++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันจันทร์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2551

YPD ศูนย์ประสานงานเยาวชนเพื่อประชาธิปไตย ออกแถลงการณ์ประณามรัฐบาล

ศูนย์ประสานงานเยาวชนเพื่อประชาธิปไตย ออกแถลงการณ์ประณามรัฐบาลสัตว์นรกใช้กำลังสลายกลุ่มพันธมิตรฯ พร้อมปกป้องเจ้าหน้าที่ เรียกร้องทุกฝ่ายหยุดการนำมวลชนเพื่อก่อให้เกิดการเผชิญหน้า
      
       วันนี้ (31 ส.ค.) ศูนย์ประสานงานเยาวชนเพื่อประชาธิปไตย (YPD) ออกแถลงการณ์เรื่อง ขอประณามการใช้ความรุนแรงและขอให้ทุกฝ่ายดำเนินการแก้ไขความขัดแย้งอย่างจริ งจัง โดยมีเนื้อหา ดังนี้
      
       สืบเนื่องจากการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ได้จัดการชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลลาออก บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ ถนนราชดำเนิน และทำเนียบรัฐบาล นำมาสู่การใช้ความรุนแรงจากเจ้าหน้าที่ตำรวจในการเข้ายึดพื้นที่การชุมนุมขอ งกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จนเกิดเหตุการณ์ปะทะกันและมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายรายในวันที่ 29 สิงหาคม 2551 โดยในช่วงค่ำวันเดียวกัน จากการเดินขบวนของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเพื่อประท้วงเจ้าหน้ าที่ตำรวจที่ทำการสลายการชุมนุมด้วยความรุนแรงและเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่รั บผิดชอบความเสียหายหน้ากองบัญชาการตำรวจนครบาลนั้นได้เกิดการปะทะและยิงแก๊ส น้ำตาจนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก
      
       จากการลงพื้นที่เข้าสังเกตการณ์ตลอดทั้งวันของศูนย์ประสานงานเยาวชนเ พื่อประชาธิปไตย และเครือข่ายประชาสังคมไม่ใช้ความรุนแรง ซึ่งเป็นกลุ่มที่วางตัวเป็นกลางทางการเมืองและพยายามหาทางออกจากความขัดแย้ง อย่างสันติมาโดยตลอด ได้พบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการยิงแก๊สน้ำตาของฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลายรายอาการสาหัส โดยก่อนหน้านี้จากเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อช่วงกลางวันในวันเดียวกัน ผู้ชุมนุมบางรายถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทุบตีด้วยกระบองจนบาดเจ็บสาหัสจนไม่สามา รถเคลื่อนไหวร่างกายได้
      
       ศูนย์ประสานงานเยาวชนเพื่อประชาธิปไตย (YPD) สนับสนุนสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกทางการเมืองอย่างหลากหลาย โดยยึดแนวทางสันติวิธี คัดค้านการยั่วยุให้เกิดการใช้ความรุนแรงหรือกระทบกระทั่งกัน และเรียกร้องให้ทุกฝ่ายหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรงระหว่างกันมาโดยตลอด มีความเห็นเพิ่มเติมต่อสถานการณ์และข้อเรียกร้องดังต่อไปนี้
      
       1.ขอเรียกร้องให้รัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกว่าการกระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองบัญชาการตำรวจนครบาล ยุติแนวทางการใช้กำลังและอาวุธเข้าสลายการชุมนุมทั้งหมด กระทั่งความคิดที่จะประกาศภาวะฉุกเฉินฯ เพื่อเปิดทางให้ใช้กระบวนการทางการเมืองเข้าเจรจา การใช้ความรุนแรงของเจ้าหน้าที่รัฐในครั้งที่ผ่านมา ถือเป็นการก่ออาชญากรรมต่อพลเมืองอย่างหนึ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นในยุคที่มีควา มเป็นประชาธิปไตย และหากแม้พฤติกรรมใดๆ ของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเป็นการเข้าข่ายผิดกฎหมายหรือลิดรอ นสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น ก็สมควรถูกดำเนินการทุกอย่างไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ดังนั้น รัฐบาลจะต้องให้มีการสืบสวนสอบสวนกรณีที่เกิดขึ้น ใครเป็นผู้ยิงแก็สน้ำตาตามที่นายกรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามบิดเบือ นและปัดความรับผิดชอบ เพื่อลงโทษผู้ที่มีส่วนในการสั่งการให้เกิดการใช้ความรุนแรงดังกล่าว และรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น
      
