ร่วมองค์กรเอกชน 32 องค์กร ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 4
ร้องรัฐหยุดก่อสร้างถนนธนะรัชต์ทางขึ้นเขาใหญ่อย่างเด็ดขาด
นัดรวมพลยื่นฟ้องศาลปกครองกลางเอาผิดกรมทางหลวงและกระทรวงคมนาคม
พร้อมขอคุ้มครองฉุกเฉิน 18 มิ.ย.นี้
เผยรัฐบาลต้องจริงใจเร่งฟื้นฟูระบบนิเวศ 2 ข้างทาง
โดยเปิดเวทีร่วมหน่วยงานรัฐกับ ปชช.ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเป็นการด่วน
วันนี้ (16 มิ.ย.) เมื่อเวลา 11.00
น.ที่ศูนย์ข้อมูลท้องถิ่นเพื่อการพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏ(มรภ.)
นครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา
กลุ่มเครือข่ายประชาชนอนุรักษ์มรดกโลกเขาใหญ่ ร่วมกับองค์กรภาคเอกชนรวม
32 องค์กร นำโดย ทพ.ศุภผล เอี่ยมเมธาวี ผู้ประสานงานเครือข่าย พร้อมด้วย
ผศ.ดร.สามารถ จับโจร ประธานภาคีคณาจารย์และนักศึกษา มรภ.นครราชสีมา,
อ.วรชัย ยงพิทยาพงษ์ นักวิชาการ, นายธงชัย แสงประทุม
เลขาธิการเขามูลนิธิเขาใหญ่ ได้ร่วมกันอ่านแถลงการณ์ฉบับที่ 4 เรียกร้อง
ขอให้รัฐเร่งฟื้นฟูสภาพระบบนิเวศ 2 ข้างทางถนนสาย 2090 ถนนธนะรัชต์
อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ทางขึ้นสู่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และ
สร้างคุณค่าของชุมชนหนองน้ำแดงให้เกิดขึ้นอย่างแท้จริง
ทพ.ศุภผล เอี่ยมเมธาวี
ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนอนุรักษ์มรดกโลกเขาใหญ่ เปิดเผยว่า
หลังคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้ระงับการก่อสร้างขยายถนนธนะรัชต์
ต.หนองน้ำแดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
เส้นทางเข้าสู่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่มรดกโลก จาก 2 ช่องจราจร เป็น 4
ช่องจราจร ทางกลุ่มได้ลงพื้นที่เพื่อพูดคุยผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
คือ นายก อบต.หนองน้ำแดง และประชาชน พบว่า
ประชาชนอยากให้รัฐบาลเร่งฟื้นฟูระบบนิเวศทางธรรมชาติสองข้างทางถนนธนะรัตช์ดังกล่าว
โดยเสนอแนวทางและกรอบการแก้ไข ดังนี้ ขอให้รัฐบาลร่วมพัฒนา
ปรับปรุงชุมชนหนองน้ำแดงให้กลายเป็นชุมชนท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ระบบนิเวศ
ที่ทุกคนจะเริ่มต้นอย่างมีจิตสำนึกในการพิทักษ์รักษาและหวงแหนผืนป่าเขาใหญ่
จนเกิดคุณค่าและอรรถประโยชน์ชัดเจน ทั้งต่อชุมชนและนักท่องเที่ยว
ให้ปรับสภาพภูมิทัศน์และฟื้นฟูระบบนิเวศจาก กม.ที่ 2-5 เป็นถนน 4
เลน ที่ร่มรื่น สวยงามและปลอดภัย ส่วนจาก กม.ที่ 6-กม.ที่ 10 เป็นถนน 4
เลน เรียวสอบเข้าเป็น 2 เลนที่ กม.ที่ 10-11 ทำให้สอดคล้อมกลมกลืน
สวยงามกับสภาพระบบนิเวศ ตั้งแต่ กม.ที่ 11 เป็นต้นไป
รวมทั้งหลักเลี่ยงสภาพคอขวดแบบกระชั้นชิด
ที่อาจก่อปัญหาจราจรอย่างรุนแรงได้ และฟื้นฟูสภาพระบบนิเวศ 2
ข้างทางจากหลัก กม.ที่ 11-24 อย่างจริงจัง
ทั้งป้องกันไม่ให้มีการขยายถนนจนทำลายสภาพป่า
และระบบนิเวศในอนาคตข้างหน้าอีก
ทพ.ศุภผล กล่าวว่า
ข้อเสนอทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นได้อย่างแท้จริงต้องให้รัฐบาล โดยมี
นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี
เป็นตัวแทนในการเปิดเวทีร่วมอย่างเร่งด่วนระหว่างหน่วยงานของรัฐทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องและประชาชนทุกฝ่าย
ที่สำคัญ ต้องไม่ทำเวทีประชาพิจารณ์แบบผิวเผิน
เหมือนที่เคยทำมาแล้วเมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมาของกรมทางหลวง ฉะนั้น
เพื่อให้มีเป็นหลักประกันที่แท้จริงในการแก้ไขปัญหาถนนสาย 2090
และมีการสร้างคุณค่าพร้อมอรรถประโยชน์ให้เกิดขึ้นแก่ชุมชนหนองน้ำแดง
ทางเครือข่ายภาคประชาชนมีมติร่วมกันประกอบด้วย
1.องค์กรเครือข่ายภาคประชาชนฯ ร่วมกับสมาคมต่อต้านโลกร้อน
จะยื่นเรื่องฟ้องศาลปกครองกลาง ถ.แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ ในวันที่ 18 มิ.ย.
