++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ถามตอบยอดฮิต เกี่ยวกับหวัด 2009

1. โรคนี้ไม่รุนแรง ไม่น่ากลัว อย่าสะดิ้งไปนะตะเอง????


Answer : มะเหงกแน่ะ ความจริงคือ

1. ไข้หวัด 2009 ดูเหมือนไม่รุนแรง อัตราตายต่ำ แต่แพร่ระบาดง่ายและรวดเร็ว (
การแพร่
กระจายสูง)
2. ความน่ากลัวของหวัด 2009 คือการกลายพันธุ์ต่างหาก และการกลายพันธุ์จะเกิด
ง่ายที่สุด เมื่อคน
1 คน หรือสัตว์ 1 ตัว ทะลึ่งติดหวัด 2 ชนิดพร้อมกัน (เช่นหวัด 2009 + หวัด
ธรรมดา พร้อมกัน
หรือ หวัด 2009 + หวัดนก พร้อมกัน)


ขณะนี้"หวัดนกซึ่งรุนแรงและมีอัตราตายสูงมากกก ยังไม่ได้หายไป" แม้ว่าหวัด
2009 มันไม่รุนแรง แต่
ถ้าปล่อยให้แพร่แบบนี้ อีกไม่นานมันอาจผสมกัน เอาความสามารถในการกระจายของหวัด
2009 บวก
กับความรุนแรงของหวัดนก เมื่อนั้นก็หายนะ !!!!!

และนั่นคือสาเหตุ ที่อยากให้คนไทยทุกคนดูแลสุขภาพให้ดี อย่าให้เป็นหวัด

ถ้าเป็นหวัดแล้ว แยกตัวจากคนอื่นทันที อย่าแรดเดินตลาด อย่าแรดไปห้างหรือที่
ชุมชน และ ใส่หน้า
กากทันทีอย่าให้แพร่เชื้อสู่คนและสัตว์รอบข้าง ถึงแม้จะอยู่บ้านที่มีสมาชิกแค่
2 คนก็ตาม

2. ถ้าเป็นขึ้นมา ไปหาหมอเดี๋ยวก็หาย???

Answer : แม่เจ้า พศ.นี้ยังเข้าใจกันแบบนี้อีกเหรอนี่??

คุณรู้มั้ยว่า เวลาคุณไปหาหมอเพราะเป็นหวัด หมอจะจ่ายยาลดไข้ ยาลดน้ำมูก ยา
แก้ไอ ให้คุณ แต่
ไม่มียาฆ่าเชื้อหวัด!!!
นอกจากคุณติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำเติม เช่น ทอนซิลอักเสบ คออักเสบ หมอจึงจะจ่ายยา
ฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่
ติดซ้ำเติมให้ แต่ก็ยังไม่ยาฆ่าเชื้อไวรัสหวัดให้อยู่ดี!!
เพราะอะไรน่ะเหรอ เพราะยาฆ่าไวรัส มันแพงมาก และไม่คุ้มที่จะแจกจ่ายพร่ำ
เพรื่อ เพราะจะทำ
ให้ไวรัสยิ่งกลายพันธุ์ดื้อยาขึ้นไปอีก
99.99% ของคลินิก และ โรงพยาบาลขนาดเล็ก จึงไม่มียารักษาการติดเชื้อไวรัสหวัด
ไว้ในสต็อกยา
เลยครับ

สิ่งที่ดีที่สุดในการรักษาไข้หวัด คือการกินยาลดไข้ ยาลดน้ำมูก ยาแก้ไอ ตาม
อาการ แล้วนอนพักผ่อน
มากๆ พยายามอย่าไปแพร่เชื้อใส่ใคร เดี๋ยวก็หายครับ

ส่วน Tamiflu น่ะ อย่าไปหวังอะไรกับมันมากเลยครับ เพราะ
- ตอนนี้ยาขาดตลาดสุดๆ รพ. หลายแห่ง หายานี้มา Stock ไว้ไม่ได้
- ยานี้จะออกฤทธิ์ได้ดี เมื่อคนไข้ถูกตรวจพบเจอก่อนเกิดอาการ แล้วคนไข้คนไหนจะ
กระแดะเดินไปหา
หมอตอนไม่มีอาการล่ะครับ ( ถึงกระแดะไปหา หมอก็ไม่กระแดตรวจ Swab ให้หรอก
หรือ ถึง
หมอกระแดะตรวจให้ คุณจะกระแดะจ่ายค่าตรวจราคา4000+ บาท มั้ยล่ะครับ?)
- ตอนนี้เริ่มมีรายงาน เชื้อดื้อยา Tamiflu แล้วครับ (บอกแล้ว ว่าไวรัสมัน
กลายพันธุ์ เร็วค่อดๆ)

(Embedded image moved to file: pic15885.jpg)


3. ฉีดวัคซีนป้องกันได้???

