"สุริยะใส"แถลงจุดยืนพันธมิตรฯ ลั่นพร้อมเจราจาทุกฝ่ายก็ต่อเมื่อ"สมัคร"ลาออก ระบุนายกฯ ยังด้านยื้อเวลา เพราะคิดว่าเป็นเรื่องของการแพ้ชนะส่วนตัว พร้อมแนะสื่อจับตา 48 ชั่วโมงอันตราย หลัง"หมัก"ยึดอำนาจ ผบ.ทบ. ขนกำลังคนจากนอกเข้าพื้นที่ หวังปิดเกมพันธมิตรฯ
วันนี้(5 ก.ย.) เวลาประมาณ 20.45 น. นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้แถลงการณ์ถึงกรณีที่หลายฝ่ายมีความพยายามให้พันธมิตรฯ ผบ.ทบ.และรัฐบาลได้เจรจากัน ว่า ทางพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขอบคุณทุกฝ่ายที่ยกให้เรื่องนี้เป็นวาระแห่งชาติ และพยายามหาทางออกจากความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ซึ่งพวกเราก็พร้อมที่จะทำการเจรจา แต่ในเบื้องต้นท่าทีของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ไม่ได้ให้ความสำคัญกับการเจรจากับฝ่ายใดทั้งสิ้น แต่ยังยืนกระต่ายขาเดียวว่าจะไม่ลาออก ไม่ยุบสภา เพราะคิดว่าเป็นการยอมแพ้
ทั้งนี้ นายกฯ ยังได้มีการใช้สารพัดวิธี โจมตีว่าพันธมิตรฯ เป็นลัทธิเพี้ยน ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญว่ารัฐบาลหุ่นเชิดกำลังใช้ทุกวิธีรุกไล่อยู่ตลอดเวลา และจะเป็นผลให้การเจรจาเกิดขึ้นได้ยาก
อย่างไรก็ตาม ทั้งนี้ไม่หมายความว่าประตูจะปิดลงแล้ว แต่ตัวแปรจะอยู่ที่นายกฯ มากกว่า โดยหากยอมถอยหนึ่งก้าวด้วยการประกาศลาออก เราก็พร้อมที่ถอยออกมาเพื่อเจรจาว่าจะหาวิธีแก้ไขในระยะกลางและยาวอย่างไรต่ อไป
"ถ้าสมัครออกปุ๊บก็เป็นไปได้ที่แกนนำจะถอยออกจากทำเนียบรัฐบาล โดยอาจจะปักหลักที่สะพานมัฆวานฯ ซึ่งเป็นการถอยเพื่อเตรียมการเจรจา หรือเป็นการถอยคนละก้าว และไม่ใช่เงื่อนไขใหม่อะไร แต่ตอนนี้สังคมเรียกร้องให้นายสมัครลาออก แต่เขาก็ไม่ยอมถอย ตั้งป้อมที่จะชนอย่างเดียว ซึ่งตรงนี้ไม่ใช่บรรยากาศของการเจรจา และไม่อยากให้มองว่าเป็นพันธมิตรฯ ที่ดื้อดึง"นายสุริยะใสกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า การเจรจาจะเกิดขึ้นเมื่อนายกฯ ต้องลาออกอย่างเดียวใช่หรือไม่ นายสุริยะใส กล่าวว่า ถ้าหากเป็นการยุบสภาจะเป็นการเลยขั้นตอนของการเจรจา และเป็นขั้นตอนของการเลือกตั้งไปแล้ว ซึ่งจะไม่ใช่การแก้ปัญหา และบ้านเมืองจะกลับมาเป็นปกติไม่ได้ โดยการปลดล็อกจะอยู่ที่ตัวนายกฯ มากกว่า ซึ่งเขาชอบทำตัวเหมือนตนเองไม่ผิด แต่คนอื่นผิด และเราเองพร้อมเจรจาตลอด แต่ผู้นำควรถอยก้าวหนึ่ง โดยอยากทราบว่าจะยอมเสียสละได้หรือไม่ และหลังจากนั้นจะเป็นรัฐบาลเฉพาะกิจ หรือเฉพาะกาลก็ต้องมาว่ากันอีกครั้งหนึ่ง
โดยต่อจากนี้คงจะมีการประสานงานกับ นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา ว่าหากแกนนำพันธมิตรฯ มีความเห็นในรูปแบบนี้แล้วจะมีขอสังเกตอย่างไรบ้าง เพื่อประสานต่อไปยังประธานวุฒิสภาต่อไป ซึ่งหากนายกฯ ยังไม่ยอมเสียสละ เชื่อว่าดีกรีของการต่อสู้จะต้องเข้มข้นขึ้น โดยพันธมิตรฯ จะมีการเคลื่อนไหวมากขึ้น ซึ่งแกนนำจะต้องมีการพูดคุยกันอีกครั้งหนึ่ง
อย่างไรก็ตามอยากให้ทุกฝ่ายคอยจับตาในอีก 48 ชั่วโมงหลังจากนี้ ซึ่งเป็น 2 วันอันตราย เพราะบรรยากาศขณะนี้กำลังตึงเครียดกว่าที่ผ่านมา โดยการยึดอำนาจของนายสมัคร จาก ผบ.ทบ. ด้วยการออกประกาศตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินเพิ่มเติมอีก 2 ฉบับ
ทุกคนทราบดีว่ามีนัยอะไร และการพูดคุยกับผู้นำเหล่าทัพหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมาก็เป็นเรื่องที่น่าสง สย นอกจากนี้ ตำรวจยังมีการเคลื่อนไหวมากกว่าปกติ ซึ่งการกระทำนี้นายกฯ จะทำให้บ้านเมืองเข้าสู่ทางตัน และอย่างนี้หรือที่เรียกว่าการรักษาระบบ
ทั้งนี้ อยากให้สื่อมวลชนคอยจับตาอย่างใกล้ชิด เพราะมีข่าวว่าจะมีการสลายการชุมนุม แต่อยู่ในช่วงชิงไหวพริบกัน โดยความปกติที่เกิดขึ้น คือตำรวจมีการเคลื่อนไหวมากกว่าทุกวัน และมีการขนกำลังพลจากรอบนอกเข้ามามากกว่าปกติ ซึ่งตรงนี้อาจเป็นเกมอำนาจ จึงอยากเตือนทุกฝ่ายว่า หากจะตัดสินใจทำอะไรก็ควรคิดให้รอบคอบว่าสิ่งนั้นจะเป็นทางออกที่ดีจริงหรือ ไม่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น