++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพุธที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2553

สร้างบุญได้...แม้ไม่มีเงิน ...

ผู้ที่ยากจนมาก ๆ ไม่มีเงินจะทำบุญ มีวิธีอื่นที่จะสร้างบุญได้หรือไม่


วิธี จะสร้างบุญมีเยอะ แต่ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจเสียก่อนว่า
เราเอาบุญมาทำอะไร ถ้ารู้ว่าเอาบุญมาทำอะไรแล้ว เดี๋ยวจะเห็นว่า
วิธีสร้างบุญมีช่องทางอยู่เยอะ


บุญ เป็นธาตุกายสิทธิ์ประเภทหนึ่ง เมื่อเกิดขึ้นมาแล้ว มีฤทธิ์
ทำให้ใจทั้งผ่องด้วย ทั้งใสด้วย แถมชุ่มชื่นเบิกบานอิ่มเอิบอีกต่างหาก
ที่อยากได้บุญกันนั้น เพราะว่าจะเอามาทำให้ใจผ่อง ใจใส ใจอิ่มเอิบ
เบิกบาน นี้เป็นหลักทีเดียว นอกนั้นเป็นของแถม เช่น มีบุญมากๆ
ก็จะทำให้ทำมาค้าขึ้น มีบุญมากๆ จะทำให้ยศถาบรรดาศักดิ์ บังเกิดง่ายขึ้น
ตรงนี้ขอยกไว้ก่อน บุญที่จะเอามาให้ทำใจผ่องใส คือบุญจากอะไรบ้าง


บุญ จากการทำทาน ตักบาตรกันตอนเช้า ได้บุญแน่
ที่รู้มาเห็นกันมาตั้งแต่เล็ก ๆ รักษาศีล ท่านก็บอกว่าได้บุญ
หลวงพ่อก็เคยตั้งปัญหาถามครูบาอาจารย์ตั้งแต่อยู่ชั้นประถม
ชั้นมัธยมแล้วว่า รักษาศีลนี่มันได้บุญอย่างไร ก็ไม่เห็นได้ทำอะไร
อยู่เฉย ๆ แล้วบอกว่าได้บุญ

ที่เขาไม่ฆ่าสัตว์ คือรักษาศีลข้อที่ ๑ ได้บุญตรงไหน
ได้บุญตรงที่ให้ความปลอดภัยกับชีวิตผู้อื่น เพราะฉะนั้นเข้าใกล้ใคร คน ๆ
นั้นเขาก็ผ่องใสขึ้นมาว่า ชีวิตเขาปลอดภัยแน่ ตัวเราเองก็ใจใสทีเดียวว่า
ไม่มีเวรไม่มีภัยกับใครแน่ ตรงนี้บุญเกิด


ไม่ลักทรัพย์ ไม่คดไม่โกงใคร ศีลข้อที่ ๒ ได้บุญตรงไหน
ได้บุญเพราะให้ความปลอดภัยอีกเหมือนกัน ให้ความปลอดภัยในทรัพย์สิน
ใครมีทรัพย์มีสินเขาก็ห่วง กลัว มันจะหมดไป หายไป พอมั่นใจว่าเราไม่โกง
ไม่ขโมยเท่านั้นแหละ ใจเขาใสขึ้นมา หมดกังวล
เราเองผู้ให้ความปลอดภัยกับเขา คือตั้งใจไว้แล้วว่า
ทรัพย์สมบัติของใครไม่อยากได้ ถึงจะมีคุณค่าวิเศษอย่างไร ไม่สน
อย่างนี้เราก็ใจใส ใจผ่อง บุญเกิดตรงนี้เอง
เพราะว่าความโลภมันไม่มาบดบังใจ ความโกรธมันไม่มาบดบังใจ
ความหลงมันไม่มาบดบังใจ ใจมันใส ใจมันผ่อง


รักษาศีลข้อที่ ๓ ดีๆ คือให้ความปลอดภัยต่อคู่ครองของเขา
ลูกเขาเมียใครไม่ไปยุ่งด้วย สามีเขาก็หน้าบาน ใจมันใส เราเองก็ใจใส
เพราะไม่ได้ข้องแวะกับใคร


