++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันจันทร์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2553

"น้ำโขง" ฟื้น-ระดับน้ำเพิ่มเรือสินค้าเปิดวิ่งตรงเชียงรุ่ง-เชียงแสนคึกคักอีกรอบ

เชียงราย - น้ำโขงเริ่มคืนชีพอีกครั้ง
หลังระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นเมื่อย่างเข้าหน้าฝน
ล่าสุดเรือจีนเปิดวิ่งตรงจากเชียงรุ่ง-เชียงแสน กันอย่างคึกตักอีกครั้ง
หลังจากที่ต้องหยุดยาวช่วงกุมภาฯ-เมษาฯ 53 ที่น้ำโขงแห้งขอด

หลังจากระดับน้ำในแม่น้ำโขงแห้งลงต่อเนื่องมานาน จนทำให้ผู้คน 2
ฝั่งลุ่มน้ำโขงทั้งในเขตพม่า ลาว ไทย กัมพูชา เวียดนาม
ประสบกับความเดือดร้อนมาอย่างยาวนาน เรือสินค้า-ท่องเที่ยว
ต้องหยุดวิ่งตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์-เมษายน 53 ที่ผ่านมา
ขณะนี้ระดับน้ำโขง ได้กลับมาเพิ่มสูงขึ้นตามฤดูกาลอีกครั้ง
จนทำให้เรือสินค้าในแม่น้ำโขงกลับมาแล่นเรือระหว่างท่าเรือเชียงรุ้งหรือจิ่งหง
เขตปกครองตนเองสิบสองปันนา มณฑลหยุนหนัน ผ่านเมืองท่าต่างๆ มายังท่าเรือ
อ.เชียงแสน จ.เชียงราย อย่างคึกคักเช่นเดิม

โดยเรือส่วนใหญ่ติดธงสัญชาติจีนและระบุว่ามาจากท่าเรือเชียงรุ้งโดยตรง
ซึ่งแตกต่างจากช่วงที่แม่น้ำโขงแห้งต่ำกว่า 1.40
เมตรจนไม่สามารถแล่นเรือได้หรือแม้แต่ช่วงที่ระดับน้ำกระเตื้องขึ้นบ้างช่วงเดือน
เม.ย.-พ.ค.ก็มีเพียงเรือสินค้าจากท่าเรือสบหรวย ประเทศพม่า และใน สปป.ลาว
เท่านั้น

นายอภิสิทธิ์ คำภิโล ขนส่งทางน้ำที่ 1 สาขาเชียงราย กล่าวว่า
การเดินเรือในแม่น้ำโขงขณะนี้ถือว่าเข้าสู่ภาวะปกติ โดยระดับน้ำลึกเกือบ
2 เมตร ทำให้มีเรือสินค้าขนาดประมาณ 200 ตัน
แล่นเข้าออกท่าเรือเชียงแสนวันละ 6-10 ลำ
ส่งผลทำให้การค้าชายแดนที่ท่าเรือเชียงแสนกลับมามีความคึกคักขึ้นอีกครั้ง

นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า
ส่วนการที่ท่าเรือเชียงรุ้งไม่อนุญาตให้เรือสินค้าแล่นเข้าออกท่าเรือช่วงเดือน
มี.ค.-เม.ย.ที่ผ่านมานั้น
ตนคาดการณ์ว่าน่าจะเกิดจากแม่น้ำโขงแห้งซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุกับเรือและไม่เหมาะสมที่จะขนสินค้าเพราะเรือจะเกยตื้นได้ง่าย
ดังนั้นจึงถือโอกาสทำการซ่อมแซมปรับปรุงหรือตรวจสภาพเรือในช่วงนั้นเสียเลย
เพื่อจะได้เตรียมความพร้อมเข้าสู่ช่วงฤดูน้ำหลากนี้ต่อไป
ขณะเดียวกันคาดว่าเกิดจากการจัดระเบียบเรื่องใบอนุญาตการเดินเรือด้วย

ทั้งนี้ ระดับน้ำในลักษณะนี้คงจะดำเนินต่อไปและทำให้เรือสินค้าแล่นได้ตลอดทั้งปีไปจนถึงฤดูแล้งปีหน้าต่อไป

สำหรับการค้าชายแดนด้าน จ.เชียงราย ตลอดปี 2552
ที่ผ่านมามีมูลค่าการค้ารวม 14,400.21 ล้านบาท แยกเป็นการนำเข้ามูลค่า
2,603.15 ล้านบาท และส่งออกมูลค่า 11,797.06 ล้านบาท
โดยเป็นการค้ากับจีนซึ่งส่วนใหญ่ผ่านทางเรือในแม่น้ำโขงดังกล่าวสูงถึง
5,141.18 ล้านบาท แยกเป็นการนำเข้ามูลค่า 1,879.59 และส่งออกมูลค่า
3,261.59 ล้านบาท

ส่วนการค้ากับพม่ามีมูลค่ารวม 6,335.11 ล้านบาท แยกเป็นการนำเข้า
215.81 ล้านบาท และส่งออก 1,232.40 ล้านบาท และ สปป.ลาว
มีมูลค่าการค้ารวม 2,923.92 ล้านบาท แยกเป็นนำเข้า 507.75
และส่งออกมูลค่า 2,416.17 ล้านบาท

สำหรับสินค้าส่วนใหญ่ที่ขนส่งนำเข้าทางเรือที่ท่าเรือเชียงแสนยังคงเป็นสินค้ากสิกรรม
เช่น พืชผัก ผลไม้ ฯลฯ ส่วนสินค้าส่งออกส่วนใหญ่เป็นสินค้ากสิกรรม
สินค้าประมงและปศุสัตว์ เครื่องใช้ไฟฟ้าอุปกรณ์ส่วนประกอบ ฯลฯ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น