++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพฤหัสบดีที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2553

แห่ชม "เมืองบาดาล" โผล่พ้นน้ำที่กาญจน์หลังจมอยู่ใต้เขื่อนมานาน 27 ปี

กาญจนบุรี - นักท่องเที่ยวแห่ชมเมืองบาดาลโผล่พ้นน้ำครั้งประวัติศาสตร์ที่กาญจนบุรี
หลังจมอยู่ใต้เขื่อนเขาแหลมมานานกว่า 27 ปี หากน้ำไม่แห้งขอดคงไม่ได้เห็น
ด้านจังหวัดหวังผลักดันนักท่องเที่ยวเข้าชมก่อนน้ำจะท่วมอีก 2 เดือน

วันนี้ (16 มิ.ย.) นายชัยวัฒน์ ลิมป์วรรณธะ
รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมคณะเดินทางไปที่หมู่ 2 ต.หนองลู
อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี หลังจาก อ.สังขละบุรี
ประสบปัญหาภัยแล้งอย่างหนัก
เป็นเหตุทำให้ทะเลสาบซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเขื่อนเขาแหลมแห้งขอด
ทำให้เมืองบาดาลที่จมอยู่ใต้น้ำมาเป็นเวลากว่า 27 ปี
ตั้งตระหง่านอยู่บนพื้นดิน
และมีนักท่องเที่ยวเดินทางไปเยี่ยมชมเมืองบาดาลเป็นจำนวนมาก

นายชัยวัฒน์ ลิมป์วรรณธะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี
กล่าวว่า สำหรับเมืองบาดาลนั้นอดีต คือ วัดวังก์วิเวการามเดิม
ที่หลวงพ่ออุตตมะ เป็นผู้ก่อสร้างขึ้นมา เมื่อปี 2496 โดยมีชาวกะเหรี่ยง
และชาวมอญ ที่อพยพเข้ามาช่วยกันก่อสร้าง ในบริเวณดังกล่าวเรียกว่า
สามประสบ ซึ่งเป็นจุดที่แม่น้ำสามสาย คือ แม่น้ำซองกาเลีย แม่น้ำบีคลี่
และแม่น้ำรันตีไหลผ่าน

ต่อมาในปี 2527 มีการก่อสร้างเขื่อนเขาแหลม
ทำให้น้ำเข้าท่วมอำเภอสังขละบุรีเก่ารวมทั้งวัดนี้ด้วย
หลวงพ่ออุตตมะจึงได้ย้ายวัดมาอยู่บนเนินเขา
ส่วนวัดเดิมได้จมอยู่ใต้น้ำมาเป็นเวลากว่า 20 ปี
โดยในช่วงฤดูแล้งช่วงเดือน มีนาคม-เมษายน น้ำจึงจะลด
ทำให้สามารถมองเห็นโบสถ์ของวัดได้อย่างชัดเจน
และนักท่องเที่ยวสามารถนั่งเรือไปเที่ยมชมได้
แต่ในช่วงน้ำขึ้นน้ำจะท่วมสูงเกือบทั้งหมด
เหลือเพียงยอดโบสถ์ให้เห็นเท่านั้น
และกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของอำเภอสังขละบุรี ในชื่อเมืองบาดาล

แต่ในวันนี้อำเภอสังขละบุรี ประสบกับปัญหาภัยแล้งเป็นอย่างมาก
ทางเขื่อนมีความจำเป็นที่จะต้องระบายน้ำเพื่อนำไปช่วยเหลือเกษตรกร
ประกอบกับปีนี้ฝนตกลงมาช้ากว่าปกติ
ทำให้ทะเลสาบที่ท่วมวัดวังก์วิเวการามเกิมมากว่า 20 ปีลดลงจนแห้งขอด
ทำให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวเมืองบาดาลสามารถเดินเข้าเยี่ยมชมโบสถ์ได้อย่างสะดวก

แต่อย่างไรก็ตาม อีกประมาณ 2 เดือนข้างหน้า คาดว่า
น้ำก็จะกลับมาท่วมเหมือนเดิม
จึงอยากให้นักท่องเที่ยวที่ต้องการมาเยียมชมโบสถ์ และศาลาการเปรียญ
ของวัดวังก์วิเวการามเดิมอย่างใกล้ชิด ขอให้เดินทางมาก่อนเดือนสิงหาคม
ที่จะถึง ซึ่งเหลืออีกประมาณ 2 เดือนเท่านั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนักท่องเที่ยวจะได้เยี่ยมชมโบสถ์
ที่ถูกน้ำท่วมมาเป็นเวลานานแล้ว
ยังสามารถได้ชมพื้นที่ที่เป็นที่ว่าการอำเภอสังขละบุรีเก่าได้
โดยจะพบว่าจุดที่เป็นที่ว่าการอำเภอเก่าจะมีหมุดปูนสี่เหลี่ยม กว้าง 1
ฟุต ยาว 1 ฟุต แสดงเป็นที่ตั้งของที่ว่าการอำเภอ
และมีร่องลอยในอดีตหลงเหลือให้เห็นอยู่ ซึ่ง นายชัยวัฒน์ ลิมป์วรรณธะ
รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้มอบหมายหน้าที่ให้ อำเภอสังขละบุรี
เทศบาลตำบลวังกะ จัดอบรมให้ความรู้ให้กับเด็กๆ
ที่อยู่ในพื้นที่ให้เป็นมัคคุเทศน้อยขึ้นมาเพื่อแนะนำให้นักท่องเที่ยวทราบข้อมูลที่แท้จริงอีกด้วย

http://moncheri-raft.blogspot.com/
ที่พักที่สังขละบุรี คะ
มอญเชรี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น