++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพฤหัสบดีที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ศาลยกฟ้อง สนธิ ลิ้มทองกุล ปราศรัยไม่หมิ่นทักษิณ

ศาลยกฟ้อง"สนธิ"
ปราศรัยไม่หมิ่น"ทักษิณ" ชี้ปกป้องสถาบันเบื้องสูง
.
ศาลอาญาพิพากษายกฟ้อง "สนธิ ลิ้มทองกุล"และเอเอสทีวี ไม่หมิ่น "ทักษิณ"พาดพิงใช้เงินซื้อข้าราชการบางคนและทำให้สถาบันกษัตริย์อ่อนแอ ชี้ปราศรัยเพื่อปกป้องสถาบันฯ
เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ 19 (ก.พ.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดอ่านคำพิพากษา คดีหมายเลขดำ อ.1252/2556 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง บริษัท ไทยเดย์ ด็อท คอม จำกัด โดยนายพชร สมุทวณิช และนายขุนทอง ลอเสรีวานิช กรรมการผู้มีอำนาจ , บริษัท เอเอสทีวี (ประเทศไทย) จำกัด โดยนายปัญจภัทร อังคสุวรรณ และนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ กรรมการผู้มีอำนาจ และ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตร ฯ เป็นจำเลย ที่ 1- 3 ในความผิดฐาน ร่วมกันหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณาด้วยเอกสาร การกระจายเสียงหรือภาพ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 และ 328 กรณีปราศรัยหมิ่น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งจำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธ โดยคำฟ้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 14 ต.ค.2551 เวลากลางคืน นายสนธิ แกนนำพันธมิตรฯ จำเลยที่ 3 ได้ขึ้นปราศรัย บนเวทีพันธมิตรฯ บริเวณทำเนียบรัฐบาล ผ่านเครื่องขยายเสียง ให้ผู้ชุมนุมจำนวนมากฟังทำนองว่า พ.ต.ท.ทักษิณ อดีตนายกรัฐมนตรีจาบจ้วงสถาบัน และพยายามซื้อรากหญ้า ยึดตำรวจ และเอาเงินไปจ่ายให้ทหารบางคนเพื่อให้สถาบันกษัตริย์อ่อนแอ ทำลายรากฐานของกษัตริย์ โดยมีจำเลยที่ 1-2 เป็นผู้ถ่ายทอดสัญญาณภาพและเสียงผ่านสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเอเอสทีวี และเว็บไซต์ผู้จัดการ ซึ่งข้อความที่นายสนธิ กล่าวทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ผู้เสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียงเหตุเกิดที่ แขวงและเขตดุสิต กทม.และทุกท้องที่ทั่วราชอาณาจักรไทย

โดยวันนี้ นายสนธิ ลิ้มทองกุล และจำเลยทั้งหมดมาศาลพร้อมนายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความ

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่า คดีนี้ฝ่ายโจทก์ไม่ได้นำสืบให้เห็นอย่างชัดเจนว่า บริษัทไทยเดย์ ด็อท คอม จำกัดจำเลยที่ 1 และ บริษัท เอเอสทีวี (ประเทศไทย) จำกัด จำเลย 2 ได้ร่วมกับ นายสนธิ จำเลยที่ 3 กระทำการหมิ่นประมาท พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อย่างไร จึงพิพากษายกฟ้องจำเลยที่ 1 และ 2

ส่วนการปราศรัยของนายสนธิ จำเลยที่ 3 นั้น เห็นว่าแม้จะมีบางประเด็นมีการปราศัยลักษณะหมิ่นประมาท พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แต่ก็เป็นการปราศรัยที่มีเจตนาเพื่อปกป้องสถาบันกษัตริย์ จึงไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท ประกอบกับเมื่อพิจารณาจากพฤติการณ์ของบุคคลต่างที่แวดล้อม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทำให้เชื่อได้ว่ามีความเกี่ยวข้องกับการดูหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ทั้งจากพฤติการณ์ของ น.ส.ดารณี ชาญเชิงศิลปกุล หรือดาร์ตอปิโด และนายจักรภพ เพ็ญแข จึงพิพากษาให้ยกฟ้อง

ภายหลังนายปานเทพ พัวพงษ์พันธุ์ กล่าวว่า คดีนี้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ขณะนี้เป็นนักโทษหนีคดีในต่างแดน แต่กลับส่งตัวแทนมาฟ้องในคดีหมิ่นประมาทได้ ที่ผ่านมาศาลไม่สามารถจะสืบจำเลยได้ ซึ่งเราเคารพในกระบวนการยุติธรรม แต่อีกฝ่ายกลับเอาแต่กระบวนการยุติธรรมที่เป็นประโยชน์ต่อตัวเอง และในปีที่แล้วนายสนธิ ลิ้มทองกุล เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมมาโดยตลอด มีการพิจารณาคดีถึงที่สุดถึง 3 คดี โดยไม่ได้หลบหนี ฝ่ายพ.ต.ท.ทักษิณ รวมถึงน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ควรเคารพในกระบวนการยุติธรรมด้วย โดยเฉพาะในคดีทุจริตคอร์รัปชั่น สามารถต่อสู้ในชั้นศาลได้

ด้านนายสนธิ ลิ้มทองกุล กล่าวว่า ตนเองเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมมาโดยตลอด ทุกครั้งที่อัยการมีหมายเรียกก็จะต้องมารับทราบข้อกล่าวหาตลอด แต่ในวันนี้นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อัยการส่งฟ้องศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อัยการกลับบอกว่าตัวนางสาวยิ่งลักษณ์ไม่จำเป็นต้องมาก็ได้ ทั้งๆที่กระบวนการควรจะเหมือนกัน

ส่วนเรื่องการจัดเวทีเสวนาเรื่องการแสดงความคิดเห็นการเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 ที่จะมีขึ้นนั้น นายสนธิ กล่าวว่า เป็นเสวนาปาหี่ ไม่มีผลอะไร เป็นพิธีกรรมที่ทำขึ้นเพื่ออ้างความชอบธรรมในการเปิดให้ประมูลสัมปทานพลังงานเท่านั้น
http://manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9580000020339
 —  กับ Sompron Punsa และ Sompron Pad
(from ONE Browser)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น