++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันจันทร์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ชีวิตพิสดารของสัตว์ - โท้ด (toad) คางคก (๑)

ประพันธ์ บุญกลิ่นขจร


            การเขียนคำว่า โท้ด โดยมีไม้โทกำกับด้วยนั้น ผมเขียนโดยพลการ ไม่ได้ยึดถือราชบัณฑิตยสถานแต่อย่างใด ราชบัณฑิตท่านไม่นิยมให้ใส่วรรณยุกต์กับคำปะกิต แต่ท่านยกเว้นให้บางคำ เช่น คำที่เขียนหรือใช้กันจนติดแล้วอย่างคำว่า รักบี้ กับบางคำที่ถ้าหากไม่ใส่วรรณยุกต์แล้วจะเหมือนคำไทยที่มีความหมายคนละเรื่องคนละราวไปไกลลิบ อย่างคำว่า โคม่า ถ้าเขียนว่า อาการไข้ของเขาอยู่ในขั้นโคมา ฟังแล้วก็รู้สึกสับสนมากว่า วัวมาทำไม จะไปไหน แล้วควายไม่ได้มาด้วยหรือไง ก็อะไรทำนองนี้แหละครับ คำว่าโท้ดของผมหากเขียนตามราชบัณฑิตย์ท่านก็คงจะเขียนเป็น โทด และก็คงจะอ่านด้วยเสียงเดียวกับคำว่า โทษกันเป็นการใหญ่ ยกเว้นท่านที่รู้ภาษาปะกิตหรือรู้ศัพท์คำนี้ดี เรื่องวรรณยุกต์กับภาษาต่างด้าวนี้นักอักษรศาสตร์ และนักภาษาศาสตร์จำนวนหนึ่งแอบนินทาราชบัณฑิตยสถานมานาน เพราะสงสารเด็กๆว่าจะอ่านไม่ถูก  และถ้าเกิดครูเอาไปออกข้อสอบด้วยยิ่งน่าสงสารใหญ่ คงจะสอบตกกันกราวรูด หรือ มิฉะนั้นเด็กๆก็ต้องท่องจำกันโกลาหลไป เปลืองเวลาเปลืองสมองของเด็กๆไปเปล่าๆปลี้ๆ กระผมเองไม่ได้เป็นทั้งนักภาษาศาสตร์และอักษรศาสตร์ แต่เป็นนักใช้ภาษาแบบไม่คอยจะเป็นอักษร หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งเป็นนักใช้อักษรแบบไม่ค่อยจะเป็นภาษา เฮ้อ.. ลมจะใส่ เพระงั้นจึงไม่อาจเอื้อมที่จะไปถกเถียงหรือร่วมวงนินทาใครต่อใครเขาได้

            อย่างเก่งผมก็ได้แค่เอาเรื่องลับของประดาสัตว์โลกที่น่ารักทั้งหลายมาไขในที่แจ้ง อย่างที่ผมกำลังเอาเรื่องของคางคกหรือโท้ดมาสำแดงอยู่ในขณะนี้