Answer : วัคซีนที่ใช้กันอยู่ทุกวันนี้คือวัคซีน ป้องกัน ไข้หวัดใหญ่สเปนครับ
เป็น H1N1 เหมือนกัน แต่เป็นเชื้อคนละตัว ( เหมือนตระกูลงวงคำเหมา เหมือนกัน
แต่ หม่ำกับ
ตุ๊กกี้เป็นคนละคนกัน มีสิ่งที่ชอบที่กลัวไม่เหมือนกัน) พูดง่ายๆ คือ ในทาง
ทฤษฎี วัคซีนนี้ ไม่น่าจะ
ป้องกันหวัด 2009 ได้เลย แต่ให้ฉีดไว้ก่อนเพราะ

- ตอนแรกนักวิทย์คำนวณไว้อยู่แล้วว่า ปีนี้ ไข้หวัดสเปนต้องระบาด (ใครจะนึกว่า
มันทะลึ่งกลายพันธุ์
เป็น 2009 ) อย่างน้อยการฉีดนี้เป็นการตัดไข้หวัดสเปนออกไปก่อน พูดง่ายๆ คือ
ถ้าใครเดินมา รพ.
เราจะได้สงสัยไปเลยว่าเป็น หวัด 2009 ไม่ใช่หวัดสเปน จะได้ง่ายต่อการควบคุม
รักษา

- ถ้าเกิดไข้หวัดสเปน เกิดบ้าจี้ ระบาดขึ้นมาพร้อมกันตอนนี้ อัตราตายมันสูงกว่า
หวัด 2009 มากนะ
ครับ

- แม้ทางทฤษฎี วัคซีนนี้จะกัน 2009 ไม่ได้เลย แต่ไหนๆมันก็เชื้อตระกูลเดียวกัน
และเป็นเชื้อใหม่
ด้วย ใครจะไปรู้ว่ามันอาจป้องกันหวัด 2009 ได้ซัก 1% ก็ได้ มีตังค์ก็ฉีดๆ ไป
เหอะ Better Than
Nothing แต่ต้องรู้นะ ว่า การฉีดวัคซีนนี้ ไม่ได้แปลว่า คุณไม่ต้องกลัวแล้ว
ไม่ได้แปลว่าคุณมีภูมิคุ้มกัน
ต่อหวัด 2009 แล้ว มันแค่ลดความเสี่ยงไปซักถึง 1% รึเปล่ายังไม่รู้เลย??

(Embedded image moved to file: pic17312.jpg)

4. แล้วอะไร คือสิ่งที่ควรทำตอนนี้???

Answer :


4.1 ระดับส่วนตัวและครอบครัว

ในภาวะปกติ

ตอนนี้ต้องยอมรับว่า ทุกแหล่งชุมชนคือจุดเสี่ยงในการแพร่ระบาด โดยเฉพาะ
บริเวณที่เป็นห้องแอร์
ระบบปิด เช่นในห้างสรรพสินค้า โรงหนัง บนรถไฟฟ้า รถไฟใต้ดิน ถ้าจะเดิน
เข้าแหล่งชุมชน
เหล่านี้ ควรใส่หน้ากากป้องกันตัวเองได้แล้วครับ!!!!!


