ไม่มีการจัดเวรทำความสะอาดในบ้าน ปล่อยให้เหม็น
เด็กเอาแต่นั่งๆนอนๆรอขอเงิน ป้าน้อยแกก็ให้แต่เงินเด็ก สอนอย่างสองอย่าง
อย่างแรกสอนให้เด็กท่องบทความขอบคุณผู้ที่มาบริจาค อย่างที่2
สอนให้เด็กด้วยกันไปเกณฑ์เพื่อนๆแถวบ้านให้มารวมตัวกันที่บ้านป้าน้อย
เวลามีคนมาบริจาคเงินและสิ่งของ
สงสารคนบริจาคจริงๆครับ ที่หลงคิดว่าเด็กๆทั้งเจ็ดสิบกว่าคน
อยู่ในบ้านป้าน้อยจริง ที่แท้กลับอยู่กันแค่สิบกว่าคนเท่านั้น
คนที่บริจาคให้มากๆป้าแกก็จะต้อนรับอย่างดีมาก แต่คนที่บริจาคแบบน้อยๆ
เจียดเงินเดือนตัวเองมาบริจาคให้ป้าน้อย
แต่ถูกป้าน้อยทำเป็นไม่สนใจเห็นเศษเงินที่เขาให้มาดูเหมือนไร้ค่า
ส่วน เด็กๆที่อยู่กับพ่อแม่แต่มาขอเงินป้าน้อย
ขอบอกว่าพ่อแม่ของเด็กเหล่านั้นว่า"เลวมากๆ"โยนความทุกข์ไปให้คนอื่น
แต่ตัวพ่อแม่มันเองสบายตัว
แล้วยังมีหน้ามาให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวแบบหน้าม้าว่า สงสารครูน้อย
ครูน้อยลำบากมาก แล้วป้าน้อยลำบากเพราะใครละ?ถ้าไม่ใช่คนเลวอย่างพวกมรึง
เอาลูกๆของพวกมรึงมาเกาะมาดูดเงินป้าน้อย....
ฝากบอกคนที่คิดจะมาบริ จาคเงินช่วยเหลือป้าน้อยว่า
ได้โปรดไปบริจาคที่อื่นเถอะครับ
เด็กกำพร้าและเด็กพิการที่อยู่ในการดูแลจริงๆของที่อื่นมีเยอะกว่าที่บ้าน
ป้าน้อย ลำบากกว่าบ้านป้าน้อยมากมายครับ และจะได้บุญกุศลเต็มๆด้วย
เพราะเด็กๆในมูลนิธิต่างๆที่ไม่ใช่บ้านป้าน้อย
จะได้รับเงินและสิ่งของบริจาคครบทุกๆคน
เด็กๆพวกนี้ขาดความอบอุ่นจริงๆครับ ไม่ครึ่งๆกลางๆอย่างบ้านป้าน้อย
ช่วยๆกันนะครับ ถ้าไปบริจาคที่อื่น พวกท่านจะได้ทำบุญอย่างมีความสุข
และผู้รับก็มีความสุข สุขทั้งผู้ให้และผู้รับ
และเป็นการทำบุญที่ได้บุญอย่างแท้จริงครับ.....
ปล.ย้ำนะครับต้องไม่ใช่ที่บ้านป้าน้อย
เกลียดโสภณ ซาเล้ง
เห็นด้วย และไม่ควรมีการ "ปลดหนี้" ต่อไปจะกลายเป็นว่า
ใครไปกู้หนี้ยืมสินมา (ถึงจะนอกระบบก็ตาม) แต่พอส่งไม่ไหวก็จะมาฟ้องตำรวจ
ขอให้ไปไกล่เกลี่ยให้หรือให้เจ้าหนี้ลดหนี้ให้ มันไม่ยุติธรรม
การเป็นหนี้คืออย่างไรๆคุณก็ต้องใช้หนี้นั้นคืนเจ้าหนี้อยู่ดี มันมีแต่
"ประนอมหนี้" ไม่มี "ปลดหนี้"
การปลดหนี้ที่แท้จริงคือคุณต้องมีเงินไปคืนเจ้าหนี้เท่านั้นคือการปลดหนี้
จริงๆ อีกอย่าง การเป็นหนี้ถึง 8 ล้านกับการเลี้ยงเด็กแค่ 20 คน
เท่ากับว่า เด็กคนหนึ่งต้องใช้เงินในการเลี้ยงดูสี่แสนกว่าบาทเชียวหรือ
(สี่แสนเนี่ยเรียนโทเมืองนอกได้สองเทอมเลยนะหรือเรียนมอเอกชนจนจบได้เลยนะ)
แล้วเด็กพวกนี้เรียนรร.รัฐไม่ใช่หรือ (หรือเรียนรร.อินเตอร์??)
