++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

"นายกฯ" เปิดรง.ต้นแบบวัคซีนหวัด2009 ชี้ต.ค.นี้วัคซีนที่สั่งจอง 2 ล้านโดสถึงไทย

from MOPH-Hot news by ASTV ผู้จัดการออนไลน์
วาน นี้(12 ก.ค.) เวลา 13.30 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี
ได้เดินทางไปเป็นประธานเปิดโรงงานต้นแบบนำร่องทดลองผลิตวัคซีนป้องกันไข้
หวัดใหญ่ ที่มหาวิทยาศิลปากร จ.นครปฐม โดยนายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า
ปัจจุบันปัญหาโรคติดต่ออุบัติใหม่ เป็นภัยคุกคามของทุกประเทศทั่วโลก
ซึ่งในรอบไม่กี่ปีที่ผ่านมามีโรคอุบัติใหม่เกิดขึ้น เช่น โรคไข้หวัดนก
โรคซาร์ส และไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
ที่กำลังเป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้แต่สิ่งที่ต้องยอมรับคือปัญหาโรคอุบัติใหม่จะ
เกิดขึ้นเป็นระยะๆ จากหลายปัจจัย เช่น สภาวะโลกร้อน
ไม่เพียงแต่ทำให้เกิดโรคอุบัติใหม่เท่านั้น
โรคระบาดที่เคยหายไปก็จะกลับมาระบาดเช่นกัน
ซึ่งการรับมือเชื้อโรคระบาดเป็นสิ่งสำคัญที่รัฐจะต้องดำเนินการ
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า สำหรับโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
เมื่อเปรียบเทียบกับโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ที่เคยระบาดเมื่อร้อยปีที่ผ่าน
มาพบว่า ขณะนั้นมีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตมากกว่าในปัจจุบันมาก ทั้งๆ
ที่ในอดีตการเดินทางข้ามประเทศยังมีน้อยกว่าปัจจุบัน
อย่างไรก็ตามต้องเอาจริงเอาจังกับโรคระบาดที่เกิดขึ้น
ซึ่งแต่ละโรคก็มีลักษณะเฉพาะของโรคนั้นๆ เช่น
โรคไข้หวัดนกเป็นการติดต่อจากสัตว์ปีกสู่คนไม่ใช่การติดต่อจากคนสู่คน
เหมือนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
การตัดวงจรการแพร่ระบาดจึงทำได้ง่ายด้วยการฆ่าสัตว์ปีก
ซึ่งวิธีการนี้นำมาใช้ไม่ได้ในการจำกัดการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สาย
พันธุ์ใหม่ 2009 ซึ่งเป็นการติดต่อจากคนสู่คน นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า
สิ่งสำคัญในการชะลอการแพร่ระบาด คือ การป้องกันแต่อยู่ในความพอดี
การจะตัดสินใจใช้มาตรการใดต้องพิจารณาตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง
ซึ่งที่ผ่านมามีคำถามเกิดขึ้นในสังคมเป็นอย่างมากว่า
ต้องมีการจำกัดการเดินทาง ปิดประเทศ หยุดเรียนพร้อมกันทั้งประเทศ
หรือหยุดกิจกรรมบางอย่างหรือไม่ โดยหากจะดำเนินการมาตรการใด
ต้องตั้งอยู่บนฐานข้อมูลของนักระบาดวิทยา ซึ่งรัฐบาลติดตามอย่างใกล้ชิด
เพราะหากจะใช้มาตรการใดๆ คงต้องอธิบายกับสังคมได้
"ต้องยอมรับว่าตัวเลขผู้ป่วยยืนยันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่2009
ที่สธ.รายงานเป็นเฉพาะกรณีที่มีการส่งเชื้อตรวจในห้องปฏิบัติการเท่านั้น
แต่ในความเป็นจริงจะมีผู้ติดเชื้อมากกว่าที่ สธ.มีการรายงาน ขอยืนยันว่า
รัฐบาลไม่มีการปิดบังข้อมูลหรือจงใจสร้างปัญหาแต่การดำเนินการเป็นไปตามระบบ
สากล ซึ่งขณะนี้มุ่งเน้นไปที่โรงเรียนและสถาบันกวดวิชา
เพราะตัวเลขผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ชนิดนี้ 2ใน3 เป็นกลุ่มนักเรียนอายุ
11-20 ปี ส่วนการผลิตวัคซีนและยาเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยลดและบรรเทาปัญหาการแพร่ระบาด