       2.เราขอเรียกร้องให้กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พยายามอย่างถึงที่สุดที่จะควบคุมไม่ให้เกิดการใช้ความรุนแรงเกิดขึ้นจากมวลช นของตนเอง ซึ่งอาจจะนำไปสู่ข้ออ้างของเจ้าหน้าที่รัฐในการใช้ความรุนแรงเพื่อปราบปรามก ารชุมนุมได้ สำหรับกรณีที่ถูกสังคมตั้งข้อกังขา เช่น การบุกยึดสถานีโทรทัศน์ NBT ซึ่งเข้าข่ายการลิดรอนเสรีภาพของสื่อมวลชน กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยควรออกมาแสดงความขอโทษ พร้อมกับชี้แจงถึงเหตุผลและข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการปฏิบัติการดังกล่าวที่ปร ากฏออกมาตามสื่อมวลชนด้วย นอกจากนี้ กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยควรพิจารณาหาทางปรับเปลี่ยนแนวทางการช ุมนุมให้นำไปสู่การเจรจาหาข้อยุติร่วมกันกับฝ่ายรัฐบาล แทนการมุ่งเป้าหมายไปที่การกดดันขับไล่รัฐบาลเพียงอย่างเดียว โดยไม่ได้นำไปสู่ทางออกที่เกิดจากการพบกันครึ่งทางของทุกฝ่ายท่ามกลางวิกฤตก ารณ์ความขัดแย้งทางการเมือง
      
       3.เราขอเรียกร้องรัฐสภา โดยพรรคการเมือง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภา แสวงหาทางออกจากวิกฤติร่วมกันเพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกันจากทุกฝ่าย โดยไม่ฉกฉวยโอกาสทางการเมืองเพื่อประโยชน์ส่วนตนในท่ามกลางวิกฤตความขัดแย้ง ในสังคมไทย ขอให้สมาชิกรัฐสภาและรัฐบาล ทำหน้าที่ในการเป็นผู้แทนปวงชนทั้งประเทศอย่างเป็นกลาง ปราศจากอคติทั้งปวง เพื่อหาทางออกจากวิกฤติความรุนแรงอย่างจริงจังและประกาศเป็นสัญญาประชาคม โดยมีผู้แทนจากพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย รัฐบาล และตัวแทนพรรคการเมืองต่างๆ ร่วมเจรจาแสวงหาทางออก โดยใช้เวทีรัฐสภา
      
       4.เราขอคัดค้านกองทัพ ให้ยุติแนวคิดหรือแนวทางที่จะนำมาสู่การก่อปฏิวัติรัฐประหารโดยการใช้กำลังท หาร ซึ่งไม่สามารถเป็นทางออกที่ดีแก่การพัฒนาประชาธิปไตยได้ ดังนั้น เราจะอาจยอมรับเหตุผลข้ออ้างของฝ่ายใดๆ ที่ต้องการให้มีการใช้กำลังทหารเพื่อยุติความขัดแย้งทางการเมืองไทยได้ ไม่ว่าฝ่ายใด การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองไทยจำเป็นต้องอาศัยการพัฒนาการเรียนรู้เพื่อการเป ลี่ยนแปลงทางความคิดของประชาชนในสังคม มิใช่การใช้กำลังอาวุธข่มขู่ เข่นฆ่า เปลี่ยนมือผู้มีอำนาจโดยขาดซึ่งการพัฒนาทางความคิดและสำนึกความเป็นพลเมืองใ นสังคมประชาธิปไตย
      
