++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพุธที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2555

สัมมาวาจา


สัมมาวาจา

เสียงที่่เราเปล่งออกมาจากลำคอหรือเส้นเสียง ไม่ว่าจะเป็นเสียงร้องเพลง ร้องไห้ เสียงพูด เสียงตะโกน มันล้วนออกมาจากใจโดยเจตนา
การโพสต์ก็เป็นเสียงอย่างหนึ่ง หลายๆคนอาจจะเถียงว่า...ไม่จริง
แต่หากลองพิจารณาดูว่าเป็นเสียงที่ออกจากใจเราหรือเปล่า เราจะเป็นคนได้ยินก่อนคนแรกหรือไม่...........ลองพิจารณาดู
ใน"สัมมามรรค"หรือ"มรรคมีองค์แปด"................สัมมาวาจาจะเป็นป้ายบอกทางที่สามต่อจากสัมมาทิฎฐิและสัมมาสังกัปปะ จึงเป็นป้ายหนึ่งที่สำคัญ
ในยามที่เราตั้งใจสวดมนต์ภาวนา เสียงที่เราเปล่งออกมามันนิ่ง สงบ เย็น ราวกับน้ำในร่างกายของเราเรียงลำดับของอะตอมแห่งความสงบเย็น ก่อพลังล้นเหลือในทุกคำสวดที่เปล่งออกมา......นี่แหละพลังแห่งสัมมาวาจา
(ข้อเขียนนี้ได้แรงบันดาลใจจากท่านแม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุตแห่งเสถียรธรรมสถาน ขอกราบท่านมาณ.ที่นี้ด้วยครับ)

หมายเหตุจากวิกีพีเดีย
มรรค (ภาษาสันสกฤต : มรฺค; ภาษาบาลี : มคฺค) คือ หนทางถึงความดับทุกข์ เป็นส่วนหนึ่งของอริยสัจ (เรียกว่า มัคคสัจจ์ หรือ ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาอริยสัจ)หรือการลงมือปฏิบัติเพื่อให้พ้นจากทุกข์ และนับเป็นหลักธรรมสำคัญอย่างหนึ่งในพระพุทธศาสนา ประกอบด้วยกรอบการปฏิบัติ 8 ประการด้วยกัน เรียกว่า "มรรคมีองค์แปด" หรือ "มรรคแปด" (อัฏฐังคิกมรรค) โดยมีรายละเอียดดังนี้

1.สัมมาทิฏฐิ คือ ปัญญาเห็นชอบ หมายถึง การปฏิบัติอย่างเหมาะสมตามความเป็นจริงด้วยปัญญา
2.สัมมาสังกัปปะ คือ ดำริชอบ หมายถึง การใช้สมองความคิดพิจารณาแต่ในทางกุศลหรือความดีงาม
3.สัมมาวาจา คือ เจรจาชอบ หมายถึง การพูดต้องสุภาพ แต่ในสิ่งที่สร้างสรรค์ดีงาม
4.สัมมากัมมันตะ คือ การประพฤติดีงาม ทางกายหรือกิจกรรมทางกายทั้งปวง
5.สัมมาอาชีวะ คือ การทำมาหากินอย่างสุจริตชน ไม่คดโกง เอาเปรียบคนอื่น ๆ มากเกินไป
6.สัมมาวายามะ คือ ความอุตสาหะพยายาม ประกอบความเพียรในการกุศลกรรม
7.สัมมาสติ คือ การไม่ปล่อยให้เกิดความพลั้งเผลอ จิตเลื่อนลอย ดำรงอยู่ด้วยความรู้ตัวอยู่เป็นปกติ
8.สัมมาสมาธิ คือ การฝึกจิตให้ตั้งมั่น สงบ สงัด จากกิเลส นิวรณ์อยู่เป็นปกติ
อริยมรรคมีองค์แปด เป็นทางสายกลาง (มัชฌิมาปฏิปทา) คือ ทางที่นำไปสู่การพ้นทุกข์ที่พระพุทธองค์ได้ทรงตรัสรู้แล้ว ด้วยปัญญาอันยิ่ง ทำญาณให้เกิด ย่อมเป็นไปเพื่อความสงบเพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อความตรัสรู้ เพื่อนิพพาน

สะมะชัยโย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น