            ที่ยุโรปมีคางคกอยู่หลายชนิด ที่มีอะไรแปลกๆสมควรนำมาเล่าสู่กันฟังก็คือ มีอยู่สองชนิดที่อาศัยอยู่ในน้ำ มนุษย์เผือกของยุโรปตั้งชื่อให้มันว่าคางคกท้องเหลืองชนิดหนึ่ง กับคางคกท้องแดงอีกชนิดหนึ่ง ที่แปลกก็เพราะสีที่ท้องของมันสดใสมาก เป็นสีที่มันทำให้ศัตรูตกใจกลัว คางคกพวกนี้ลำตัวทั่วๆไปจะเป็นสีมืดๆ เฉพาะใต้ท้องเท่านั้นมีสีสไปร์ทอย่างว่า เวลาตกใจหรือศัตรูเข้ามาใกล้มันก็จะจัดการแอ่นหน้าอกหราทันที ปฏิบัติกันอย่างนี้ทั้งตัวผู้ตัวเมียและกระเทย (ถ้ามี) ไอ้ที่อกเต่งๆ ตึงๆก็มี ไอ้ที่เหี่ยวๆหรือแบนแต๊ดแต๋ก็มี เรื่องอย่างนี้ไม่ว่ากัน แต่ที่น่าสังเกตก็คือ ไม่มีของปลอมในโลกของคางคก เมื่อแอ่นอกได้ที่แล้วมันก็จะล้มตึงลงนอนหงายท้อง ขาชี้ฟ้าโด่เด่ ท้องสีเหลือง หรือสีแสดก็จะกระจ่างแจ้งออกมาอย่างเต็มที่ จากนั้นมันก็นอนแน่นิ่ง ไม่ไหวติงอยู่อย่างนั้น ทำทีว่าตายไปแล้ว ... นี่แหละครับวิธีเอาตัวรอดของคางคกพวกนี้ สีกาไม่ควรจะเอาเยี่ยงอย่างเป็นอันขาด

            นอกจากนั้นแล้วก็ยังมีคางคกอีกชนิหนึ่ง คนยุโรปเรียกกันว่า คางคกหมอตำแย แค่ได้ยินชื่อก็สะดุ้งเฮือกแล้วใช่ไหมครับ ผมเองก็ยังสะดุ้ง  และครั้นได้รู้ลึกซึ้งเข้าไปอีกก็ถึงกับสะดุ้งเป็นหนที่สอง  รำพึงกับตัวเองว่า โชคดีแท้ๆ ที่ไม่ได้เกิดมาเป็นมิสเตอร์คางคกหมอตำแย เรื่องมันเป็นยังงี้ครับ คางคกพวกนี้เวลาตัวเมียวางไข่ ไข่ของมันจะฝังตัวอยู่ในเส้นวุ้นใสๆยาวยืด มีด้วยกันสองเส้น ตัวผู้จะจัดการเข้าไปปล่อยน้ำเชื้อเพื่อผสมกับไข่ แล้วก็จะเหยียดขาหลังทั้งคู่ออกไปพันเอาเส้นวุ้นใสๆนั้นขึ้นมาไว้กับส่วนท้ายของลำตัว ซึ่งก็คือว่าในที่สุดวุ้นเส้นก็จะมาพันอยู่รอบๆเอวของมันนั่นแหละครับ เมื่อเสร็จภารกิจแล้ว มิสซิสคางคกหมอตำแยก็หมดหน้าที่ เธอจะไปแรดที่ไหนๆต่อไปก็ตามแต่ใจปรารถนาของเธอเอง ไม่มีความผูกพันกับไข่ที่นายหมอตำแยรับเอาไปคล้องคอนั้นแต่อย่างใดทั้งสิ้น

            ฝ่ายนายหมอตำแยตัวนั้น เมื่อหลวมตัวเข้ามาถึงป่านนี้ แล้ว ก็ก้มหน้าก้มตารับกรรมไปโดยมิได้ปริปาก กระโดดตุ้บตั้บออกหากินไปทางไหนเส้นวุ้นที่บรรจุไข่ไว้เต็มนั้นก็จะกระทบเปียกกระทบแห้งไปเรื่อยๆ ถูกน้ำบ้างถูกน้ำค้างตามยอดหญ้าบ้าง จนเมื่อถึงเวลาไข่จะฟักออกมาเป็นตัวนั่นแหละ หมอตำแย "ฉันผู้ชายนะยะ" ตัวนี้ก็จะลงแช่ในน้ำ หน้าที่หมอตำแยจะเสร็จสิ้นลงเมื่อลูกของมันฟักออกมาเป็นตัวหมดแล้ว

        (อ่านต่อตอนที่ ๒)
           
           

ที่มา ต่วยตูน ฉบับเดือนตุลาคม ๒๕๓๐ ปีที่ ๑๗ เล่มที่ ๒

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น