ของโรคได้โ ดยขณะนี้สธ.กำลังเจรจาลดราคาวัตถุดิบผลิตยาต้านไวรัสเพื่อให้ปัญหาการเข้า
ไม่ถึงยาของประชาชนลดน้อยลง
ส่วนวัคซีนที่สั่งจองไว้กับบริษัทผู้ผลิตจะมาถึงไทยในช่วงเดือนตุลาคมนี้"
นายกรัฐมนตรีกล่าว ห่วงใช้ยาพร่ำเพรื่อผู้ป่วยไม่สนองยา นายอภิสิทธิ์
กล่าวด้วยว่า ขอฝากข้อคิด 3 ข้อ คือ 1 ต้องยอมรับความเปลี่ยนแปลงของโรค
ว่าจะไม่หยุดนิ่งแต่จะต้องมีการแพร่ระบาดต่อไปอีก 1-2 ปี
และมีคนที่ได้รับผลกระทบเพิ่มขึ้นอีกเป็นจำนวนมาก 2
ต้องติดตามปฏิกิริยาจากการใช้ยาในการรักษาโรคนี้
เนื่องจากขณะนี้ในบางประเทศพบกรณีผู้ป่วยไม่ตอบสนองต่อยาที่ใช้ในการรักษา
ซึ่งอาจเป็นเพราะบางพื้นที่ให้ยากับผู้ป่วยที่ไม่ได้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่
2009 เพราะฉะนั้นไทยต้องติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดและนำข้อมูลดังกล่าวมาเป็น
ข้อเตือนใจว่าการตัดสินใจในทุกเรื่องส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้
บุคลากรจึงต้องทำงานตลอดเวลา และ 3
แม้ยาและวัคซีนจะช่วยบรรเทาสถานการณ์ได้แต่จำเป็นอย่างยิ่งที่คนในสังคมต้อง
ฝึกนิสัยและมีพฤติกรรมที่รับผิดชอบต่อตนเองและสังคมโดยเพาะผู้ป่วยหากมี
อาการเจ็บป่วยให้รีบปรึกษาแพทย์
และหลีกเลี่ยงการเข้าสังคมเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อรวมถึงการล้าง
มือบ่อยๆ กินร้อนช้อนกลางจะมีส่วนอย่างมากในการบรรเทาการแพร่ระบาดของโรค
ด้าน นายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า
โรงงานผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่เป็นโรงงานต้นแบบที่องค์การเภสัชกรรม(อภ.)ได้
รับทุนจากองค์การอนามัยโลกหรือ(WHO) จำนวน 70 ล้านบาท
โดยขณะนี้สามารถดำเนินการวิจัยและพัฒนาผลิตวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่สาย
พันธุ์ตามฤดูกาลได้แล้ว
และมีความพร้อมในการนำเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ชนิดเชื้อเป็น
ซึ่งเป็นเทคโนโลยีของประเทศรัสเซีย
เพื่อนำมาผลิตเป็นวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
โดยเชื้อจะมาถึงประเทศไทยในวันที่ 16 กรกฎาคมนี้
สำหรับวัคซีนป้องกันเชื้อไข้หวัดใหญ่ชนิดสำเร็จรูปที่สั่งนำเข้านั้น
ให้อภ.จองไว้ 2 ล้านโดส
โดยล็อตแรกนำเข้ามาจากประเทศฝรั่งเศสและจะมาถึงประเทศไทยในเดือนตุลาคมนี้
ในราคา 5 ยูโรต่อโดส
แต่บริษัทผู้ผลิตจะไม่รับรองในผลข้างเคียงที่จะเกิดขึ้นกับผู้ที่ได้รับ
วัคซีนนี้ โดยเป็นสัญญาที่ทุกประเทศจะต้องยอมรับ
เหมือนกันทั่วโลกในการสั่งจองวัคซีน
"สำหรับประชาชนที่จะได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันเป็นกลุ่มแรก
คาดว่าน่าจะเป็นบุคลากรทางการแพทย์
เพราะเป็นทั้งด่านแรกและด่านสุดท้ายที่ต้องพบเจอกับผู้ป่วย อย่างไรก็ตาม
จะมีประชาชนกลุ่มไหนอีกบ้างที่จำเป็นต้องได้รีบวัคซีน
ผู้เชี่ยวชาญจะประเมินสถานการณ์อีกครั้งหนึ่ง"นายวิทยากล่าว
กระทรวงวิทย์ฯ เจ๋งวิจัยเชื้อไวรัสผลิตวัคซีน เหลือแค่ขั้นทดลอง
ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
กล่าวว่า หลังจากที่ได้รับเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
ที่แยกได้จากผู้ป่วยคนไทยจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
สธ.ได้มอบหมายให้สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ(สวทช.)
