++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันศุกร์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2553

แฉหลักฐานอัปยศ-ยกอ่างในพระราชดำริให้ฝรั่งเช่า(ฟรี) 30 ปี

เชียงราย - เปิดบันทึกอัปยศ "อดีตนายก อบต.-อดีตผู้ว่าฯเชียงราย" ยก
"อ่างเก็บน้ำในพระราชดำริ" ให้ฝรั่งฟรียาว 30 ปี
ไม่มีผลตอบแทนกลับแผ่นดินแม้แต่บาทเดียว เผยอดีตพ่อเมือง
เล่นเองสั่งตั้งคณะทำงานฯมีทั้งอดีต
นอภ.-ชลประทาน-ทสจ.-เกษตรจังหวัด-ททท.-กกท.ขึ้นพิจารณาหาเหตุผล
ก่อนใช้เวลา 3 วันอนุมัติกันหน้าตาเฉย

จากการตรวจสอบของ "ASTVผู้จัดการ "
เกี่ยวกับเงื่อนงำการอนุมัติให้ บริษัทแบ๊ค-อาร์ แพลนเน็ต เวคบอร์ด จำกัด
ที่จดทะเบียนกับสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัท จ.เชียงราย เมื่อวันที่ 14
กุมภาพันธ์ 2549 ด้วยทุนจดทะเบียน 2 ล้านบาท โดยมีกรรมการ 2 คนคือ
น.ส.ปิยะกาล ญาณกาย และนายเบคแกร์ จิล เคลาท์ แพทริค
เข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่อ่างเก็บน้ำห้วยสัก อันเนื่องมาจากพระราชดำริ
ม.5 ต.ห้วยสัก อ.เมืองเชียงราย ตั้งแต่ วันที่ 29 เมษายน2549
เป็นระยะเวลา 30 ปี โดยไม่มีการระบุถึงผลตอบแทนใด ๆ ทั้งสิ้น

ทั้งนี้ พบว่า หลังน.ส.ปิยะกาล ญาณกาย และนายเบคแกร์ จิล เคลาท์
แพทริค จดทะเบียนก่อตั้งบริษัทได้ไม่กี่วัน ก็ผลักดันจนทำให้นายวรเกียรติ
สมสร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดฯในขณะนั้น มีคำสั่ง 469/2549 ลงวันที่ 24
กุมภาพันธ์ 2549 ตั้งคณะทำงานขึ้นมาพิจารณาโครงการคอมเพล็กซ์กีฬา "กลีซ"
ของบริษัทดังกล่าว

คณะทำงานประกอบด้วย นายอำเภอเมืองเชียงราย (นายสนิท ผู้แสงทอง
นอภ.เมือง ขณะนั้น -ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว)เป็นประธานคณะทำงาน
หัวหน้าโครงการชลประทานจังหวัดเชียงราย
ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงราย(ทสจ.)
ประมงจังหวัดเชียงราย เกษตรจังหวัดเชียงราย ผอ.สำนักงาน ททท.ภาคเหนือเขต
2 ผอ.ศูนย์ กกท.เชียงราย เป็นกรรมการ และมีนายก อบต.ห้วยสัก (นายประเสริฐ
กายาไชย นายกฯอบต.ห้วยสัก ขณะนั้น) เป็นกรรมการและเลขานุการ

คณะทำงานชุดดังกล่าว ได้ใช้เวลาในการพิจารณาเพียง 3 วัน
ก่อนมีมติเห็นควรอนุมัติให้บริษัทแบ๊ค-อาร์ แพลนเน็ต เวคบอร์ด จำกัด
เข้าทำประโยชน์ในอ่างเก็บน้ำในพระราชดำริดังกล่าว เมื่อ 27 กุมภาพันธ์
2549 โดยอ้างเหตุผลว่า เพื่อเป็นประโยชน์ด้านกีฬา การท่องเที่ยว
และทำให้ราษฎรในพื้นที่ใช้เป็นสถานที่ออกกำลังกาย
พร้อมกำหนดให้มีการติดตามประเมินผลทุก ๆ 2 เดือน

อย่างไรก็ตาม ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ชาวบ้านชุมชนโดยรอบอ่างเก็บน้ำ
เคยทำเรื่องร้องเรียนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกแห่งในจังหวัด ว่า
การดำเนินงานของ บริษัทแบ๊ค-อาร์ แพลนเน็ต เวคบอร์ด จำกัด
สร้างผลกระทบให้ชาวบ้านในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง

เรื่องทั้งหมดกลับเงียบ !!
จนกระทั่งมีการยื่นทูลเกล้าถวายฎีกาครั้งนี้
ทำให้เงื่อนงำการยกอ่างเก็บน้ำในพระราชดำริให้นักธุรกิจต่างชาติเช่า
(แบบฟรี) ถูกเปิดโปงขึ้นมา

ขณะที่นายณรงค์ ปรางมณี นายก อบต.ห้วยสัก (คนปัจจุบัน) บอกว่า
นอกจากผู้บริหาร อบต.ชุดเก่า
จะเซ็นสัญญาให้บริษัทดังกล่าวมาใช้ประโยชน์ในอ่างเก็บน้ำนี้
โดยไม่มีการระบุถึงผลตอบแทนใด ๆ ทั้งสิ้นแล้ว กว่า 1
ปีที่เขาเข้ามารับตำแหน่งนายก อบต.ห้วยสัก ก็ไม่พบว่า มีการนำส่งรายได้ใด
ๆจากริษัท บริษัทแบ๊ค-อาร์ แพลนเน็ต เวคบอร์ด จำกัด มาให้
อบต.แม้แต่บาทเดียว

