบัดด้วยน้ำปัสสาวะอยู่แล้ว โดยมีแรงจูงใจมาจากคำสั่งสอน ของพระพุทธเจ้าเป็นหลัก ได้พบว่า ชาวสันติอโศก
ส่วนใหญ่จะใช้น้ำมูตรนี้ในทุกส่วนของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นการดื่มกิน อาบน้ำ สระผม หรือล้างหน้า ซึ่งความเชื่อเช่นนี้ก็ได้ปรากฏอยู่ในพระไตรปิฎกด้วย โดยอธิบายว่า พระสมัยก่อนนิยมนำน้ำมูตรเน่ามาดองกับลูกสมอ หรือลูกมะขามป้อม เพื่อฉันเป็นยารักษาโรค รวมถึงความเชื่อของคนจีนโบราณ ซึ่งมากกว่า 3 ล้านคน ก็ดื่มปัสสาวะ เพราะเชื่อว่าจะทำให้สุขภาพดี
จากการศึกษาพบว่า ส่วนใหญ่จะดื่มกันสดๆ และเป็นปัสสาวะของตัวเอง โดยเฉพาะในช่วงเช้า เพราะเชื่อว่าจะมีสารเมลาโทนินซึ่งเป็นสารในปัสสาวะค่อนข้างสูง ทั้งนี้ จะดื่มในปริมาณ 1-1 แก้วครึ่ง ขณะที่บางความเชื่อก็ว่า ถ้าจะให้ดีก็ต้องเป็นปัสสาวะเด็ก รวมถึงการใช้น้ำปัสสาวะนี้
ในการบ้วนปาก สระผม ล้างหน้า เพราะเมื่อใช้แล้ว ผมที่เคยหงอกก็หาย รังแคก็ไม่มี นอกจากนี้ถ้าอยากแก้สิวฝ้าให้ได้ผล ก็ให้ลองเอาสำลีหรือกระดาษทิชชูชุบน้ำมูตร และปะหน้าเอาไว้ รับรองได้ผลแน่ นางราตรี กล่าว.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น