ถ้าคุณมีอาการของโรคหวัด แค่ ไอ จามเล็กๆน้อยๆ

ควรแยกตัวจากครอบครัวและสังคมเท่าที่ทำได้ เช่นแยกห้องนอนจากคนอื่น ถ้า
ต้องอยู่ร่วมกันก็ใส่หน้า
กากตลอดเวลา (หาซื้อไม่ได้ ก็เอาผ้าเช็ดหน้ามาผูกไว้ก็ยังดีกว่าหายใจรดกันตรงๆ)

ปิดปากปิดจมูกเสมอ อย่าหายใจรดใคร อย่าไอจามใส่ที่สาธารณะ เลิกถ่มน้ำลายลงพื้น
ได้แล้ว

ล้างมือให้บ่อยที่สุด การเอามือไปป้ายโน่นป้ายนี่ เป็นช่องทางการแพร่เชื้อที่ดี
เยี่ยม

ตอนเช้าตื่นนอน กรุณา เปิดหน้าต่างกว้างๆ เปิดพัดลมไล่อากาศออกซักนิด ก่อนจะ
ให้ใครคนอื่นเดินเข้า
มาในห้องเรา เสื้อผ้า ผ้าปูเตียง ปลอกหมอน หมั่นซักบ่อยๆ ( ไม่รู้มีคราบเสมหะ
ตอนเราไอจามติด
อยู่รึเปล่า ) ล้างมือให้บ่อยที่สุด แต่ไม่ต้องถึงกับแยกห้องน้ำหรอกนะ แค่เอา
แปรงสีฟันเราออกมาเก็บ
เอง อย่าใส่ถ้วยเดียวกะคนอื่นก็พอ


(Embedded image moved to file: pic25524.gif)

อาการอย่างไรจึงควรไปตรวจที่รพ.?

1. มีไข้ 38 ํC ขึ้นไปร่วมกับ
2. อาการอย่างใดอย่างหนึ่งได้แก่ ปวดกล้ามเนื้อ, ไอ, หายใจผิด ปกติ (หอบ,
ลำบาก), หรือแพทย์
วินิจฉัยว่าเป็นปอดบวม ร่วมกับ มีผู้สัมผัสร่วมบ้านหรือในที่ทำงานป่วยสงสัยไข้
หวัดใหญ่หรือปอดอักเสบ
ภายใน 1 สัปดาห์ก่อนวันเริ่มป่วย

ถ้าอาการแค่เป็นหวัดเจ็บคอธรรมดา ไข้ไม่สูง ไม่นอนซม ไม่ต้องสะดิ้งวิ่งไปรับ
เชื้อที่รพ.นะครับ อย่า
ลืมว่าตอนนี้ รพ.นั่นแหละ เป็นแหล่งแพร่เชื้อที่ดีที่สุด.................


4.2 ระดับนโยบายของรัฐ และ สื่อมวลชน

มาดูกันนิดนึง ว่าทำไมประเทศเราถึงควบคุมการระบาดไม่ได้เลย ขณะที่ประเทศต้น
ตำรับการระบาด
อย่าง Mexico ซึ่งไม่ได้เจริญกว่าบ้านเราเลย เขาถึงควบคุมการระบาดระลอกแรก
ได้....

จำข่าวได้มั้ยครับ ว่าตอนแรกที่ Mexico เขาระบาดเขาทำอะไรบ้าง ??
ปิดเลยครับ !!! เขากล้าพอที่จะปิด โรงเรียนทุกแห่ง โรงหนังทุกแห่ง ห้างสรรพ
สินค้าทุกแห่ง ทั่ว
ประเทศ พร้อมกัน 1 สัปดาห์ พร้อมทั้ง พ่นยาฆ่าเชื้อ ตามโรงหนัง ห้างสรรพสินค้า
ใหญ่ๆด้วย
นั่นคือสาเหตุที่เขาควบคุมการระบาดระลอกแรกได้ทันทีในสัปดาห์ต่อมา....

แล้วพี่ไทยล่ะทำอะไรบ้าง ?? นอกจากออกข่าว ว่า ไม่มีอะไร้ ไม่น่ากลัว แต่คนติด
เชื้อเพิ่มเป็นหลัก
ร้อย หลักพันทุกวัน???
มัวแต่กลัวว่าเศรษฐกิจจะทรุด การท่องเที่ยวจะกระทบ ...
คิดกันบ้างมั้ยว่า ถ้าคนไทย ตัยหอง กันหมด จะมีเศรษฐกิจดีๆไว้ทำอารายจ๊ะ??
เศรษฐกิจ คือ สิ่งที่เราสร้างได้แน่นอน ถ้าคนไทยยังมีลมหายใจอยู่คับ (ว้อยยยยยย
)