อีกอย่างที่ไม่เห็นด้วยคือ การให้เด็กรับเงินสดอย่างเดียวไปวันๆ
เท่ากับสอนให้เขาเอาแต่ "กินปลา" แต่ "จับปลามากิน" ไม่เป็น
ไม่ทำตามพระราชดำรัสเลย จนอยู่แล้วแล้วไม่สอนให้ขยัน
ชาตินี้ก็คงจนไปเรื่อยๆน่ะแหละ
ไม่เห็นด้วยกับวิธีการเลี้ยงเด็กแบบนี้ของบ้านหลังนี้ อีกอย่าง
มีเด็กโตระดับอุดมศึกษาที่ข่าวว่าได้เงินวันละ 100 บาทไปเรียน
เด็กอายุเกิน 18 ควรหาเงินค่าขนมเองได้แล้ว
(ถึงแม้อาจยังไม่มีกำลังพอที่จะหาค่าเทอม) แต่ต้องหาเงินค่าขนมเองได้บ้าง
เพราะโตจนทำงานได้แล้ว ไม่ใช่ครูน้อยมาจ่ายรายวันไปวันๆ
ไม่เห็นดัวยกับตำรวจคนนี้ที่ออกหน้ามาช่วยแบบนี้
(นึกถึงข่าวที่เขาช่วยผู้หญิงขโมยของที่โลตัส)
ไปช่วยอย่างอื่นดีกว่าไหมที่สมหน้าที่ตำรวจจริงๆ
และไม่ควรมีการเปิดบัญชีเพื่อให้คนเข้ามาบริจาคช่วยปลดหนี้ 8 ล้านอีก
คนมีเงินเดือนทั่วไปๆเขาก็มีหนี้กันทุกคนแหละ ผ่อนบ้านผ่อนรถ
เหตุใดต้องไปปลดหนี้ 8 ล้านให้คนอื่นที่บริหารเงินไม่เป็นด้วย
แถมบอกว่าต่อไปจะทำอย่างเดิม (ไม่มีบัญชีรายรับรายจ่าย เพราะอะไร
แล้วที่บอกว่าจ้างคนทำบัญชีรายวันๆละ 2500 บาท/วัน
บัญชีอันนั้นไม่เอามาแสดงเพื่อ clear ตัวเองหรือ)
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไม่ make sense ที่สุดที่เคยได้ยิน
เพราะมีความไม่ชอบมาพากล ครูน้อย clear ตัวเองก่อนดีไหม
ก่อนออกมาขอความเห็นใจจากสังคม สังคมพร้อมเห็นใจถ้าสิ่งนั้นขาวสะอาด
Wellness
เด็กโตก็มีให้รู้จักทำงานซิเด็กข้างนอกบางคนจนกว่านี้ก็มีสมัยเรียนหนังสือ
มีเพื่อนอยู่คนหนึ่งชอบหยุดวันศุกรครูจึงสงสัยตามไปดูปรากฎว่ากำลังแบกปูนทำ
งานก่อสร้างอยุ่พอดี
ครูเลยถามเขาทำไมจึงไม่มาเรียนเขาบอกว่าเงินจะหมดวันพฤหัสทุกครั้งเลยต้องทำ
งาน 3 วันต่ออาทิตย์พ่อตายแม่ยากจนทำงานไม่ไหว
สำหรับครูน้อยผมคิดแล้วดูแปลกเหมือนเอาเด็กมาหากินหรือเปล่าน่าจะลองสืบดู
เคยเป็นบ๋อยหาเงินเรียน
อยากให้สื่อfreetvทุกช่องเข้าไปเจาะลีกเบื้องหน้าและเบื้องหลังอย่างจริงจัง
กับเรื่องครูน้อยอย่างน้อยเพื่อทำให้คนที่บริจากเงินรู้สึกสบายใจในการ
บริจาคและเพื่อความยุติธรรมสำหรับเจ้าหนี้ด้วยไม่ใช่เวลาเดือดร้อนขอให้เขา
ช่วยแต่เวลาไม่มีเงินจ่ายคืนไปขอร้องให้ตำรวจมาพูดออกสื่อซึ่งดูแล้วมัน
เหมือนไม่ยุติธรรมกับเจ้าหนี้เหมือนกันคิดว่าคนส่วนใหญ่ก็อยากรู้ความจริง
เหมือนกันอยากจะช่างน้ำหนักดูเหมือนกันว่าความจริงที่ได้รับกับความต้องการ
ให้เจ้าหนี้ยกหนี้ให้มันสมน้ำสมเนื้อกันมั๊ย
wich
ป้าน้อยเลี้ยงเด็กแบบเจ้าแม่
สักแต่เอาเงินฟาดหัวเด็กเพื่อให้ตัวเองได้ชื่อว่าเป็นคนดี
ถ้าป้าน้อยทำงานหาเงินเองแล้วเอาเงินตัวเองไปฟาดหัวเด็กอย่าสุรุ่ยสุร่ายจะไม่มีใครว่าเลย
แต่นี่ตัวเองก็ไม่มีปัญญาจะเลี้ยงตัวเองให้รอด
มีชีวิตอยู่ได้ด้วยเงินบริจาคแต่กลับมาทำตัว
อย่างกะเจ้าแม่พิมพ์แบงค์ใช้เองได้
,,,คนจนจำนวนมาก จนเงินแต่ไม่จนความคิด
แต่คนจนอย่างป้าน้อยเรียกได้ว่าจนหมดทุกอย่างไม่มีแม้แต่ความคิด
ป้าทำบาปมากๆรู้มั้ยเอาเงินบริจาคไปใช้ผิดๆ
ครูน้อยไม่ได้รำรวยแต่มีจิตเมตตาช่วยเด็กยากจน
บางครั้งของบริจาคไม่ใช่ของที่เด็กต้องการ
แต่การให้เงินจะทำให้เด็กได้รับสิ่งของที่ตรงกับความต้องการมากกว่าค่ะ
คนทำดี อย่าด่าว่ากันเลยค่ะ
คุณตำรวจคนนั้นดิฉันว่าท่านก็กรุณาทำสิ่งที่ดีนะคะ
ทำไมคนทำดีจึงต้องถูกด่าด้วย
สังคมไทยต้องการคนมีจิตอาสาแบบนี้เยอะๆค่ะ
ไม่เห็นต้องแบ่งแยกว่าเป็นหน้าที่ของใคร
ทุกอาชีพนั่นแหละมาช่วยกันดูแล
ผู้ด้อยโอกาสกันเถอะค่ะ
ครูภูเก็ต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น