ทั้งปริมาณน้อย ขณะที่เขื่อนลำปาว เหลือน้ำกักเก็บแค่ 30%
ทั้งเกรงเขื่อนอาจเลื่อนเปิดน้ำชลประทานลากยาวไปถึงต้นเดือนกรกฎาคม
ส่วนชาวนาไม่ท้อ ไถนารอฝนแล้ว
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจตามคลองชลประทาน จ.กาฬสินธุ์
ในพื้นที่ 5 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เมือง, อ.กมลาไสย, อ.ยางตลาด, อ.ร่องคำ
และ อ.ฆ้องชัย ขณะนี้ทางโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว
กำลังเร่งระดมคนซ่อมแซมคลองชลประทานพร้อมกับขุดลอก
เพื่อรอรับการระบายน้ำที่ทางเขื่อนลำปาวจะมีการเปิดการระบายน้ำเพื่อการทำนาฤดูกาลผลิต
2553 โดยมีกำหนดวันเปิดระบายน้ำในวันที่ 21 มิ.ย.นี้
นายหนูหลอด เหล่าศรี ชาวนา อ.เมืองกาฬสินธุ์ กล่าวว่า
ปีนี้ฝนตกน้อยและมาช้ามาก เกรงว่าน้ำจะไม่พอกับการทำนาข้าว
แต่ต้องทำเพราะไม่มีทางเลือก อย่างน้อยปลูกข้าวไว้กิน ภาวะแล้งปีนี้
น่าจะมีความรุนแรงกว่าปีที่ผ่านมา
วัดจากปริมาณฝนตกลงมาในพื้นที่ไม่เพียงพอ สิ่งที่พอทำได้ คือ
ไถนารอฝนเท่านั้น แม้เขื่อนลำปาวปล่อยน้ำมาให้ชาวนาทำนาปี
ก็ไม่รู้ว่าน้ำจะเพียงพอต่อการทำการทำนาหรือไม่
ปัจจุบันระดับน้ำในเขื่อนมีน้อยมาก
ทั้งนี้ รายงานสถานการณ์น้ำล่าสุด
เขื่อนลำปาวมีน้ำที่เก็บกักอยู่เพียง 431 ล้านลูกบาศก์เมตรคิดเป็นร้อยละ
30 จากความจุอ่าง 1,430 ล้านลูกบาศก์เมตร
แต่จะสามารถใช้น้ำทั้งหมดได้เพียงร้อยละ 23 เท่านั้น
ขณะที่สถิติปริมาณน้ำที่ไหลเข้าอ่างตั้งแต่เดือนมกราคาจนถึงปัจจุบันมีน้ำไหลเข้าอ่างเพียง
81 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำหากเทียบกับปีที่ผ่านๆ มา
จากการปล่อยข่าวว่า เขื่อนลำปาวจะเลื่อนเปิดน้ำจากกำหนดเดิม 21
มิ.ย.เป็นต้นเดือน ก.ค.ด้วยเหตุน้ำไหลเข้าอ่างน้อย ฝนตกไม่ตรงตามเป้า
ทำให้ชาวบ้านในเขตชลประทาน 5 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เมือง อ.กมลาไสย
อ.ยางตลาด อ.ร่องคำ และ อ.ฆ้องชัย เกิดความวิตกกังวลมาก
ด้านเจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดสรรน้ำโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว
แจ้งว่า ขณะนี้ทางเขื่อนยังไม่มีการเลื่อนเปิดน้ำ
โดยยังอิงกับประกาศชุดเดิม คือ การเปิดน้ำอย่างเต็มระบบจะเริ่มในวันที่
21 มิ.ย.นี้เป็นต้นไป โดยการปล่อยน้ำเพื่อให้เกษตรกรได้ทำนาปีตามฤดูกาล
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น