สปสช.เร่งสร้างความรู้ ความเข้าใจ การใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า
ปรับปรุงระบบการส่งรายงานของหน่วยบริการให้เป็นระบบ
เน้นการสร้างสุขภาพของภาคประชาชน
พร้อมกำหนดระเบียบการใช้งบประมาณกองทุนสุขภาพตำบล/เทศบาล ให้ชัดเจน
เมื่อเร็วๆนี้ ที่โรงแรมเจริญธานี อ.เมือง จ.ขอนแก่น
สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) จัดประชุม
รับฟังความเห็นทั่วไปจากผู้ให้บริการและผู้รับบริการ
ตามพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ มาตรา ๑๘ (๑๓) ประจำปี ๒๕๕๓
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อให้คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
ได้รับฟังความคิดเห็นจากผู้ให้บริการ และผู้รับบริการ เพื่อนำมาปรับปรุง
พัฒนาคุณภาพมาตรฐานของบริการสาธารณสุขในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า
โดยมีนายแพทย์ไพจิตร ปวะบุตร กรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
เป็นประธานในการรับฟังความเห็น และมีนายแพทย์วีระวัฒน์ พันธ์ครุฑ
รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.)
เป็นประธานจัดการประชุม
ซึ่งทั้ง ๑๙ จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ได้ส่งตัวแทนผู้เสนอความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ต่อระบบหลักประกันสุขภาพถ้วน
หน้า ประมาณ ๒๐๐ คน แบ่งเป็น ๓ กลุ่ม คือ ๑. กลุ่มผู้รับบริการ
ประกอบด้วย ภาคประชาชน เครือข่ายผู้ป่วย ๒. กลุ่มผู้ให้บริการ ประกอบด้วย
ตัวแทนจากโรงพยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ สาธารณสุข ทั้งภาครัฐ และเอกชนและ
๓. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประกอบด้วย ตัวแทนจากเทศบาล
องค์การบริหารส่วนตำบล องค์การบริหารส่วนจังหวัด
โดยประเด็นรับฟังความเห็นครอบคลุมแนวทางการพัฒนาคุณภาพ
มาตรฐานบริการสาธารณสุข การพัฒนาชุดสิทธิประโยชน์
การเข้าถึงบริการสาธารณสุข รวมถึงการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน
เพื่อสร้างความเป็นเจ้าของร่วมกัน
นำไปสู่ความเข้มแข็งและยั่งยืนของระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้ให้ความเห็นสำคัญใน ๔ ประเด็นหลัก คือ ๑. ให้
สปสช. เร่งสร้างความรู้ ความเข้าใจ ในระบบหลักประกันสุขภาพให้กับประชาชน
เพื่อให้รับรู้สิทธิ หน้าที่ของตนเอง ๒.
ปรับปรุงระบบการส่งรายงานข้อมูลการให้บริการของหน่วยบริการ
ให้เป็นโปรแกรมเดียว เพื่อลดความซ้ำซ้อนและภาระงาน ๓.
กำหนดระเบียบการบริหารจัดการกองทุนสุขภาพตำบล/เทศบาลให้ชัดเจน และ
๔.ให้ความสำคัญกับภาคประชาชน
ในการเข้ามามีส่วนร่วมในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า
นายแพทย์วีระวัฒน์ พันธ์ครุฑ
รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) กล่าวว่า ประเด็น
ที่นำเสนอบางส่วนสามารถนำไปดำเนินการได้เลย
แต่บางเรื่องต้องนำไปผ่านกระบวนการ เช่น การแก้ไขกฎหมาย
การพิจารณาโดยคณะรัฐมนตรี (ครม.) และสำหรับบางเรื่องเป็นเรื่องก้ำกึ่ง
เช่น ภาคประชาชนต้องการให้เกิด
แต่ต้องมีการพิจารณาความเหมาะสมตามหลักวิชาการ เช่น
กรณีบัตรประชาชนใบเดียวใช้ได้ทั่วประเทศ
ภายหลังรับฟังความคิดเห็น นพ.ไพจิตร ปวะบุตร
กรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
กล่าวว่าการแสดงความเห็นที่มีความหลากหลาย ซึ่งหลักประกันสุขภาพ
จะต้องสร้างความสมดุล ทั้งผู้ให้บริการ ผู้รับบริการ สปสช.
และกระทรวงสาธารณสุข
คณะกรรมการหลักประกันฯจะรวบรวมรวมความเห็นทั้งหมดสู่กระบวนการต่อไป
ซึ่งที่ผ่านมาทาง สปสช.ได้นำความคิดเห็นที่ได้ไปปรับปรุงระบบบริการแล้ว
เช่น ข้อเสนอด้านการให้ความคุ้มครองผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์
ซึ่งทำให้ผู้ติดเชื้อได้รับการรักษา คำปรึกษา การให้ยาต้านไวรัส
การขยายบริการคุ้มครองผู้ป่วยไตวายระยะสุดท้าย
ให้ได้รับบริการผ่าตัดปลูกถ่ายไตในกรณีที่สามารถหาไตบริจาคได้
รวมทั้งรับยากดภูมิคุ้มกันต่อเนื่องตลอดชีวิต
การทดแทนไตด้วยวิธีล้างไตผ่านทางช่องท้องอย่างต่อเนื่อง (CAPD)
การยกเลิกการจำกัดการคุ้มครองการเจ็บป่วยฉุกเฉินไม่เกิน ๒ ครั้งต่อปี
เป็นใช้ได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง โดยขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของแพทย์
การใช้บัตรประชาชนแทนบัตรทองเพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับประชาชน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น