++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันจันทร์ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ขงเบ้งตายไปแล้ว...



นับจากวันทำรัฐประหารครั้งล่าสุด 22 พฤษภาคม 2557 จนถึงบัดนี้ หลายคนยังสงสัยว่าเป้าหมายแท้จริงของการก่อการครั้งนั้นเป็นไปเพื่ออะไรกันแน่

บ้างก็วิจารณ์ว่า เพื่อคืนความสุขให้ประชาชน แต่ทว่าจำเป็นจะต้องให้ความศรัทธาและความไว้วางใจอย่างหมดใจกับคณะผู้ก่อการ เพราะถ้าหากไม่ศรัทธาและไม่เชื่อมั่นแล้ว ก็จะทำให้ผู้ก่อการไม่มีกำลังใจจะส่งคืนความสุขให้สาธารณชน

บ้างก็ว่าเพื่อล้างความเลวทรามต่ำช้าที่บังเกิดกับบ้านเมืองมายาวนานกว่าทศวรรษ ซึ่งความเลวทรามนั้นเกิดขึ้นโดยน้ำมือของนักการเมือง ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ พ่อค้า และผู้คนหลากกลุ่มหลายหมู่ที่ยอมขายตัวเป็นทาสเศษเงินนักธุรกิจการเมืองที่ชอบโกหกมดเท็จว่า “รวยแล้วไม่โกง” และบ้างก็อ้างว่า “เป็นฝ่ายค้านมันอดอยากปากแห้ง” และบ้างอ้างว่า “จะเข้ามากวาดล้างคอร์รัปชั่น” ฯลฯ

หลายคนดีใจมากจนกระโดดตัวลอยเกือบติดเพดานบ้านหลังทราบว่ามีการก่อรัฐประหาร 22 พฤษภาฯ หลายคนเชื่อว่าทหารจะคืนความสุขให้ประชาชนได้ตามสัญญา แต่หลายคนก็ไม่ค่อยเชื่อมั่นเท่าไรนัก ซึ่งก็เป็นเรื่องนานาจิตตัง เชื่อบ้างไม่เชื่อบ้าง แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่อยากวิพากษ์วิจารณ์ให้ดังมากเกินไป จนกลายเป็นสร้างความขุ่นเคืองให้กับผู้ก่อรัฐประหาร

แต่หลังจากมีการประการรายชื่อสมาชิกสภานิติบัญญัติ (สนช.) เมื่อสอง-สามวันก่อน ก็เริ่มมีเสียงวิจารณ์ด้วยความเป็นห่วงประเทศชาติดังมากยิ่งขึ้น เชื่อมั่นได้ว่าวิจารณ์นี้ต้องดังไปเข้าหูคณะรักษาความสงบแห่งชาติอย่างแน่นอน แต่ในขณะที่มีเสียงวิจารณ์ ก็ยังมีเสียงสนับสนุนดังขึ้นอย่างน่าสนใจ ซึ่งก็แสดงว่าสาธารณชนมิได้นิ่งดูดายกับเรื่องสนช.

บทความต่อไปนี้ ผู้เขียนได้รับต้นฉบับมาจากเสธ.เหลืองผู้ทรงคุณธรรมกองทัพบก (เสธ.เหลืองเป็นรุ่นพี่เตรียมทหารของทักษิณ ชินวัตร และประยุทธ์ จันทร์โอชา) ผู้เขียนดัดแปลงถ้อยคำเพื่อลดดีกรีความร้อนแรงของคำวิพากษ์ลงในบางตอน แต่คงใจความสำคัญไว้ทั้งหมด คุณผู้อ่านโปรดอ่านแล้วช่วยกันคิดในประเด็นที่เสธ.เหลืองวิพากษ์ตามสติปัญญาและข้อมูลเบื้องลึกของแต่ละบุคคลนะขอรับ

#################

ผมชักเริ่มไม่แน่ใจกับความเชื่อเดิมของผมที่คิดว่าทหารบางคนในคณะคสช. คือขงเบ้งตัวจริง เพราะการกระทำมันบ่งบอกได้ว่า แทนที่จะจัดการกับตัวปัญหาใหญ่ก่อน แต่กลับไปวุ่นวายกับเรื่องกระจุกกระจิก จึงดูเสมือนว่ายังมีไมตรีจิตต่อตัวปัญหาใหญ่อย่างมีนัยสำคัญ แต่ผมอาจจะผิดก็ได้ เพราะผมเป็นเพียงทหารที่ไม่มีอำนาจสูงส่งล้นฟ้า