รักษาศีลข้อที่ ๔ เราก็ให้ความจริงใจกับทุกคนที่เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย
มนุษย์กังวลเรื่องอะไร ก็กังวลเรื่องความไม่จริงใจกัน
แม้สามีภรรยาพอระแวงว่าไม่จริงใจกันเท่านั้นแหละ บ้านก็จะระเบิดออกมาแล้ว
ถ้าเราให้ความจริงใจ ไม่โกหกใครเลย ผู้ที่เกี่ยวข้องกับเรา
ก็จะใจใสขึ้นมา เราก็ยิ่งใจใสหนักเข้าไป เพราะเราเป็นผู้ให้
ยิ่งเราไม่กินเหล้าเมายา ไม่เผลอสติซึ่งเป็นต้นทางแห่งความดี
เมื่อเราไม่ไปแตะต้องสิ่งเหล่านี้ ความไม่มีเวรมีภัยทุก
รูปแบบก็เกิดขึ้นกับเรา
และพร้อมจะแจกความไม่มีเวรไม่มีภัยนี้กับทุกคนที่เข้าใกล้เรา
เพราะฉะนั้นพอเรารักษาศีล ๕ ได้ ทั้งเนื้อทั้งตัวเราเป็นร่างกายแห่งบุญ
เป็นโรงผลิตบุญเคลื่อนที่ ใครเข้าใกล้เราก็ใจใส
ตัวเราเองก็ผลิตบุญเรื่อยไป ใจก็ใส เพราะฉะนั้น
ให้ทานด้วยทรัพย์สินสิ่งของ นั่นก็ทำให้ใจใส ก็ได้บุญ รักษาศีล
ให้ความปลอดภัยสารพัดรูปแบบ ก็ได้บุญ นอกจากนี้ เรายังมีสมบัติขุมอื่นๆ
อีกเยอะ ที่จะเปลี่ยนเป็นบุญได้ เช่น อะไรบ้าง ความรู้
ถ้าให้ถูกที่ก็เปลี่ยนเป็นบุญได้ เรี่ยวแรงของเรา
ก็สามารถเปลี่ยนเป็นบุญได้ ใครจะทำบุญทำทานที่ไหน เราไม่มีเงินไปทำ
กระโดดเข้าไปช่วยเขาประกอบการบุญการกุศลนั้นๆ เอาแรงไปเป็นทาน
ช่วยให้งานบุญเขา สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี เราก็ได้บุญ
อย่าว่าแต่เอาเรี่ยวแรงไปทำ แม้เอาเสียงของเราไปทำทาน เช่น
ใครเขาจะทำความดีอะไร เราก็เชียร์ ไปเลยว่าดี พอเชียร์เข้าไป
มันเป็นการให้กำลังใจเขา ใจเราก็ใสขึ้น คนได้ยินเสียงเชียร์
เขากำลังจะทำดีอยู่แล้ว พอได้ยินเสียงเชียร์เข้า ก็คึกคักขึ้น
เขาก็เลยทำบุญได้เต็มที่ขึ้น


หรือมี คนมาสนับสนุนให้ทำบุญยิ่งๆ ขึ้นไปอีก เราก็เลยพลอยได้บุญไปด้วย
เพราะฉะนั้นแค่เสียงเชียร์ยังได้บุญ
ถ้าในเสียงเชียร์นั้นแถมเอาความรู้ที่เรามีอยู่ไปให้อีกด้วย
มันเลยไม่แค่เสียงเชียร์ มันกลายเป็นว่าเราให้ธรรมทานไปด้วย
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสเอาไว้ว่า การให้ธรรมทาน ชนะการให้ทั้งปวง
คือได้บุญเยอะกว่าทานประเภทอื่นเสียอีก มองภาพนี้ชัดๆ แล้วเราจะเห็นว่า
ถ้าอย่างนั้นเรามีช่องทางที่จะทำบุญอีกเยอะเลย เห็นใครทำบุญ ทำทาน
เราไม่มีเวลาเข้าไปช่วย ยกมือสาธุ ขออนุโมทนาในจิตกุศลของท่านที่ทำบุญ
ทำทานหรือทำความดี ยกมือเปล่งวาจาแค่สาธุเท่านั้น บุญก็เกิด ยังไม่พอ
วันนี้อยู่คนเดียว เหลียวซ้ายแลขวาไม่รู้จะไปทำทานให้กับใคร
ถามตัวเองวันนี้ยังคับแค้นใจเมื่อนึกถึงหน้าใครคนใดคนหนึ่งไหม พอนึกได้
อ้อ! นาย ก นาย ข นึกถึงทีไรทำให้ขุ่นใจ เรื่องในอดีตอย่างนั้นๆ
โผล่ขึ้นมาเป็นฉาก ก็ให้อภัยทานทั้งๆ ที่นอนอยู่ในบ้านนั่นแหละ
นั่นก็ยังได้บุญ