นี้เวลา 10.00 น.เพื่อเอาผิดกับกรมทางหลวงและกระทรวงคมนาคม
2.จะยื่นหนังสือพร้อมหลักฐานต่างๆ ต่อคณะกรรมการและบุคคล ดังนี้
คือ ศ.ดร.อมรา พงศาพิชญ์ ประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
เพื่อนำเรื่องนี้ตรวจสอบการละเมิดสิทธิชุมชน
และละเมิดสิทธิของประชาชนทั้งหมดที่ร่วมกันเป็นเจ้าของมรดกโลก
พร้อมทั้งจะยื่นหนังสือต่อ น.ส.รสนา โตสิตระกูล
ประธานคณะกรรมาธิการศึกษาและตรวจสอบการทุจริตและธรรมาภิบาล วุฒิสภา
เพื่อให้ตรวจสอบโครงการขยายถนนสาย 2090
และการปฏิบัติราชการทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องเรื่องการทุจริตคอร์รัปชัน
รวมถึงการตัดไม้ทำลายป่า และคำสั่งอนุญาตให้ตัดไม้ย้อนหลัง
รวมถึงผู้ที่เข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น บริษัทรับเหมาก่อสร้าง
ข้าราชการกรมทางหลวง กรมทรัพยากรธรรมชาติ กรมป่าไม้ โดยจะยื่นที่รัฐสภา
นอกจากนี้ จะเข้ายื่นหนังสือ ต่อ คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา
ผู้ว่าตรวจเงินแผ่นดิน ตรวจสอบรายรับรายจ่ายการใช้จ่ายโครงการนี้ทั้งหมด,
ยื่นหนังสือถึงคณะกรรมาธิการท่องเที่ยวของวุฒิสภา
ตรวจสอบการทำลายสภาพการท่องเที่ยวเขาใหญ่ และ ศ.ศรีราชา เจริญพานิช
ผู้ตรวจการแผ่นดิน ให้ตรวจสอบโครงการสร้างถนสาย 2090
และการตัดไม้สองข้างทางจำนวน 228 ต้น
เพื่อให้แต่ละคณะได้ทำหน้าที่ตามอำนาจหน้าที่ของตนเอง
ทพ.ศุภผล กล่าวต่อว่า การยื่นฟ้องศาลปกครองกลาง
เราขอแจ้งเหตุผลว่า
เพื่อเป็นหลักประกันในการที่จะทำให้เครื่องจักรและโครงการนี้ระงับการก่อสร้าง
จนกว่าจะทำอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งในท้ายคำฟ้อง
เป็นคำร้องขอต่อศาลปกครอง ว่า
1.ขอให้ศาลปกครองพิพากษาหรือสั่งให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 และที่ 2
คือ กรมทางหลวง และกระทรวงคมนาคม
สั่งการให้ผู้รับเหมาโครงการหรือผู้ที่เกี่ยวข้องระงับการดำเนินโครงการหรือกิจกรรมการขยายหรือปรับปรุง
ถ.ธนะรัตช์ หรือ ถนนสาย 2090 ตลอดสายไว้ก่อน จนกว่าผู้ถูกฟ้องคดีทั้ง 1
และ 2 จะปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยมาตรา 67 วรรคสอง
ประกอบพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ.2535
จนเสร็จสิ้นสมบูรณ์ครบถ้วนแล้วเสียก่อน
และ 2.ขอให้ศาลพิพากษาหรือสั่งให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 และ 2
ปรับปรุงฟื้นฟูสภาพความเสียหายที่เกิดขึ้นตลอดแนวถนนธนะรัชต์ หรือถนนสาย
2090 ให้กลับมามีสภาพคล้ายดังเดิมหรือเหมือนเดิมมากที่สุดภายใต้กระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนตามกฎหมาย
โดยเปิดโอกาสให้มีกระบวนการรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมดอย่างรอบด้านเสียก่อน
ทั้งนี้ขอคุ้มครองฉุกเฉินให้ระงับทันที
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น