       5.เราขอเรียกร้องให้ผู้นำทางการเมืองและกลุ่มพลังทางการเมืองต่างๆ ยุติการนำกำลังมวลชน เข้าปะทะ ก่อความรุนแรง หรือคุกคามต่อร่างกายและทรัพย์สินระหว่างกัน ซึ่งจะนำมาสู่การขยายตัวของความขัดแย้งและความรุนแรงไม่สิ้นสุด
      
       ศูนย์ประสานงานเยาวชนเพื่อประชาธิปไตย (YPD) มีความหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเห็นการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาทางการเมืองไทยไปใน ทิศทางที่ดีขึ้น โดยอยู่บนหลักการสันติวิธีและกระบวนการวิถีประชาธิปไตยอย่างแท้จริง โดยเชื่อว่าปัญหาการเมืองไทย ต้องแก้ด้วยกระบวนการประชาธิปไตย




มาจนวันนี้แล้ว ควรแก้ปัญหาที่เป็นอยู่เสียก่อน ส่วนเหตุของปัญหา หรือปัญหาที่จะเกิดต่อไปน่าจะรอไปก่อน ใครถูกผิดอย่างไรก็ดำเนินการกันไปตามกระบวนการกฎหมายทีหลัง ทั้งนี้ เพื่อให้กิจการบ้านเมืองดำเนินต่อไปได้เสียก่อน ปัญหาที่เกิดในขณะนี้ไม่ใช่ปัญหาเล็ก ๆ ในครอบครัว มาเสียเวลายื้อกันไปมาไม่รู้จบไม่ได้ เหมือนรถตกถนนผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บสาหัส ก็ควรแก้ปัญหาเอารถขึ้นมาบนถนนแล้วแก้ไขให้สามารถขับไปได้เอาผู้บาดเจ็บไปส่ งโรงพยาบาลเสียก่อน หลังจากนั้นค่อยมาหากันว่า ใครผิดถูกอย่างไร จะต้องดำเนินการเพื่อลงโทษอย่างไร จะให้ใครเป็นคนขับต่อไปก็ค่อยว่ากันไป
ดังนั้น ผู้รับผิดชอบไม่ว่าประชาชนเลือกมา หรือมาตามกฎหมายใด ควรดำเนินการ ดังนี้
1. อย่ายั่วยุให้เกิดปัญหาต่อเนื่องตามมาอีก เช่น ไม่เอา นปก. มาประจันหน้าพันธมิตร
2. อย่าให้สื่อมวลชนบิดเบือนข่าวสาร
3. อย่ามัวตีฝีปากกันว่าใครก่อเรื่องก่อนหลัง
4. อย่ามัวกระบิดกระบวนสร้างบทบาทที่ไม่จำเป็น
5. ผู้ที่เกี่ยวข้องร่วมมือกันไม่กระทำการที่รุนแรง
6. คิดแก้ปัญหาโดยเร็ว
7. ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบ แต่ดำเนินการแก้ปัญหาไม่ได้ก็ควรมอบให้ผู้อื่นดำเนินการแทน
8. อย่าคิดว่าตนเองมีบทบาทและจำเป็นต่อสังคมที่สุด ซึ่งสังคมจะขาดเสียไม่ได้
9. วันนี้เป็นวันที่ 7 แล้ว นายกฯยังแก้ปัญหาไม่ได้ จึงควรลาออกไปโดยไม่ต้องพะวงว่าผู้ที่จะมาแก้ปัญหาเป็นใคร ต้องคิดว่า "อยุธยาไม่สิ้นคนดี"
หวังที่จะได้เห็นการแก้ปัญหาให้ลุล่วงไปโดยเร็วเพื่อบ้านเมืองจะได้พัฒนาไปได้ต่อไป.
กงการด้วย 

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น