++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันศุกร์ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2553

นักดาราศาสตร์เชิญชวนชมปรากฎการณ์ "จันทรุปราคา"

ปราจีนบุรี - นักดาราศาสตร์ เชิญชวนชมปรากฎการณ์ จันทรุปราคา
ในวันที่ 26 มิ.ย.53 สามารถมองเห็นบนท้องฟ้า ทั่วประเทศไทย
ด้านสถานศึกษาทั่วภาคตะวันออกคึกคัก เตรียมตั้งค่ายดาราศาสตร์รอชม

นายวรวิทย์ ตัน วุฒิบัณฑิต
ปราชญ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านดาราศาสตร์ไทย
กล่าวถึงกรณีจะมีจันทรุปราคาบางส่วนทั่วท้องฟ้าประเทศไทย ในวันที่ 26
มิ.ย.53 ซึ่งตรงกับวันสุนทรภู่นั้น โดยความเคลื่อนไหวในภาคตะวันออก
ที่จะเห็นปรากฏการณ์เกิดจากดวงจันทร์ถูกเงาโลกบดบัง
และปรากฏการณ์ในครั้งนี้จะเกิดในช่วงเย็น โดยช่วงเวลาดังกล่าว ประชาชน
เยาวชนและเด็กๆ ยังไม่นอน ดังนั้น
เป็นการสร้างความสนใจในทางดาราศาสตร์เพิ่มทวีคูณ

ปรากฏการณ์จันทรุปราคาครั้งนี้จะเกิดขึ้นในช่วงหัวค่ำ
โดยดวงจันทร์เริ่มบดบังโลกในช่วงเวลา 15.นาฬิกา 57นาที 21วินาที
แต่เป็นช่วงที่มองไม่เห็น
หรือไม่สามารถรับรู้ได้เนื่องจากความแตกต่างน้อยมาก
แต่จะเริ่มเข้าเงามืดจริง ๆ เวลา 17 นาฬิกา 16 นาที 57 วินาที
ซึ่งในช่วงนี้ท้องฟ้ายังไม่มืดหรือดวงจันทร์ยังไม่ขึ้นจากขอบฟ้า
ซึ่งทำให้เรา อาจจะยังสังเกตไม่ชัด

ส่วนจะเห็นชัดสุดนั้น คือช่วงเวลา 18 นาฬิกา 39 นาที 33 วินาที
ช่วงนี้ดวงจันทร์ขึ้นแล้ว ซึ่งจะเป็นจังหวะที่เห็นจันทรุปราคา
และจะสิ้นสุดการคราส ในเวลา 19 นาฬิกา 59 นาที 50 วินาที
ช่วงนี้เป็นโอกาสดีในช่วงหัวค่ำ

นายวรวิทย์ กล่าวต่อไปว่า เหตุกาณ์ดังกล่าว
จะกลับสู่สภาวะปกติในช่วงเวลา 21 นาฬิกา 19 นาที 34 วินาที
ซึ่งเห็นได้ทั่วเมืองไทยทั้งหมด ประเทศจีน ญี่ปุ่น อินเดีย
จะเห็นปรากฎการณ์เมื่อดวงจันทร์ขึ้น
ส่วนสหรัฐอเมริการเห็นเมื่อดวงจันทร์ตก
ส่วนประเทศในเอเชียตะวันออกและยุโรป จะไม่เห็นปรากกการณ์ดังกล่าว

สำหรับปรากฎการณ์ในครั้งนี้ ทางสถานศึกษาภาคตะวันออก
ที่จัดค่ายดาราศาสตร์ชมปรากฏการณ์ ได้แก่ โรงเรียนชลราษฎรอำรุง อ.เมือง
จ.ชลบุรี มีการตั้งกล้องดูดาวเพื่อบันทึกภาพ ให้นักเรียนประชาชนได้ชม
,โรงเรียนเบญจมราชรังสฤษฎ์ฉะเชิงเทรา อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา
และโรงเรียนไผ่แก้ววิทยา อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา มีกิจกรรมตั้งกล้องดูดาว
และถ่ายภาพทางดาราศาสตร์สมบูรณ์แบบ ขณะเกิดปรากกการณ์
ดวงจันทร์เข้าไปในเงาของโลกทอดผ่านดังกล่าว
ที่สามารถดูได้ง่ายเป็นสิ่งน่าสนใจ