และคุณสื่อมวลชนครับ ... ผมว่า ถึงเวลาแล้วที่พวกคุณจะต้องพูดความจริง.....
ถ้าจำไม่ได้ว่าผมพล่ามอะไร ให้ พูดดังนี้นะครับ
1. โรคนี้ อันตรายครับ .... และยังกลายพันธุ์ให้อันตรายกว่านี้ได้อีกในปลายปี
นี้ครับ
2. โรคนี้ หวังพึ่งยารักษา ไม่ได้ครับ และตอนนี้เริ่มดื้อยาแล้วด้วยครับ
3. โรคนี้ต้องป้องกันอย่างเดียวครับ
4. จะควบคุมการระบาดได้ ต้องพร้อมใจกัน ใส่หน้ากาก ล้างมือบ่อยๆ พร้อมกันทั้ง
สังคมครับ
5. จะควบคุมการระบาดได้ ปิดโรงเรียน โรงหนัง ศูนย์การค้าใหญ่ๆ ได้แล้วครับ ขอ
แค่ 3 วันก็ยังดี
ครับ!!!!!


ของแถม (ส่วนนี้ถ้าอ่านไม่รู้เรื่อง ก็ช่างเถอะนะ)
ขออธิบายเรื่องการกลายพันธุ์ ของไวรัสล้วนๆ จะได้รู้ว่าทำไมผมถึงคิดว่าเราควร
ตื่นตัว

อธิบายความรู้พื้นฐานเพื่อให้เข้าใจก่อน

HOST = เหยื่อ ที่ไวรัสเข้าไปฝังตัว ( มนุษย์ หรือ หมู / นก สัตว์ต่างๆที่มัน
เข้าไปสิง)
HOST cell = เซลล์ ของเหยื่อ ที่ไวรัสเข้าไปฝังตัว ( เซลล์ มนุษย์ หรือ สัตว์)


+++ปฏิบัติการเมื่อไวรัสเข้าไปใน HOST Cell+++

ไวรัสเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่ครบองค์ประกอบของการเป็นเซลล์ มันจึงไม่สามารถแพร่
พันธุ์ด้วยตัวเองได้ แต่
จะแพร่พันธุ์โดยการฝังตัวเข้าไปใน HOST cell

ดูรูปประกอบ พื้นที่ สีชมพูทั้งหมด คือ HOST cell
รูปหกเหลี่ยมสีเหลือง คือไวรัส
หมายเลข 1-2 คือ ไวรัส สัมผัสผิวเซลล์ แล้วจะละลายตัวเองเข้ากับผนังเซลล์ บุก
เข้ามาภายใน
Host Cell
หมายเลข 3 เมื่อเข้ามาแล้ว ไวรัสจะสลายเปลือกตัวเอง เหลือแต่ RNA คือเกลียว
สีแดงในรูป
หมายเลข 4a RNA คือสารพันธุกรรมของไวรัส ที่จะหลอกล่อ RNA ของHost ( เกลียวสี
น้ำเงิน)
ให้มาประกบตัว เพื่อสร้างไวรัสตัวใหม่ออกมามากมาย ( ปกติ RNA ของมนุษย์ มีไว้
สร้าง โปรตีน
และสารจำเป็นอื่นๆต่อร่างกาย และแน่นอนมันเป็นสารที่มีรหัสพันธุกรรมมนุษย์อยู่
ด้วย)
ในรูป
4b คือ RNA ไวรัส หลอก RNA มนุษย์ ให้สร้างเปลือกใหม่ ให้มันแทนอันที่มันสลาย
ทิ้งไปตอนแรก
4c คือ RNA ไวรัส หลอก RNA มนุษย์ ให้สร้าง RNA ไวรัสใหม่ (ที่ปะปนกับ RNA
มนุษย์ เรียบ
ร้อยแล้ว จะกลายพันธ์ได้ช่วงที่หนึ่งก็ตอนนี้แหละ)

หมายเลข 5-6 ประกอบร่างกันใหม่อีกครั้ง ได้เป็นไวรัสลูก (ที่ขโมย RNA ของ Host
มาผสมเรียบ
ร้อย) จำนวนนับหมื่นนับแสน เข้าละลายผนังเซลล์ ของ Host แล้ว บุกออกจากตัว
Host ออกสู่โลก
ภายนอกอีกครั้ง.......ระบาดดด นั่นเอง.....