นายณรงค์ บอกว่า ที่ผ่านมาชาวบ้านก็มองคณะผู้บริหาร อบต.ชุดนี้
ว่า มีนอกมีในกับบริษัทดังกล่าว ทั้งที่เราเพิ่งเข้ามาได้แค่ปีเศษ
จึงต้องเข้ามาร่วมตรวจสอบ ซึ่งก็พบว่า
ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนจากการดำเนินงานของบริษัทนี้จริง
ส่วนจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ก็คงต้องรอทางชลประทานฯ
ที่ดูแลอ่างเก็บน้ำแห่งนี้อยู่ ที่ให้บริษัทยุติการดำเนินงานในอ่างภายใน
7 วัน (ครบกำหนดอังคารที่ 22 มิถุนายน 2553) หากไม่ยอม
ก็จะแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาบุกรุกต่อไปเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ (17 มิ.ย.) บริษัทแบ๊ค-อาร์ แพลนเน็ต
เวคบอร์ด จำกัด ยังไม่มีการดำเนินการใด ๆ ยังคงทิ้งอุปกรณ์บางอย่างเอาไว้
ภายในอ่างห้วยสักในพระราชดำริเช่นเดิม

นางขจีรัตน์ แสงคง อายุ 42 ปี ชาวบ้านหมู่ 13 ต.ห้วยสัก กล่าวว่า
นับตั้งแต่บริษัทนี้เข้าไปทำกิจกรรมกีฬาทางน้ำดังกล่าว
โดยอ้างเรื่องส่งเสริมการกีฬาและการท่องเที่ยว
ชาวบ้านทั้งหมดก็ไม่สามารถเข้าไปถึงพื้นที่ฝั่งตะวันตกของอ่างได้
เพราะจะถูกไล่ออกมา เขาถือเป็นที่ดินส่วนบุคคล มีป้ายติดเอาไว้ชัดเจน
ส่วนผิวน้ำก็มีการแล่นเรือและเล่นสกีกันอย่างเอิกเกริก

สิ่งที่น่าสงสัย คือ
เมื่ออ้างว่าจังหวัดอนุญาตเพื่อส่งเสริมการกีฬา
และอบต.ทำข้อตกลงกับบริษัทเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อชุมชน
แต่เหตุใดชาวบ้านไม่สามารถเข้าไปใช้ประโยชน์ได้

นางขจีรัตน์ กล่าวอีกว่า
ส่วนกลุ่มคนที่เข้าไปใช้บริการเรือและสกีน้ำ
ส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศที่ไปพักอยู่ที่รีสอร์ตแห่งหนึ่ง
ซึ่งเจ้าของบริษัทสร้างเอาไว้รองรับในฝั่งตะวันออกของอ่างเก็บน้ำ
โดยนักท่องเที่ยวจะเข้าไปเล่นกันเป็นกลุ่มๆ ละ 5-10
คนหรือบางครั้งก็มากกว่านี้
ทำเหมือนอ่างเก็บน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริของประชาชนเป็นสถานที่ทัวร์
ส่วนบุคคล

"เรื่องราคาหรือผลประโยชน์ที่บริษัทได้รับจากนักท่องเที่ยว
พวกเราชาวบ้านก็ไม่เคยรู้ว่าเขารับกันอย่างไรบ้าง
แต่คงจะเยอะและสกีน้ำก็คงเป็นส่วนหนึ่งเท่านั้น
เพราะที่นี่ถูกขีดเป็นที่ส่วนบุคคลมาตลอด
เมื่อพวกเราเข้าไปใกล้ก็จะถูกไล่ออกมาเหมือนไม่ใช่เจ้าของ
เพราะเขาจะมีการ์ดเป็นวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งคอยดูแลไม่ให้คนนอกเข้าไป"
นางขจีรัตน์ กล่าว

ด้านนายปรีชา ไพจิตราสคนธ์ ผู้อำนวยการส่วนปฏิบัติการ
สำนักงานโครงการชลประทาน จ.เชียงราย กล่าวว่า
อ่างเก็บน้ำห้วยสักอันเนื่องมาจากพระราชดำริจัดตั้งขึ้น
เพราะประชาชนเรียกร้องใน 3 เรื่องหลักๆ คือ
1.เพื่อใช้น้ำสำหรับประโยชน์ทางการเกษตร 2.เพื่อนำน้ำไปใช้อุปโภคบริโภค
และ 3.เพื่อการประมง แต่สภาพที่ผ่านมาหลังเอกชนเข้าไปดำเนินการปรากฏว่า
ส่งผลกระทบต่อชาวบ้านเ พราะน้ำขุ่นใช้ในการทำประปาไม่ได้
ส่วนการประมงก็หาปลาไม่ได้เพราะเรือแล่นไปมาและปลาก็ไม่วางไข่ ดังนั้น
จึงขอให้ชาวบ้านรอมาตรการดังกล่าวก่อนเพื่อให้ได้ใช้ประโยชน์เหมือนเดิม

http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9530000083453

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น