++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันเสาร์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

สธ.ชวนออกกำลังกาย ชี้สู้หวัดได้ไม่ต้องพึ่ง "วัคซีน"

สธ.ชวนออกกำลังกาย ชี้สู้หวัดได้ไม่ต้องพึ่ง "วัคซีน"

โฆษกกระทรวง สาธารณสุข แนะคนไทยที่ยังไม่ป่วย
ให้ออกกำลังกายเป็นประจำสัปดาห์ละ 5 วันๆ ละ 30 นาที อย่างสม่ำเสมอ
เป็นวิธีการสร้างภูมิต้านทานโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ในร่างกายได้
และลดโอกาสติดเชื้อไวรัสและแบคทีเรียได้อย่างดี โดยไม่ต้องพึ่งวัคซีน
ชี้การออกกำลังกายแต่ละครั้งอย่าหักโหม
เพราะมีผลช่วยเสริมฤทธิ์ระบบภูมิต้านทานโรคในการเฝ้าระวังดักจับกินเชื้อโรค
ไม่ให้โจมตีร่างกาย

นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข
ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ เอช1เอ็น1 ว่า
โรคนี้สามารถป้องกันได้ 2 วิธี คือ การฉีดวัคซีนและการออกกำลังกาย
เพื่อเพิ่มความเข้มแข็งระบบภูมิต้านทานโรคที่ประชาชนมีอยู่ทุกคนอยู่แล้ว
แต่อาจมากน้อยแตกต่างกันตามระดับความแข็งแรงและอายุ
จึงแนะนำให้ประชาชนไทยที่ไม่เจ็บป่วยใดๆ
ใช้วิธีการออกกำลังกายแทนการพึ่งวัคซีนป้องกันโรค
ซึ่งวิธีนี้ทำได้ง่ายและไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย

ทั้งนี้ จากการทบทวนวิชาการ พบการออกแรงหรือออกกำลังกาย
จะช่วยสร้างภูมิต้านทานได้ดี
ลดโอกาสในการติดเชื้อไวรัสที่ระบบทางเดินหายใจได้
โดยต้องออกกำลังแบบแอโรบิค ด้วยความแรงระดับปานกลาง
ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของภูมิต้านทานในทางที่ดีขึ้น
การออกกำลังแต่ละครั้งก็ช่วยเสริมฤทธิ์ของระบบภูมิต้านทานในการเฝ้าระวังดัก
จับกินเชื้อโรค ซึ่งในระยะยาวปรากฏว่าช่วยลดโอกาสของการติดเชื้อลงได้ ตรง
กันข้ามหากออกกำลังหักโหมหรือรุนแรง หรือออกกำลังเป็นเวลานานกว่า 90 นาที
จะทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนเครียดและสารซัยโตคายน์ (Cytokines)
ซึ่งมีฤทธิ์กดภูมิต้านทานเพิ่มมากขึ้น ทำให้ภูมิต้านทานโรคในร่างกายลดลง
โดยจะลดลงภายหลังออกกำลังกายอย่างหักโหมประมาณ 3-72 ชั่วโมง
ทำให้เกิดช่องว่างที่เชื้อไวรัสและแบคทีเรียรุกเข้าโจมตีร่างกายได้ง่าย

นพ.สุพรรณ กล่าวต่อไปว่า ผู้ที่ป่วยหรือมีไข้ อดนอน
กินอาหารไม่ได้ ไม่ควรออกกำลังกาย
เนื่องจากกำลังอยู่ในภาวะที่ร่างกายต่อสู้กับโรคภัย
หากออกกำลังกายเสริมไปอีก จะเป็นการเพิ่มความเครียดให้ร่างกาย ทำให้หัวใจ
ปอดทำงานหนักขึ้น ทำให้เกิดอันตรายกับร่างกาย

ทั้งนี้ ประชาชนทุกเพศทุกวัย สามารถออกกำลังกายได้หลายวิธี ได้แก่
การออกกำลังแบบแอโรบิค อย่างน้อยวันละ 30 นาที อย่างน้อย 5 วันต่อสัปดาห์
เพื่อสร้างเสริมความเข้มแข็งให้กับระบบภูมิต้านทานของร่างกายในการต้านทาน
เชื้อไวรัสและแบคทีเรีย ซึ่งสามารถทำได้เองหรือรวมเป็นกลุ่มก็ได้
หรือใช้วิธีการเดินในระยะทาง 4,00 เมตร ให้ได้ 6-7 รอบ ภายในเวลา 30 นาที
ผู้ที่ไม่ค่อยออกกำลัง ควรเริ่มเดินประมาณ 5-10 นาที ประมาณ 3
วันต่อสัปดาห์แล้วค่อยๆ เพิ่มระยะเวลาต่อวันในแต่ละสัปดาห์ขึ้นเรื่อยๆ
แล้วจึงค่อยๆ เพิ่มความเร็ว จนท้ายที่สุดสามารถสาวเท้าเดินเร็วได้ 30
นาทีต่อวัน 5 วันต่อสัปดาห์
การออกกำลังนอกจากช่วยเสริมระบบภูมิต้านทานแล้ว
ยังช่วยลดโอกาสการเป็นโรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดสมอง
โรคเบาหวาน โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และเต้านม น้ำหนักเกินและอ้วน
และยังช่วยให้ผู้ที่ป่วยเป็นโรคเรื้อรังมีสุขภาพดีขึ้นและควบคุมอาการโรคได้
ด้วย

นอก จากนี้ การรับประทานอาหารที่หลากหลายและได้สัดส่วน
การลดความเครียด การหลีกเลี่ยงภาวะร่างกายอ่อนล้าเรื้อรัง
และการนอนหลับที่พอเพียง
เป็นสิ่งที่จำเป็นต่อการเสริมระบบภูมิต้านทานด้วย นอกจากนี้
การรับประทานอาหารที่มีพลังงานต่ำเกินไป และการลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว
อาจจะทำให้ระบบภูมิต้านทานลดลง จึงควรลดน้ำหนักอย่างค่อยเป็นค่อยไป


http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9520000080951

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น