++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพฤหัสบดีที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

"Cyber Scout" มือพิฆาตเว็บหมิ่น

การจัดการเว็บไซต์หมิ่นสถาบันเบื้องสูง
ถือเป็นปัญหาความมั่นคงของประเทศที่ขบไม่แตกมาหลายยุคหลายสมัย
เพราะยังไม่มีใครสามารถจัดการปัญหานี้ให้ทุเลาเบาบางลงได้
เหตุผลสำคัญคือการติดข้อจำกัดหลายประการโดยเฉพาะกรณีการปิดกั้นการแสดงความ
คิดเห็นในต่างประเทศถือเป็นสิ่งที่ต่างชาติต่อต้านอย่างหนักประกอบกับ
เว็บไซต์หมิ่นสถาบันส่วนใหญ่มักถูกเปิดในต่างแดน

แม้ปัจจุบันประเทศไทยจะมีพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับ
คอมพิวเตอร์ ซึ่งคลอดออกมาตั้งแต่ปี 2550
แต่ตัวกฎหมายก็ยังมีช่องว่าง-ช่องโหว่อยู่มาก
เนื่องจากเป็นกฎหมายที่ยังไม่มีการแก้ไขให้ทันเทคโนโลยี

ที่ผ่านมา
อำนาจของกฎหมายฉบับนี้ทำได้เพียงให้เจ้าพนักงานตามกฎหมายคอมพิวเตอร์ฯ
รวบรวมหลักฐานยืนขออำนาจศาลในการปิดกั้นเว็บไซต์ที่มีถ้อยคำ ข้อความ
หมิ่นสถาบัน ซึ่งใช้เวลานาน ในขณะที่การเปิดเว็บใหม่หรือ URL
ใหม่เพื่อจาบจ้วงสถาบันทำได้ในเวลาแค่ 3-5 นาทีเท่านั้น

การปิดเว็บหมิ่น จึงไม่ต่างจากเกม 'แมวไล่จับหนู'
อย่างการ์ตูนดังทอมแอนด์เจอร์รี่

ที่ผ่านมา ในยุคของ รมว.ไอซีที มั่น พัธโนทัย
จนถึงยุครต.หญิงระนองรักษ์ สุวรรณฉวี ได้มีการจัดตั้งวอร์รูม ISOC หรือ
Internet Security Operation Center
เพื่อเป็นศูนย์กลางตรวจสอบหาเว็บไซต์ไม่เหมาะสม ไม่จำกัด
แค่เว็บหมิ่นสถาบัน แต่ยังดูแลไปถึงเว็บโป๊ เว็บการพนันทั้งหมด
และยังเป็นศูนย์กลางรับข้อร้องเรียนตามรอยเว็บไซต์ไม่เหมาะสม ตลอด 24
ชั่วโมง รวมทั้งยังเปิดเลขหมาย 1122 เพื่อรับแจ้ง
ร้องเรียนเหตุเกี่ยวกับเว็บไซต์ไม่เหมาะสมทั้งหมด
แต่ก็ยังถือเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ
เพราะการไล่ปิดเว็บยังช้ากว่าการเปิดเว็บใหม่อยู่ดี

จน มาถึงยุคจุติ ไกรฤกษ์ รมว.ไอซีทีคนปัจจุบัน
ซึ่งได้รับมอบหมายให้เดินหน้าสานภารกิจหลักจัดการเว็บหมิ่นสถาบันที่นับวัน
จะขยายตัวกินพื้นที่เพิ่มขึ้นทุกที โดยต้องทำอย่างเงียบเฉียบ
เลิกป่าวประกาศว่าปิดเว็บไปจำนวนเท่านั้นเท่านี้
เพราะไม่อยากให้เกิดภาพพจน์ที่ไม่ดีในสายตาต่างชาติ

แผน ปฏิบัติการตอบโต้เว็บหมิ่นของ จุติ
ที่เป็นรูปธรรมชัดเจนนอกเหนือจากไล่เปิดเว็บ
คือการตั้งโครงการสร้างลูกเสือบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต (Cyber Scout)
ซึ่งเป็นเสมือนทหารพระราชาผู้คอยพิทักษ์ปกป้อง
พระราชาจากภัยหมิ่นประมาทบนโลกไซเบอร์ สังคมออนไลน์ โดยล่า
สุดกระทรวงไอซีที ได้เชิญอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี
มาเป็นประธานเปิดโครงการ Cyber Scout ในการอบรมอาสาโครงการนำร่อง จำนวน
200 คน ซึ่งเป็นตัวแทนจาก นักเรียน นักศึกษา
ภาครัฐและเอกชนที่มีความรู้ความสามารถใช้งานคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต
อย่างดี มาร่วมอบรมด้านคุณธรรม จริยธรรม เทคนิค กฎหมายจากเจ้าหน้าที่
และผู้เชี่ยวชาญ
เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจและให้คำปรึกษาแก่อาสาสมัครให้รู้ถึงวิธีการ
ป้องกัน รวมทั้งป้องปรามภัยทางอินเทอร์เน็ต