การจะเอาน้ำเปล่าไปผสมกับน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นเรื่องที่บงเบ้งตัวจริงไม่มีวันกระทำ เพราะมันไร้สาระ ดังนั้นการจะให้คนดีที่รักบ้านรักเมืองจริงๆ ไปจับมือกอดคอกับคนเลวที่โกงบ้านกินเมืองและเผาบ้านเผาเมืองนั้นจึงเป็นเรื่องตลกไร้สาระ นอกจากไร้สาระแล้วยังเสียเงิน เสียเวลาอีกด้วย

ส่วนเรื่องรายชื่อสนช. ที่มีทหารมากมายนั้นยิ่งดูยิ่งพิกล การมีทหารมากไม่ใช่เรื่องพิสดารสำหรับช่วงเวลาการทำรัฐประหาร แต่สำคัญตรงที่คุณภาพของคนที่เข้าไปเป็นสนช. สำหรับผู้คนวงในอย่างผมซึ่งคลานตามกันมาจากรั้วเตรียมทหาร และรั้วแดงกำแพงเหลือ โรงเรียนนายร้อยจปร.แล้ว ยิ่งดูยิ่งพิลึก

สนช.รุ่นเตรียมทหารโหลบางคนมีพฤติกรรมไม่ต่างไปจากทาสทักษิณ ชินวัตร เพราะยกมือสนับสนุนให้ผ่านกฎหมายอัปยศในรัฐสภา ในยุคที่ไทยมีนารีเป็นนายกรัฐมนตรีมาแล้ว คนพรรค์นี้ก็ยังเข้าไปเป็นสนช.ได้

ส่วนทหารน้ำ เตรียมรุ่น 10 บางคนที่เป็นเพื่อนซี้กับแม้วทักษิณก็เข้าไปเป็นสนช.ได้อีก

ส่วนทหารบก เตรียมรุ่น 8 บางคนก็เป็นที่รู้กันดีว่าไร้ฝีมือ แต่สนิทชิดเชื้อกับบิ๊กป.ปลาตากลม ก็เข้าไปได้อีกเช่นกัน ซึ่งไม่ต่างไปจากทหารแซนเฮิร์ทนายหนึ่ง แล้วก็ไม่ต่างไปจากทหารฟ้า รุ่น 6 รายหนึ่งด้วย

นอกจากนี้ยังมีรุ่น 7 ทหารฟ้าที่มีน้องชายเป็นตำรวจเพื่อนซี้กับแม้วทักษิณ ที่ได้ดิบได้ดีในการบินไทย กองหวยรัฐบาล แล้วก็มีทหารม้า รุ่น 11 ที่เป็นหลิวลู่ลม แล้วก็ยังมีเพื่อนแม้วรุ่น 10 เตรียมทหารชั้น 1 ตอน 10 อีก

แต่ที่น่าสนใจคือเตรียม 13 ที่มีข่าวว่าพาใครต่อใครไปพบเจ้าพ่อดูไบเพื่อขอตำแหน่งใหญ่เป็นเครื่องตอบแทน

แล้วยังมีเตรียมรุ่นโหล ผู้เป็นศิษย์ของเณรคำ เข้าไปเป็นสนช.ด้วย ตามมาด้วยรุ่น 6 เพื่อนป้อม เซียนล้อต๊อกหลังห้อง วปอ.

แต่ที่ต้องพูดชัดๆ ไม่อ้อมค้อมก็คือนิพัทธ์ ทองเล็ก รุ่น 14 ที่ไม่แค่เพียงคนในรั้วแดงกำแพงเหลืองที่ไม่เอาระบอบทักษิณจะตั้งคำถามตัวโตๆ เท่านั้น แต่คนไทยทุกคนที่ไม่เอาระบอบทักษิณก็ถามคำถามเดียวกันว่า มาได้อย่างไร ไม่รู้บ้างหรือว่านิพันธ์ให้ความสำคัญกับยิ่งลักษณ์มากน้อยเพียงใด คนคนนี้แหละที่ทำให้คสช.ไม่สามารถพูดต่อไปได้ว่า คืนความสุขให้ประชาชนอย่างแท้จริง

