++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันเสาร์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

แฉนายพลไทยสมคบ พล.ท.เขมร ร่นหลักหมุดกินแดนไทย 12.5 ก.ม.

นายสนธิ ลิ้มทองกุล กล่าวในรายการ "เมืองไทยรายสัปดาห์" ASTV
ว่าขณะนี้มีการร่วมมือกันระหว่างนายพลโทท่านหนึ่งของกัมพูชา
กับนายพลไทยในการขยับหมุดเขตแดนไทย-กัมพูชา ร่นเข้ามาในดินแดนไทย 12.5
กิโลเมตร มีผลให้ประชาชนในพื้นที่นั้นที่อยู่มานานแล้วได้รับความเดือดร้อน
และมีประชาชนไปพบหมุดเขตแดนไทยกัมพูชาที่ร่นเข้ามาตั้งแต่วันที่ 23
ส.ค.2552 มีการรวมตัวกันไปร้องเรียนทหาร ทางทหารที่ทำเรื่องนี้ก็ไหวตัว
มีการแก้ไขข้อความบนหมุดจากเดิม "หมุดเขตแดนไทย-กัมพูชา" เป็น
"หมุดขยายโครงข่าย" แต่ประชาชนรู้ทันก็ยังเดินหน้าไปร้องเรียนต่อไป
หลังจากนั้นทางคนที่ทำก็เอายางมะตอยไปราดทับหมุดดังกล่าว
แต่ชาวบ้านาก็ยังไปขุดหาจนเจอหมุดเดิม

นายสนธิกล่าวว่า ประการแรกกรมแผนที่ทหารจะต้องรับผิดชอบต่อกรณีนี้
โดยระบุว่าเจ้ากรมแผนที่ทหารคนเก่าที่เสียชีวิตไปแล้วด้วยโรคมะเร็ง
คือตัวปัญหา มีส่วนร่วมในการยกพื้นที่ประเทศไทยให้กัมพูชา
ซึ่งหมดลักษณะนี้ยังมีอักหลายหมุดที่ร่นเข้ามาในเขตประเทศไทย
ประการที่สอง ตนอยากตั้งคำถามต่อทั้ง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา
ผู้บัญชาการทหารบก , นายประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม,
นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ, และนายอภิสิทธิ์
เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ว่าท่านทราบเรื่องเหล่านี้หรือไม่

นายสนธิกล่าวว่า
เรื่องนี้มีมานานแล้วประเทศไทยไม่เคยรับแผนที่เขตแดนไทย-กัมพูชาอัตราส่วน
1 ต่อ 200,000 เพิ่งจะมีการยอมรับแผนที่อัตราส่วนนี้ครั้งแรกในยุครัฐบาลประชาธิปัตย์เมื่อปี
2543 หลังจากนั้นรัฐบาลไทยก็ยอมรับแผนที่ฉบับนี้มาโดยตลอดไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลไทยรักไทย,
รัฐบาลนายสมัคร (สุนทรเวช), รัฐบาลสมชาย (วงศ์สวัสดิ์),
และรวมถึงรัฐบาลชุด นายอภิสิทธิ์ในปัจจุบัน สรุปว่าพรรคประชาธิปัตย์
กับพรรคเพื่อไทย ล้วนทำให้ไทยต้องเสียดินแดนในสมัยรัชกาลที่ 9
"เรื่องนี้คงเป็นเรื่องเดียวที่ 2 พรรคปรองดองกันได้"

นายสนธิกล่าวว่า "นี่เป็นการขายชาติอีกวิธีหนึ่ง"
ประเทศกัมพูชาเป็นแหล่งซ่องสุมผู้ก่อการร้าย, กบฏ,
ที่มีเป้าหมายล้มล้างชาติศาสนาพระมหากษัตริย์
และยังมีทหารไทยบางคนทรยศชาติให้ความร่วมมือกับทหารกัมพูชาขยับเลื่อนหมุดเข้ามา
หากรัฐบาลวางเฉยต่อเรื่องนี้
ก็เหมือนกับเป็นการสมรู้ร่วมคิดในเรื่องนี้ด้วย

ทาง ASTV
ได้เผยแพร่ภาพในพื้นที่ทับซ้อนชายแดนไทย-กัมพูชาบริเวณเขาพระวิหาร
มีภาพทหารกัมพูชาตั้งค่ายอยู่ในเขตพื้นที่ทับซ้อน
มีภาพทางขึ้นเขาพระวิหารซึ่งมีป้ายภาษากัมพูชา,
มีธงกัมพูชาประดับอยู่มากมาย ที่วัดแก้วก็มีการประดับธงกัมพูชา
มีภาพของการใช้เงินดอลลาร์กันในพื้นที่
นายสนธิกล่าวว่าปัจจุบันในพื้นที่ทับซ้อน 3,000 ไร่
มีแต่ทหารกับชาวกัมพูชาอยู่กันเต็มไปหมด คนไทยเข้าไปไม่ได้แล้ว
ถ้าจะเข้าก็ต้องขออนุญาตจากทหารกัมพูชา พื้นที่เหล่านี้มีรวม 9 จุด เช่น
พื้นที่รอบๆเขาพระวิหาร พื้นที่ 3,000 ไร่
รวมถึงพื้นที่ในหลายจังหวัดทั้งสุรินทร์, บุรีรัมย์, และสระแก้ว

นายสนธิกล่าวว่าตนอยากให้นายกฯหยุดรับโทรศัพท์
นายสาธิตหยุดการจัดอีเวนต์ และหันมาสนใจเรื่องนี้ โดยในวันที่ 3 ก.ค.นี้
ทางเครือข่ายทวงคืนแผ่นดินแม่ จะมีการไปร้องเรียนทวงไปถามจากแม่ทัพภาค 2
นอกจากนี้พรรคภูมิใจไทยที่ประกาศว่ารักชาติก็น่าจะออกมาร่วมเคลื่อนไหวเรื่องนี้
กลุ่มคนเสื้อแดงเองก็น่าจะออกมาเคลื่อนไหวได้เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่การแบ่งสีกัน
แต่เป็นเรื่องของประเทศชาติ รัฐบาลไม่ควรจะมัวแต่สร้างภาพ
คอรัปชั่นโกงกิน
ถ้าจะรับฟังความคิดเห็นประชาชนต้องรับฟังเสียงของคนเหล่านี้
คนที่จะไปเรียกร้องให้ทวงคืนพื้นที่ของประเทศไทย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น