ไวรัสกลายพันธ์อย่างไร
1. Mutation =การผ่าเหล่าของพันธุกรรม : วิธีนี้ช้า ในมนุษย์ ใช้เวลาหลายร้อย
ชั่วคน แต่ใน
ไวรัส ไม่กี่รุ่นก็ทำได้ (จำคำอธิบายข้างต้นว่า เพียงพ่อเดียว( host ที่ไวรัสไป
ฝังตัว--> ไวรัสก็ออก
ลูกได้เป็นหมื่น จึงไม่ต้องรอหลายรุ่นอย่างมนุษย์) และแน่นอน ไม่ต้องรอนับ
พันปีอย่างมนุษย์ ไวรัสใช้
เวลาเป็นวัน หรือ ชั่วโมงเท่านั้น
2. Genetic Recombination เป็นวิธีที่เร็วอย่างน่ากลัวเข้าไปอีก อธิบายดัง
นี้.....

โปรดดูรูปประกอบอีกครั้ง เกลียวสีแดงๆนั้นแทน RNA ซึ่งล่องลอยไปมาในเซล
คราวนี้ลองนึกภาพว่า ถ้ามีไวรัสไข้หวัดใหญ่ 2 ชนิดขึ้นไปบุกเข้าไปในเซล์Host
พร้อมกัน ไวรัสนั้นจะ
สลายเกราะ ปล่อย RNA ของมันออกมาล่องลอยในเซลล์ ก่อนจะประกอบร่างตัวเองขึ้นมา
ใหม่เป็นไวรัส
ลูกหลานออกนอกเซลล์ ไอ้ตอนนี้แหละท่านผู้ชม... มันก็ลากเอา RNA อะไรก็ได้มา
ประกอบร่าง (
ทั้งของไวรัสอีกตัวนึง กับของ Host ) ผสมกันออกจากเซลล์ กลายเป็น ไวรัสพันธุ์
ใหม่เสร็จ
สรรพ.....


นี่คือที่มาว่า ไวรัสไข้หวัดใหญ่ H1N1 ธรรมด๊าธรรมดา กลายมาเป็นไข้หวัดหมู
เม็กซิโก 2009 ได้ยังไง
สรุปง่ายๆคือ Host ( คนหรือสัตว์) เกิดแจ็คพ็อตติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2 ชนิดขึ้น
ไปในคราวเดียวกัน
ไวรัสก็จะไปผสมพันธุ์กันในร่างเหยื่อคนนั้น ก่อให้เกิดไวรัสพันธ์ใหม่ พร้อมกัน
ทีเดียวหลายพันหลายหมื่น
เผ่าพันธ์ แต่แน่นอน การผสมมั่วซั่วเหล่านี้ ไวรัสพันธ์ใหม่ที่ได้ส่วนใหญ่ จะ
อยู่ไม่รอดในธรรมชาติ แต่
มันหลุดมาเป็นหมื่นชนิดมีหรือจะไม่มีชนิดนึงเล็ดรอด ใช่แล้ว และตัวที่รอดออกมา
ก็คือ " ไข้หวัดใหญ่
เม็กซิโก 2009 SWINE FLU "

ดูแล้วพอจินตนาการได้มั้ยครับ ว่า ถ้ามันจะกลายพันธุ์ต่อก็ใช้วิธีเดียวกันได้
ไม่ยากเลย!!!!!!

The bad news: the flu vaccine will not protect you.
ข่าวร้าย วัคซีนไข้หวัดแบบปัจจุบันยังป้องกันอะไรไม่ได้

The good news: antiviral drugs (Tamiflu and Relenza) will work.
ข่าวดี : เค้าว่า ยา Tamiflu ช่วยได้

The bad news: antiviral drugs are not very effective after symptoms start,
which is why they are not commonly used in medical practice.
ข่าวร้าย : ยาพวกนั้น จะใช้ไม่ค่อยได้ผล เมื่อเริ่มมีอาการแล้วววว นั่นคือ
สาเหตุที่หมอเองยังไม่
ค่อยมีโอกาสสั่งยาพวกนี้เลย ( ใครมันจะไปหาหมอกินยาก่อนมีอาการฟะ????)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น