รุ่น 9 ตำรวจที่ติดตามใกล้ชิดทักษิณแล้วได้ดี ก็ยังได้เป็นสนช. นี่มันอะไรกันหนอ

ตามมาด้วย รุ่น 15 ผู้มีความใกล้ชิดกับคสช. อันดับหนึ่ง

แต่ที่ต้องถามถึงอีกคนคือ ทำไมจึงเป็นตำรวจ รุ่น 9 ทั้งๆ ที่สาธารณชนยังไม่หมดคำถามเรื่องใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุมโดยสงบ

อันที่จริงแล้วบทความที่ผมส่งให้เฉลิมชัยช่วยกระจายต่อให้สาธารณชนได้อ่านแล้วคิดในวันนี้ อาจจะทำให้คนที่อยู่นอกรั้วเตรียมทหารรุ่น 9-14 และนอกรั้วแดงกำแพงเหลืองรุ่นใกล้ๆ กับผมงุนงงมิใช่น้อย แต่สำหรับคนวงในด้วยกันแล้ว เมื่อได้อ่านแล้วกระจ่างชัดใสแจ๋วแน่นอน

ผมถูกเฉลิมชัยถามว่า พี่เขียนแบบนี้เพราะพี่ไม่พอใจที่ไม่ได้รับการเสนอชื่อเป็นสนช.หรือเปล่า ผมตอบชัดๆ ว่า “อ้าว ไอ้น้องเหลิมชัย พูดแบบนี้น้องไม่รู้จักพี่ดีหรอกหรือ พี่ทำงานเพื่อบ้านเมืองมาแบบไหน น้องมองไม่ออกเหรอ พี่ติงเพราะพี่รู้จักทหารที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นสนช.ดี ไม่ได้ติเพราะกระสันอำนาจรัฐ แต่พี่ไม่โกรธที่เหลิมถาม เพราะเป็นคำถามที่ดี แต่เตือนไว้นิดหนึ่ง หากไปถามทหารที่ใจไม่กว้างพอ น้องอาจเหนื่อยได้ ทหารน่ะมีหลายพันธุ์ ต่อให้มาจากจปร.ด้วยกันก็ตามเถอะไอ้น้องรัก”

#################

ข้างต้นคือเนื้อหาสาระประมาณ 50-60 เปอร์เซ็นต์ของเสธ.เหลืองที่มอบให้กับผู้เขียน หากเอาข้อมูลทั้ง 100 เปอร์เซ็นต์ตีพิมพ์เมื่อไรแล้วละก็รับรองบทความนี้จะกลายเป็น talk of the town อันที่จริงยังมีทหารอีกกว่า 10 คนที่เสธ.เหลืองสาธยายความพิลึกให้ทราบ แต่หน้ากระดาษสำหรับวันนี้หมดแล้ว แต่ถึงไม่หมดพื้นที่ก็คงเขียนถึงยากมาก เพราะเสธ.เหลืองเขียนถึงแรงมาก ถึงมากที่สุด ผมเลยบอกว่าเสธ.เหลืองกรุณาเอาไปลงในเฟซบุ๊คของพี่เองก็แล้วกันนะขอรับข้าฯผู้น้อยมิบังอาจ

อย่างไรก็ตาม เสธ.เหลืองยังคงให้กำลังใจคสช. ด้วยความหวังว่าสนช.น้ำดีที่เหลือจะสร้างคุณประโยชน์ได้บ้าง ถึงแม้จะยาก แต่ก็เชื่อว่าคนดีจะไม่ล้มเลิกการทำความดี ต่อให้มีอุปสรรคมากมายเพียงใดก็ตาม เพราะคนดีไม่กลัวอุปสรรค และคนดีไม่ยอมก้มหัวให้คนเผาบ้านเผาเมือง

ผมขอทิ้งท้ายบทความวันนี้ด้วยวาทะเสธ.เหลืองที่ว่า “การจัดการคนเลวไม่ใช่เรื่องยาก แต่ทุกวันนี้เราไว้ใจได้มากน้อย แค่ไหนกับคนดีที่จะเข้ามาจัดการคนเลว หวังว่าสังคมไทยจะมีความสุขทั่วหน้ากัน แล้วคนดีจะไม่ถูกคนเลวกลืนกิน”

“ลับ–ลวง–พราง” ไม่มีอีกแล้ว “ขงเบ้ง” มีเพียงคนเดียวเท่านั้นในสามก๊ก แต่ก็ตายไปกว่าพันปีแล้วด้วย”

เสธ.เหลือง ผู้ทรงคุณธรรมกองทัพบก
- See more at: http://m.naewna.com/view/columntoday/columntoday/13746#1

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น