"ตนต้องการให้นักเรียนและประชาชนเก็บเกี่ยวประสบการณ์เรื่อง
เงาโลกบังดวงจันทร์ ทางธรรมชาตินี้ อาจมีบางคนนำไปสร้างสิ่งงมงาย
และอย่าไปเชื่อถือ เพราะทางวิทยาศาสตร์สามารถพิสูจน์ได้โดย เกิดนานประมาณ
1 ชั่วโมง" นายวรวิทย์ กล่าว

2 ความคิดเห็น:

  1. เจ้าเงาที่บังกันและกันนี้ ทางวิทยาศาสตร์บอกว่า "ไม่เห็นเป็นไร" มันเป็นเรื่องของ...ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ!
    แต่ในทางโหราศาสตร์ถือว่า "สำคัญมาก" สำคัญยังไง ก็เขาเก็บเป็นสถิติต่อเนื่องกันไว้เป็นร้อย เป็นพันปีว่า...จดไว้ จนเป็นศาสตร์แห่งวิชาการให้ศึกษาถึงทุกวันนี้

    ไอ้พวกรู้น้อย หรือไม่รู้เรื่องเลย ก็พลอยรำคาญ ดูหมิ่น-ดูแคลนวิชาโหราศาสตร์จากคนที่เรียกกันว่า "หมอดู" นำมาทำนายทายทัก ความจริงโหราศาสตร์ก็คือศาสตร์ที่ประกอบด้วยหลักวิทยาศาสตร์ ดาราศาสตร์ สถิติศาสตร์ คำนวณศาสตร์ ประวัติศาสตร์ นรลักษณ์ศาสตร์ รวมออกมาเป็น "พยากรณ์ศาสตร์"
    เป็นศาสตร์ล้ำลึก ใช่ว่าใครจะเรียน จะรู้ชนิดเข้าถึงกันได้ง่ายๆ...ว่าไว้ในคอลัมน์ของคุณเปลว แสงเงินวันนี้

    ตอบลบ
  2. ทั้งปี ๒๕๕๓ จะเกิดสุริยคราสและจันทรคราส รวม ๕ ครั้ง เกิดไปแล้วตั้งแต่ต้นปี ๒ ครั้ง ครั้งแรกเป็นจันทรคราส ที่ราศีเมถุน ธาตุลม เมื่อวันที่ ๑ มกรา และห่างมาไม่กี่วัน คือวันที่ ๑๕ มกรา ก็เกิดสุริยคราสวงแหวน ที่ราศีมังกร ธาตุดิน เมื่อบนฟ้าเป็นอย่างนี้ แล้วบนดินตรงตามสถิติมั้ย?

    รากเลือดกันทั้งพารา (วินเซอร์) แล้วยังจะต้องให้บอกอีกหรือ!? วันเสาร์ที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๕๓ ที่จะถึงปลายเดือนนี้ เป็นวันจันทร์เพ็ญปุรณมี ก็จะเกิดคราสครั้งที่ ๓ เป็นจันทรคราสแบบบางส่วน ที่ราศีธนู ธาตุไฟ และบังเอิญเป็นวันโลกาวินาศด้วย

    มันก็น่ากลัวทั้ง "ไอ้หินมหาโหด-ไอ้โฉดมหาชั่ว" จะก่อการใหญ่ ชนิดไม่มีการต่อรอง ไม่มีความเมตตาปรานีต่อผู้ใด ไฟก็อาจจะแดงฉานได้อีก หรือไม่ "ภัยทางธรรมชาติ" และโรคระบาดใหม่ๆ จะมาทำลายผู้คน.....

    ทุกท่านเป็นเจ้าภาพ ร่วมปฏิรูปประเทศไทยและ 3 โลกกันที่ http://www.ainews1.com/modules.php?name=Web_Board&file=view&No=235 ตรงไปที่คำตอบ #50

    ตอบลบ