ดำเนินการวิจัยเพื่อให้ได้เชื้อไวรัสต้นแบบเพื่อนำไปพัฒนาและผลิตเป็นวัคซีน
ต้นแบบ ซึ่งขณะนี้เหลือเพียงการทดสอบความสามารถในการเพิ่มจำนวนให้ได้ปริมาณมาก
ความเสถียร ความปลอดภัย
และความสามารถในการกระตุ้นภูมิคุ้มกันในสัตว์ทดลอง
เมื่อเรียบร้อยจะส่งมอบให้อภ.ทันที "ได้เชิญนักวิจัย ศ.นพ.ประเสริฐ
เอื้อวรากุล และดร.อรปรียา ทรัพย์ทวีวัฒน์ จากคณะแพทยศาสตร์
ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล
ในการวิจัยสร้างไวรัสต้นแบบด้วยเทคโนโลยีรีเวอร์สเจเนติกส์ทั้งชนิดที่ใช้
ผลิตวัคซีนเชื้อเป็น และดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา จากศูนย์พันธุวิศวกรรม
และเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ(ไบโอเทค)
ที่จะสร้างไวรัสต้นแบบที่ผลิตเป็นวัคซีนเชื้อตาย ด้วยเทคนิกวิธีเดียวกัน"
ดร.คุณหญิงกัลยากล่าว ชี้โรงงานผลิตวัคซีนหวัด 2009 ได้ 2 ล้านโดส/เดือน
นพ.วิทิต อรรถเวชกุล ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม(อภ.) กล่าวว่า
โรงงานวัคซีนไข้หวัดใหญ่ที่ตั้งอยู่ที่มหาวิทยาลัยศิลปากร
วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์ จ.นครปฐม เป็นโรงงานกึ่งอุตสาหกรรม
ที่จะใช้การผลิตวัคซีนจากเชื้อชนิดเป็น ทำให้ได้วัคซีนจำนวนมาก
และเป็นวัคซีนชนิดพ่นเข้าจมูกไม่ใช้วิธีการฉีดเข้ากล้ามเนื้อแบบวัคซีนชนิด
เชื้อตาย โดยโรงงานแห่งนี้จะสามารถผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ตามฤดูกาลได้สูงสุด
ประมาณ 2-10 ล้านโดสต่อปี
แต่หากใช้เชื้อเป็นในการผลิตเฉพาะวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่
2009 จะผลิตได้มากกว่าสายพันธุ์ตามฤดูกาลถึง 30 เท่าขึ้นไป
โดยหากผลการทดลองได้ผลดีจะสามารถผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
ได้ประมาณ 2 ล้านโดสต่อเดือน
และมีราคาถูกกว่าวัคซีนสำเร็จรูปที่สั่งซื้อจากต่างประเทศอย่างมาก
ทั้งนี้ คาดว่าจะสามารถผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
จากเชื้อเป็นที่ได้รับเชื้อเป็นจากรัสเซียแล้วเสร็จภายในเดือน
ต.ค.-พ.ย.นี้ "ขณะนี้ได้สั่งจองวัคซีนชนิดเชื้อตายจากบริษัทผู้ผลิตล็อตแรกจำนวน
1 ล้านโด๊ส วงเงิน 5 ล้านยูโร
โดยเป็นงบประมาณจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.)
ส่วนเหตุที่ต้องสั่งจองวัคซีนเชื้อตายขณะที่อภกำลังจะผลิตวัคซีนเชื้อเป็น
เพราะมีคนบางกลุ่มอาจไม่สามารถใช้วัคซีนที่ทำจากไวรัสเชื้อเป็นได้ เช่น
ผู้ที่เป็นโรคหอบหืด ถึงลงโป่งพอง และผู้สูงอายุ
จึงต้องมีการเตรียมวัคซีนไว้ทั้งสองแบบ
อย่างไรก็ตามประสิทธิภาพของวัคซีนทั้ง 2 ชนิดไม่ต่างกัน"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น