นอกจากนี้เพื่อเตรียมฐานปฎิบัติการให้ Cyber Scout
ที่จะเพิ่มจำนวนมากขึ้นในอนาคต
รมว.ไอซีทีได้เตรียมจัดตั้งศูนย์ไอซีทีชุมชนเพิ่ม 1,000 แห่ง
จากเดิมที่มีอยู่ 600 กว่าแห่ง ด้วยการใช้งบแปรญัตติปี 54 จำนวน 578
ล้านบาท เลือกเด็กมัธยมปลายก่อนเพราะมีความรู้ความเข้าใจการใช้งานคอมพิวเตอร์อิน
เทอร์เน็ตมากพอสมควรแล้ว
และอนาคตจะขยายลึกลงไปถึงระดับมัธยมต้นซึ่งจะเป็นส่วนช่วยสร้างจิตสำนึกรัก
สถาบันพระมหากษัตริย์ให้เยาวชนตั้งแต่เด็ก

โครงการ นี้นับเป็นประโยชน์ด้วยกันทั้งฝ่ายตัวเด็กและรัฐบาล
ในแง่ตัวเด็กก็จะได้ความรู้เรื่องคอมพิวเตอร์ติดตัวไป
ส่วนรัฐบาลก็จะได้กองกำลังเด็กติดอาวุธทางสมองเสียสละเวลาเข้าค้นหาเว็บไซต์
หมิ่นสถาบัน แล้วนำข้อมูลที่ถูกต้อง เช่น พระราชกรณียกิจ
พระบรมราโชวาทไปโพสต์ในเว็บไซต์นั้นๆเพื่อเป็นการให้ข้อมูลสองด้านสู้กัน

'ผมตั้งเป้าว่าจะอบรม Cyber Scout ได้ศูนย์ละ 100 คน ใน1,000
ศูนย์ก็จะได้ลูกเสือที่ผ่านการอบรม 100,000 คน ในจำนวนทั้งหมดขอแค่ 5%
ที่จะทำเพื่อพระเจ้าอยู่หัว คือ เขาสละเวลาวันละ 1
ชั่วโมงไปเสิร์ชในเว็บไซต์ต่างๆ ถ้าเจอข่าวดีๆเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจ
พระบรมราโชวาท หรือคุณงามความดีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ก็เอาข่าวเหล่านี้ไปเผยแพร่โพสต์ตามเว็บ ฯ
ไปเผยแพร่ต่อหรือโพสต์บนเว็บที่มีข้อความหมิ่นสถาบัน
เพื่อให้คนทั่วไปได้อ่าน และเปรียบเทียบข้อมูลสองทาง
ใช้วิธีการเตือนสติแบบนี้'

การ ตั้ง Cyber Scout
คือการนำพลังบริสุทธิ์ที่ปรารถนาทำด้วยใจของเยาวชน
และกลุ่มคนที่รักพระเจ้าอยู่หัวไปต่อสู้กับอธรรมซึ่งใช้พลังเงินว่าจ้างคน
มาสร้างเว็บไซต์ไม่เหมาะสม บ่อนทำลายความศรัทธาต่อสถาบันของคนไทย

'ก็ รู้กันว่าทักษิณจ้าง 200 คนมาทำการนี้โดยเฉพาะ
คนหนึ่งคีย์ข้อมูลไป 50 เว็บ 200 คน วันหนึ่งๆ ก็ 10,000 หน้าแล้ว
เราจะสู้กับเขาก็ต้องสู้ด้วยวิธีนี้เพราะเราไม่มีเงินไปจ้างก็ต้องเอาคนไทย
ที่รักในหลวงมาช่วยกันทำ เมื่อทำตรงนี้เป็นรูปเป็นร่าง ก้าวต่อไป
ผมก็จะขอให้ไปโยงกับคนที่เล่น facebook ที่รักในหลวง
พวกนั้นยังมีอีกหลายแสนให้มาช่วยกันสู้กับไอ้หน้าเหลี่ยมให้ตายกันไปข้าง
หนึ่ง เราเอาความสุจริต ความบริสุทธิ์ของเด็ก ของคนรักชาติ ไปสู้กับมัน'

นับว่าไอเดียของรมว.ไอซีที 'จุติ' เป็นแนวคิดนอกกรอบ
เป็นเรื่องของสงครามข้อมูลข่าวสาร
เป็นการรวมใจเอาพลังบริสุทธิ์มาช่วยต่อต้านอธรรม
ขณะเดียวกันก็สามารถสร้างสำนึกที่ดีต่อสถาบันกับเยาวชน
และช่วยให้ข้อมูลสองด้านแก่ผู้คนทั่วโลก นำมาซึ่งความสันติ
และความสามัคคีของคนในชาติ
ช่วยให้สถาบันพระมหากษัตริย์ดำรงอยู่อย่างสง่างามในใจของคนไทยและคนทั้งโลก
ต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น