++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพฤหัสบดีที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์

จากการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลของพรรค ฝ่ายแค้นสองวันที่ผ่านมา ทำให้คนไทยได้เห็นธาตุแท้ของคนจำพวกหนึ่ง ซึ่งละทิ้งความเป็นมนุษย์และความเป็นสัตว์ประเสริฐอย่างสิ้นเชิง ดังนั้นความรู้สึกของคนไทยที่เข้าใจสถานการร์ของบ้านเมืองเป็นอย่างดี เมื่อได้ฟังคนพวกนี้สำรอกโป้ปดมดเท็จ บิดเบือนได้อย่างหน้าตาเฉย จึงเชื่อได้ว่าผู้คนทั่วไปต้องรู้สึกสะอิดสะเอียนเป็นอย่างยิ่ง

บุคคล ที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้แทนของราษฏร์ มีการศึกษา มีฐานะ มีเกียรติในสังคม ตลอดจนเป็นที่นับหน้าถือตาในท้องถิ่น ได้ลดตัวเองและเปิดเผยตัวตนให้ผู้คนได้เห็นธาตุแท้ โดยยอมละทิ้งศักดิ์ศรีอันดีงามที่พึ่งมีพึ่งเป็นจนหมดสิ้น และเป็นเรื่องแปลกที่คนพวกนี้ยอมกระทำสิ่งที่ฝืนความรู้สึกของความเป็น มนุษย์ได้อย่างไม่ละอายใจต่อตัวเองและลูกหลานวงศ์ตระกูล

นอกจาก ภาพลักษณ์ที่ปรากฏให้เห็นในสภาอันทรงเกียรติของบรรดานักการเมืองพรรคเผาไทย แล้ว ภาพที่ได้เห็นตลอดสองเดือนเศษ ๆ ที่ผ่านมา เมื่อนำภาพเหล่านั้นมาปะติดปะต่อเป็นเรื่องราวก็จะเห็นว่าคนพวกนี้เสมือนตก อยู่ในมนต์สะกดจิตอย่างใดอย่างหนึ่ง จนกระทั้งสามารถที่จะทำอะไรก็ได้แม้กระทั้งล้างสมองมวลชน เกณฑ์มวลชน ปลุกระดมมวลชน ยุยงมวลชน ส่งสัญญานมวลชน เพื่อเผาบ้านเผาเมือง และเข่นฆ่าผู้คนได้อย่างโหดอำมหิต ตลอดจนดาหน้ากันขึ้นเวทีกบฏแดงพูดจาด้วยวาจาไม่ต่างกับกุ๊ยข้างถนน เพียงเพื่อสนองตัณหาความอยากมีอยากได้ ภายใต้การบงการของคน ๆ เดียว ที่มีฐานะเป็นหัวหน้าผู้ก่อการร้ายในขณะนี้

ทั้งหลายทั้งปวงที่เกิด ขึ้นของนักการเมืองสังกัดพรรคเผาไทย และบรรดาผู้คนบางคนบางกลุ่มในแผ่นดินนี้ เป็นเพียงเครื่องมือของหัวหน้าผู้ก่อการร้าย อันมีเงินเป็นสิ่งล่อใจและความหวังลม ๆ แล้ง ๆ เป็นสรณะ จนกล้าที่จะร่วมกันเผาบ้านเผาเมืองได้อย่างเลือดเย็น ที่กล่าวเช่นนั้นวิคราะห์ได้ดังนี้

1. ความเชื่อว่าการป่วนเมืองป่วนเมืองด้วยการวางแผนของขบวนการกบฏแดง โดยมั่นใจเต็มเปี่ยมว่าการทุ่มทุนอย่างมหาศาลเพื่อผลิกฟ้าผลิกแผ่นดิน จะประสบความสำเร็จ ทุกคนที่ร่วมขบวนการจึงคาดหวังว่าจะได้เป็นใหญ่กันอย่างถ้วนทั่วหน้า ดังนั้น บรรดานักการเมือง นักวิชาเกิน ดารานักแสดงรุ่นเก๋า ผู้นำท้องถิ่น ทหารแก่ทรยศชาติ ทหารเกษียณอกหัก ทหารแตงโม ตำรวจมะเขื่อเทศ สื่อมวลชน ตลอดจนบรรดาดีเจวิทยุชุมนุม กลัวตกขบวนจึงกระโดออกมาเปิดเผยโฉมกันจนหมดสิ้น
2. ความมักใหญ่ใฝ่สูงของพวกนักการเมือง ที่หลงติดหลงยึดในตำแหน่ง ลาภยศ สรรเสริญ กลัวที่จะไม่ถูกคัดเลือกเป็นตัวแทนลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งหน้าในนามพรรค เผาไทย ด้วยคำขู่ของหัวหน้าผู้ก่อการร้าย เพราะนั้นหมายถึงลาภยศ สรรเสริญ ตลอดจนท่อน้ำเลี้ยงจะสูญสิ้นไปด้วย จึงต้องลงแรงทำความชั่วได้อย่างเต็มความสามารถ ทั้งในสภาและนอกสภา

