++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันอังคารที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

“ภาวะวิตามินมากเกิน” หรือ “ฮัยเปอร์วิตามิโนสิส” (Hypervita minosis)

“ภาวะวิตามินมากเกิน” หรือ “ฮัยเปอร์วิตามิโนสิส” (Hypervita minosis)
กลัวขาดวิตามินเลยซื้อมาทาน ถ้ามากเกินไปจะเกิดอาการของภาวะวิตามินมากเกิน มีชนิดต่างๆ มีดังนี้
1 วิตามิน เอ กินมากๆ ติดต่อกันนานๆ แทนที่จะทำให้ดวงตาแจ่มใส อาจทำให้ตาพร่ามัวเพราะเพิ่มความดันในสมองจนประสาทตาโป่งพอง ตับโต ม้ามโต ต่อมน้ำเหลืองโตและผมร่วง ในเด็กจะทำให้กระดูกยาวออกและหักออกได้ง่าย
2 วิตามิน ดี ปกติช่วยในการดูดซึมแคลเซียมซึ่งเป็นสารที่จำเป็นในการสร้างกระดูกและฟัน คนที่กินวิตามินดีมากเกินไป จะทำให้ปริมาณแคลเซียมที่มีมากเกินจำเป็นจะเข้าไปเกาะตามเนื้อเยื่อต่างๆ ที่สำคัญ คือ ไต หลอดเลือด หัวใจ และปอด ทำให้ไตเสีย หลอดเลือดตีบแคบ คนท้อง โปรดระวังให้มาก การกินวิตามินดีมากๆ อาจทำให้เด็กในท้องถึงแก่ความพิการของหัวใจได้ และเมื่อคลอดออกมา ลูกอาจมีอาการชักกระตุกได้ด้วย
3 วิตามิน ซี กินมากๆ ทำให้ท้องร่วงได้ วิตามิน ซี จำนวนมากสามารถ ทำให้คนเป็นนิ่วได้เร็วขึ้น จึงควรระวังในบุคคลที่มีทีท่าว่าจะเป็นนิ่วในไต
ได้มีการศึกษาอ้างถึงการได้รับวิตามินซีในขนาดสูง จะเพิ่มอัตราการเกิดนิ่วเนื่องจากมีการขับวิตามินซีออกมาในรูปออกซาเลตและกรดยูริก มากกว่าปกติ เพิ่มอัตราการทำลายวิตามินบี 12 ในลำไส้ ขณะเดียวกันก็มีการศึกษาขัดแย้งว่าวิตามินซีมิได้มีผลดังกล่าว อย่างไรก็ควรระมัดระวังในการกินวิตามินซีขนาดสูง ๆ แก่คนที่มีแนวโน้มจะเป็นนิ่วในไตหรือเคยเป็นมาก่อน ผลข้างเคียงเพียงอย่างเดียวที่พบแน่นอนเมื่อกินวิตามินซีขนาดสูง ๆ คือ อาการไม่สบายท้อง ปั่นป่วนท้อง และอาจมีท้องเสียร่วมด้วย (ร่างกายต้องการวิตามินซีวันละ 60 มิลลิกรัม)
การรับประทานวิตามินซีเป็นอาหารเสริมในปัจจุบัน กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก อย่างในสหรัฐนับว่าเป็น 1 ใน 5 อาหารเสริมยอดนิยมของชาวอเมริกัน
ปริมาณที่เหมาะสมสำหรับการรับประทานวิตามินซีใน 1 วัน สำหรับคนสุขภาพปกติดี ไม่มีโรค หรือกำลังป่วยเป็นที่ถกเถียงกันมากในปัจจุบันถึงปริมาณที่เหมาะสม โดยรัฐบาลแต่ละประเทศได้กำหนดปริมาณที่เหมาะสมไว้ไม่เท่ากัน ดูได้จากตารางข้างล่าง
* 60 มกต่อวัน ( United Kingdom's Food Standards Agency)
* 45 มกต่อวัน ( the World Health Organization)
* 60 มกต่อวัน (Health Canada 2007)
* 60–95มกต่อวัน( United States' National Academy of Sciences)
.
ในประเทศสหรัฐได้กำหนดไว้ว่าปริมาณ 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน ถือเป็นค่าสูงสุดที่รับได้ เกินนี้จะเป็นอันตรายต่อร่างกาย
4 วิตามินอี
วิตามินอีนับว่าเป็นวิตามินที่มีพิษน้อยมาก การกินวิตามินอีสูงมาก ๆ อาจมีผลกระทบต่อวิตามินตัวอื่นๆ เช่น ขัดขวางการดูดซึมวิตามินเอและวิตามินเค
มีบางการศึกษาที่รายงานว่าคนที่กินวิตามิอีสูงถึง 1,000 ยูนิตต่อวัน (ร่างกายต้องการวิตามินอีวันละ12-15 ยูนิต) จะมีอาการปวดศีรษะ เมื่อยล้าตามตัว คลื่นไส้ เห็นภาพซ้อน กล้ามเนื้ออ่อนแรง ท้องไส้-ปั่นป่วน ไม่สบายท้อง และถ้าได้รับวิตามินอี 1,200 ยูนิตต่อวัน จะทำให้เลือดแข็งตัวช้าผิดปกติ
5 วิตามินบี 12 โฟเลทและไบโอติน
ยังไม่พบว่ามีภาวะเป็นพิษเกิดขึ้น ถึงแม้คนเราจะได้รับขนาดสูงเป็น 100 เท่าของความต้องการของร่างกาย นอกจากโฟเลท ซึ่งบางการศึกษาพบว่ามีผลขัดขวางการดูดซึมแร่ธาตุปริมาณน้อย เช่น สังกะสี แต่ไม่ถึงกับมีภาวะขาดสังกะสีใน และคนที่ได้รับโฟเลทมากควรได้รับ vitamin B12 เพิ่มด้วย
@ บุคคลที่ควรได้รับวิตามินเสริม
1. บุคคลที่กินวิตามินไม่เพียงพอ เช่น นักบวชผู้ถือศีลกินเจ คนที่นิยมดื่มสุรามากกว่ากินอาหาร คนที่อดอาหาร เพื่อที่จะลดความอ้วน และคนที่จำกัดอาหารบางชนิดตามแพทย์สั่ง เพื่อประโยชน์ในการรักษาโรคบางอย่าง
2. บุคคลที่มีความผิดปกติในการดูดซึมวิตามิน เช่น คนที่เป็นโรคตับ โรคถุงน้ำดี โรคท้องร่วงติดต่อกันหลายวัน
3. บุคคลที่ต้องการวิตามินมากกว่าปกติ เช่น เด็กที่กำลังเจริญเติบโต หญิงตั้งท้อง หญิงให้น้ำนมลูก ผู้ทำงานหนัก ผู้เป็นโรคต่อมธัยรอยด์เป็นพิษ และในรายที่วิตกกังวลมาก
4. บุคคลที่กินยาบางชนิด เพื่อที่จะลดการดูดซึมของวิตามินบางอย่าง เช่น ยาคุมกำเนิดต้องกินร่วมกับวิตามิน บี 6, บี 12
ที่มา หมอชาวบ้าน และ อื่นๆ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น