++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพฤหัสบดีที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2553

สธ.เล็งทำระบบน้ำร้อนพลังแสงอาทิตย์ 84 รพ.ชุมชนปี 54

สธ.จัดโครงการประหยัดพลังงานลดภาวะโลกร้อน นำร่องตึก
สป.ใช้หลอดประหยัดไฟเบอร์ 5 กว่า 16,000 หลอด ลดรายจ่ายค่าไฟฟ้าหลอดละ
100 บาทต่อต่อปี พร้อมขยายผลปี 54
จะเปลี่ยนระบบทำน้ำร้อนจากพลังงานแสงอาทิตย์ในรพ.ชุมชน 84 แห่งทั่วประเทศ

วันนี้ (15 มิ.ย.) ที่กระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์เสรี หงษ์หยก
รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข
เปิดอบรมข้าราชการเจ้าหน้าที่จากสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ประมาณ 300 คน
เรื่องการประหยัดพลังงานของส่วนราชการ เพื่อลดภาวะโลกร้อน ตาม
พ.ร.บ.ส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ.2535
พ.ร.บ.การส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ฉบับที่ 2 พ.ศ.2550
และพระราชกฤษฎีกากำหนดอาคารควบคุม พ.ศ.2538
ที่กำหนดให้ทุกหน่วยงานต้องดำเนินการ

นายแพทย์เสรีกล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้เร่งสนองนโยบาย
"ประหยัดพลังงานลดโลกร้อน (Save Energy Save the World)"
ของรัฐบาลและนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
นายกรัฐมนตรีที่ให้ข้าราชการทุกกระทรวง
รวมถึงหน่วยงานรัฐวิสาหกิจและองค์กรอิสระ
ร่วมมือกันลดภาวะโลกร้อนด้วยการประหยัดพลังงานและส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนซึ่งในปี
2553 กระทรวงสาธารณสุข
ได้จัดโครงการประหยัดพลังงานโดยร่วมมือกับกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน
กระทรวงพลังงาน โดยนำร่องเปลี่ยนหลอดไฟฟ้าทั้งตึกสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
จากแบบเก่าประมาณ 16,000 หลอด
มาเป็นหลอดประหยัดพลังงานหรือหลอดประหยัดไฟเบอร์ 5 แทนทั้งหมด
โดยคุณภาพความสว่างของแสงเป็นไปตามมาตรฐาน
ไม่ส่งกระทบต่อการใช้สายตาในการทำงานของเจ้าหน้าที่
ซึ่งจะช่วยประหยัดพลังงานได้ร้อยละ 22-30 ประหยัดค่าไฟฟ้าได้ปีละ 57-100
บาทต่อหลอด รวมแล้วจะลดรายจ่ายค่าไฟฟ้าลงได้ปีละประมาณ 1.5 ล้านบาท

ทั้งนี้ กระทรวงพลังงานจะสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนหลอดไฟซึ่งคิดเป็นเงินประมาณชุดละ
300-400 บาท หากลงทุนเองจะคุ้มทุนภายใน 5-7 ปี
และในปีต่อไปก็จะขยายผลไปยังหน่วยงานในสังกัดทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค

นายแพทย์เสรีกล่าวต่อว่า ในปี 2554
กระทรวงสาธารณสุขยังได้รับการสนับสนุนจากกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน
กระทรวงพลังงาน ในการนำพลังงานทดแทนมาใช้แทนการใช้ไฟฟ้าหรือเชื้อเพลิง
ติดตั้งระบบผลิตน้ำร้อนจากพลังงานแสงอาทิตย์
นำร่องในโรงพยาบาลชุมชนในพื้นที่ทุรกันดารจำนวน 84 แห่งทั่วประเทศ
และขยายผลให้ได้ 400 แห่งในปีเดี่ยวกัน เพื่อใช้ในการบริการผู้ป่วย เช่น
ใช้อาบน้ำให้ทารกแรกเกิดหรือผู้ป่วยอื่น ทำความสะอาดเครื่องมือแพทย์
การซักล้างเสื้อผ้าของใช้ต่างๆ ของผู้ป่วย
การใช้น้ำร้อนสำหรับผู้ป่วยและเจ้าหน้าที่ แพทย์ พยาบาลในโรงพยาบาล
ซึ่งจะส่งผลให้ลดการนำเข้าเชื้อเพลิงของประเทศและเป็นการรักษาสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

นายแพทย์เสรีกล่าวต่อว่า การจัดแสงสว่างในสถานที่ทำงาน
มีความสำคัญต่อผู้ปฏิบัติงาน โดยทั่วไปต้องมีความเข้มของแสงสว่าง 400
ลักซ์ หากแสงสว่างมากหรือน้อยเกินไป จะมีผลเสียต่อตา
ทำให้กล้ามเนื้อตาทำงานมากเกินไป ทำให้ปวดตา มึนศีรษะได้ วิงเวียนศีรษะ
ประสิทธิภาพและขวัญกำลังใจในการทำงานลดลง ก่อให้เกิดผลทางจิตใจ
คือเบื่อหน่ายในการทำงาน ขวัญและกำลังใจในการทำงานลดลง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น