3. ความหวังที่จะได้รับการเสนอตัวเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งครั้งหน้าของบรรดา ดีเจวิทยุชุมนุม ผู้นำท้องถิ่น ด้วยการให้ความหวังอย่างเต็มเปี่ยมของหัวหน้าผู้ก่อการร้าย ดังนั้น คนกลุ่มนี้จึงทุ่มแรงทุ่มใจอย่างเต็มที่ ทั้งปลุกระดม ทั้งล้างสมอง มวลชนเสื้อแดง จนนำไปสู่การขนมวชชนเสื้อแดงเข้ากรุงป่วนบ้านเผาเมือง พร้อมทั้งปลุกระดมให้มวลชนเสื้อแดงเผาศาลากลางจังหวัด เมื่อได้รับสัญญาณจากเวทีกบฏแดง

4. ความฝันของพวกคอมมิวนิสต์หลงยุค ที่จะฉวยโอกาสใช้เงินของหัวหน้าผู้ก่อการร้าย ปลุกระดมล้างสมองมวลชนเสื้อแดง เพื่อเปลี่ยนแปลงการปกครอง ล้มเจ้า อย่างเป็นระบบ

5. ความอาฆาตแค้นของทหารอกหัก และทหารแก่เกษียณ ที่ต้องการผลิกสถานการณ์ให้ตัวเองได้กลับเป็นใหญ่ในกองทัพและเวทีการเมือง จึงร่วมวางแผน วางยุทธศาสตร์ ยุทธวิธี ในการทำสงครามจรยุทธล้มรัฐบาลอย่างเป็นระบบ

6. ความละโมบโลภมากของตำรวจมะเขื่อเทศ จากที่เคยได้สมัยหัวหน้าผู้ก่อการร้ายมีอำนาจ เมื่อสิ่งที่เคยได้หายไป จึงโหยหาที่จะได้เหมือนเดิม จึงไม่ลงแรงทำงานตามหน้าที่ด้วยการใส่เกียร์ว่าง แต่ให้บรรดาเมีย ๆ (เป็นที่ทราบกันดีว่าเมียตำรวจจะสวย แต่ปัญญานิ่ม) ลงแรงออกไปร่วมเป็นม็อบเสื้อแดง นี้คือเหตุผลหนึ่งที่ตำรวจมะเขือเทศต้องใส่เกียร์ว่างเพราะถ้าบุกเข้าสลาย ม็อบก็กลัวจะต้องไปผลักดันชักเย่อกับเมียตัวเอง

7. ความเป็นทาสของสื่อมวลชนบางคนบางกลุ่ม ที่เคยได้รับการปรนเปรอจากหัวหน้าผู้ก่อการร้าย จึงยอมตัวเป็นกระบอกเสียงบ่อนทำลายชาติบ้านเมือง ได้อย่างไม่ต้องคำนึงถึงจรรยาบรรณของวิชาชีพแต่อย่างใด ซึ่งในที่นี้รวมถึงสำนักโพลล์บางสำนักที่ตกเป็นเครื่องมือเช่นกัน

จาก ตัวอย่างข้างต้น นี้คือปัญหาของประเทศที่จะต้องปฏิวัติปฏิรูปกันขนาดใหญ่ ทั้งพรรคการเมือง นักการเมืองกบฏแดง โดยเฉพาะสำนักงานตำรวจมะเขือเทศ คือสิ่งที่จะต้องเร่งทำก่อนเป็นอันดับแรก และควบคู่กับการเปลี่ยนสมองของพวกมวลชนคนเสื้อแดงให้กลับสู่ภาวะปกติ มิใช่ผันตัวเองจากชาวบ้านรากหญ้าเรียกร้องประชาธิปไตย กลายเป็นพวกสนับสนุนผู้ก่อการร้าย เปลี่ยนแปลงการปกครองและล้มสถาบัน โดยตกเป็นเครื่องมือปล้นสะดมเผาบ้านเผาเมือง ไม่ต่างจากโจร เพื่อให้เป็นไปตามแผนขบวนการกบฏแดง

เมื่อผู้คนในบ้านเมืองไร้ซึ่ง ศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ ย่อมกระทำการใด ๆ ได้แบบขาดสติ ขาดสมอง ขาดปัญญา เพียงเพราะผู้คนเหล่านี้ติดยึดใน โลภะ โทสะ โมหะ จึงไม่ควรที่จะได้รับการยกย่องเป็นคนเป็นมนุษย์อีกต่อไป

ประชาชน
2 มิถุนายน 2553

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น