++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพฤหัสบดีที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

"คำนูณ" จับผิดบทความ "วอลเปเปอร์" ชี้หมกเม็ดความจริง MOU ปี 43

"คำนูณ" โต้เฟสบุ้ค "สิทธิโชค" หมกเม็ดข้อเท็จจริง อำพรางแผนที่
1:200,000 ไม่มีผลเกี่ยวพันแผนที่ฉบับอื่น จี้ "มาร์ค"
ชี้แจงให้ชัดเจนไทยเสียดินแดนให้กัมพูชาแล้วจริงหรือไม่ หลังวงในปูด
"บัวแก้ว" กลัวหัวหด เขมรขู่ฟ้องศาลโลก หากไม่ยัดแผนที่ใส่บันทึกข้อตกลง
นักวิชาการประวัติศาสตร์ ชี้ แผนที่ทุกฉบับเชื่อมโยงกัน
ส่อเค้าระวางที่เหลือ มีผลตาม 7 ระวางที่รบ.เซ็นยอมรับ

วันนี้ (14 ก.ค.) รายการ "คนในข่าว"
ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี-ทีวีของประชาชน เวลา 20.30-22.00 น.
มี นายเติมศักดิ์ จารุปราณ รับหน้าที่เป็นผู้ดำเนินรายการ
ซึ่งวันนี้ได้มีการเชิญ นายเทพมนตรี ลิมปพยอม
นักวิชาการอิสระด้านประวัติศาสตร์ และนายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา
มาร่วมพูดคุยในรายการ กรณีนายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์
เขียนบทความชี้แจงลงในเฟสบุ้คถึง "ข้อเท็จจริงกรณี MOU 2543
เป็นคุณหรือเป็นโทษกัปประเทศไทย" เมื่อวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา

นายคำนูณ กล่าวว่า
ตนต้องขอบคุณนายสิทธิโชคที่แสดงความคิดเห็นเช่นนี้
เพราะมันทำให้เราเข้าใจวิธีคิดของนายสิทธิโชค ซึ่งคงเหมือนนายอภิสิทธิ์
เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ด้วย โดยหลังจากที่มีการชี้แจงผ่านบทความ
ได้มีหลายคนเข้าไปตอบโต้แสดงความคิดเห็น
ซึ่งเฉพาะในส่วนตนได้เข้าไปตอบโต้ประมาณ 3-4 รอบ
และได้รับการตอบข้อความกลับจากนายสิทธิโชคเช่นกัน

นายคำนูณ กล่าวต่อว่า
ประเด็นสำคัญมันอยู่นายสิทธิโชคได้เปิดประเด็นใหม่ว่าแผนที่ 1:200,000 ใน
annex 1 ไม่เป็นผลงานการปักปันเขตแดนของคณะกรรมการปักปันเขตแดนระหว่างสยามอินโดจีน
ตามที่ศาลโลกได้วินิจฉัยไว้แล้ว
ซึ่งในเมื่อความจริงมันมีระบุไว้ในบันทึกความเข้าใจ
ตนก็เข้าใจได้ว่ามันรวมแผนที่ฉบับดังกล่าวด้วย

นายคำนูณ กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้
ตนเคยคุยกับนายกฯถึงปัญหาดังกล่าว
ก็ทราบว่าทางกระทรวงการต่างประเทศชี้แจงตลอดว่า
กลัวกัมพูชาจะฟ้องศาลโลกอีกครั้งหนึ่ง และจะทำให้เสียดินแดนเพิ่มเติม
นอกจากนี้ ทางฝ่ายกัมพูชายังได้ขู่ว่าหากไม่นำแผนที่ดังกล่าวระบุไว้ในบันทึกข้อตกลงจะ
นำเรื่องฟ้องศาลโลก
ซึ่งสร้างความวิตกให้แก่กระทรวงการต่างประเทศของไทยเป็นอย่างมาก

"ทางกระทรวงการต่างประเทศกลัวว่าหากกัมพูชาฟ้องศาลโลก
ไทยจะมีโอกาสแพ้มากกว่าชนะ และจะทำให้ไทยเสียดินแดนเพิ่ม
ซึ่งในประเด็นนี้แสดงว่า ไทยเสียดินแดนให้แก่กัมพูชาไปแล้วส่วนหนึ่ง
เหตุที่ยอมทำตามคำขู่เพราะกลัวเสียเพิ่มอีกส่วนหนึ่ง ผมจึงไม่เข้าใจว่า
ทำไมเราไม่ระงับหรือยับยั้งเอ็มโอยูดังกล่าว
ทำไมกระทรวงการต่างประเทศไม่คิดหาทางที่ทำให้ไทยสู้กัมพูชาได้บ้างเลยหรือ"
นายคำนูณ กล่าว

นายคำนูณ กล่าวอีกว่า
ตนอยากให้รัฐบาลยืนยันว่าแผนที่ดังกล่าวไม่เกี่ยวกับการเสียดินแดน
และอยากให้ยืนยันว่ารายละเอียดในบันทึกการประชุมที่ทำไว้กับกัมพูชาไม่มี
ส่วนเกี่ยวกับแผนที่ 1:200,000 หรือแผนที่ใดๆ

นายเทพมนตรี กล่าวว่า ในเอ็มโอยูระบุไว้ว่าอย่างไร
ก็ต้องยึดตามนั้น ดังนั้น
เรื่องนี้เกี่ยวพันและมีผลกับแผนที่หลายฉบับแน่นอน เพราะประเด็นสำคัญ คือ
แผนที่ทุกฉบับมีการโคลงร่างมาพร้อมกัน ดังนั้น ย่อมมีผลเชื่อมเกี่ยวกัน
เพียงแต่ยังไม่ได้รับการรับรองเท่านั้น

นายคำนูณ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ เพราะเรายอมรับแผนที่
1:200,000 เท่ากับมีผลผูกพันกับแผนที่ฉบับอื่น รัฐบาลจะมาบอกว่ายอมรับ 7
ระวาง แต่ไม่ยอมรับระวางอื่นที่ไทยเสียผลประโยชน์ไม่ได้
เนื่องจากโคลงร่างแผนที่มันออกมาพร้อมกัน จึงมีผลเชื่อมถึงกัน

นายเทพมนตรี กล่าวว่า หาก 7 ระวางนี้ ถูกนำไปขึ้นมรดกโลก
รับรองได้เลยว่าระวางที่เหลือ เกิดปัญหาตามหลังมาแน่นอน
โดยแทนที่รัฐบาลชุดนี้จะไปยกเลิกเอ็มโอยู
กลับเดินหน้ายอมรับแผนที่แล้วมาบอกว่าเพื่อไม่ให้ไทยเสียดินแดนเพิ่ม

นายคำนูณ กล่าวว่า ตกลงรัฐบาลชุดนี้จะทำให้เข้าใจใช่หรือไม่ว่า
มีการยอมรับ 7 ระวาง และไม่ยอมรับระวางที่ไทยเสียผลประโยชน์
รัฐบาลพยายามจะบอกว่าแต่ละระวางมันไม่มีผลสืบเนื่องกัน
แต่สิ่งเหล่านี้มันมีอะไรเคลือบแฝง
เท่าที่ดูไม่มีระวางไหนที่ไม่มีผลผูกพันกัน
เพราะทุกระวางถูกส่งมาพร้อมกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น