คนมีปัญญาช่องทางที่ จะหาบุญมาใส่ตัวมีมากมายมหาศาลนัก ไม่รู้จะทำอะไร
วัดพระธรรมกายก็ได้ วัดต่างๆ ก็ได้ เขาต้องการผู้มาช่วยงานเยอะแยะ
อย่างวัดพระธรรมกาย ต้องการใคร ต้องการผู้นำบุญ
คือนำข่าววัดว่าทำบุญทำทานอย่างนั้นอย่างนี้ ทำความดีงาม
อย่างนั้นอย่างนี้ ช่วยเอาไปประกาศให้ชาวโลกเขารู้ อย่างนี้ก็ได้บุญ
ไม่รู้จะทำอะไร หลับตาภาวนาทำสมาธิของเราไปก็ได้บุญ
หาบุญได้ทุกลมหายใจเข้าออก หายใจเข้าก็นึกถึงความตายบ้าง ความโลภ
ความโกรธ ความหลง ความขุ่นมัวในใจมันหมดไป หายใจออกนึกถึงความตายบ้าง
จะได้เลิกโลภ เลิกโกรธ เลิกหลง ท่านบอกว่าหายใจเข้าออก อย่างนี้
ไม่ใช่หายใจทิ้งเปล่า หายใจแล้วได้บุญด้วย พระที่ห้อยอยู่บนคอก็เหมือนกัน
อย่าห้อยเปล่า ตื่นเช้าขึ้นมาก็ยกขึ้นมาพิจารณา
จำลักษณะมหาบุรุษของท่านให้ดี แล้วก็อาราธนา
ให้ท่านไปนั่งอยู่กลางท้องที่ศูนย์กลางกายของเรา จะยืน จะเดิน จะนั่ง
จะนอน จะทำงานการ อะไรนึกถึงองค์พระ ถ้าอย่างนั้นไม่ว่าทำงานอะไรไป
นอกจากได้งาน ได้เงินแล้ว ก็ยังได้บุญต่อไปอีก


ก่อนจะนอนสำรวจ ตรวจสอบว่าวันนี้ทำความดีอะไรไว้บ้าง
ทำความไม่ดีอะไรไว้บ้าง เป็นการตรวจสอบบัญชีบุญ บัญชีบาป ประจำวันของเรา
ไปพบบัญชีบาปเข้า ก็สัญญากับตัวเองว่าพรุ่งนี้จะไม่ทำอีก อย่างนี้มันบาป
ส่วนว่าอะไรที่เป็นบุญ สำรวจตรวจสอบแล้ว ชัดเจนขึ้นแล้ว
พรุ่งนี้ก็จะทำต่อ แล้วก็ล้มตัวลงนอน ก่อนจะนอน
อาราธนาองค์พระในตัวที่ตั้งเอาไว้ตั้งแต่เช้ามาว่าหลวงพ่อช่วยขยายองค์โตๆ
หน่อย ลูกขออนุญาต ไปนอนอยู่กลางท้องหลวงพ่อ
หรือยังนึกขยายองค์พระไม่ออกไม่เป็นไร นอนคืนนี้นึกถึงองค์พระใส ๆ
เกิดขึ้นที่กลางกาย นึกจนกระทั่งหลับไป หลับอย่างนี้ หลับพร้อมกับองค์พระ
ถ้าฝันก็ไม่ฝันเรื่องอื่นหรอก ฝันว่าไปเจอพระพุทธเจ้า
ฝันว่าไปเจอพระอรหันต์ แม้ในความฝันยังได้บุญเลย ทำอย่างนี้ไปทุกวัน
ทุกคืน ทำตั้งแต่วันนี้จนกระทั่งวันตาย บุญมีให้เรา เกิดขึ้นกับเรา
ทั้งหลับ ทั้งตื่น ทั้งยืน เดิน นั่ง นอน นี่แหละคนมีบุญเขาทำกันอย่างนี้

..บุญ เป็นธาตุกายสิทธิ์ประเภทหนึ่ง เมื่อเกิดขึ้นมาแล้ว
มีฤทธิ์ทำให้ใจผ่องด้วย ทั้งใสด้วย แถมชุ่มชื่อเบิกบานอิ่มเอิบอีกต่างหาก
ที่อยากได้บุญกันนั้น เพราะว่าจะเอามาทำให้ใจผ่อง ใจใส ใจเอิบอิ่ม
เบิกบาน นี้เป็นหลักทีเดียว นอกนั้นเป็นของแถม

ที่มา เวปพลังจิตดอทคอม

--
http://groups.google.co.th/group/vampires_madmax?hl=th

เฒ่าเชียเรอร์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น