พระสุรินทร์ ปุจฉา - นมัสการครับ วันที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๕๖ ครบรอบวันละสังขารของหลวงพ่อเทียน ท่านมรณภาพปี ๒๕๓๑ ปัจจุบันการเจริญสติแนวเคลื่อนไหวของท่าน ได้ไปเจริญรุ่งเรืองที่เมืองจีน ชาวจีนสนใจวิธีการสร้างความรู้สึกตัวแบบหลวงพ่อเทียนกันมาก ที่เมืองไทยก็มีคนสนใจกันมากเพราะทำแล้วได้ผล ความทุกข์จากการปรุงแต่งของความคิดน้อยลงทำให้รู้จักตัวเองมากขึ้น ขอทราบความเห็นและมุมมอง..หลวงพ่อเทียน จากอาจารย์ครับ
พระไพศาล วิสาโล วิสันชนา - หลวงพ่อเทียนเป็นพระร่างเล็ก พูดเสียงเบา มองจากภายนอกเหมือนหลวงตาแก่ ๆ แต่เวลาท่านสอนธรรม ท่านมีความองอาจมาก อีกทั้งมีความฉลาดรู้ทันภาวะอารมณ์ของนักปฏิบัติ สามารถจี้จุดได้อย่างถึงใจ คำสอนของธรรม ไม่ติดตำรา และไม่สนใจพิธีกรรมหรือรูปแบบเลย แต่มุ่งตรงถึงสาระของศาสนาและการปฏิบัติ
สมัยแรก ๆ นั้นท่านไม่ถนัดเทศน์ แต่ใช้วิธีการสอนด้วยอากัปกิริยาแปลก ๆ ที่ไม่เหมือนใคร แต่เมื่อนำไปคิดใคร่ครวญก็จะเข้าใจสิ่งที่ท่านสอน บางครั้งท่านสอนด้วยการพูดแย้งให้คิดหรือสะดุดใจ บางคนที่ลืมตัว เพลินในความคิดหรืออารมณ์ ก็ถูกท่านกระทุ้งให้กลับมารู้สึกตัว หลายคนจึงเปรียบท่านดังอาจารย์เซน
สิ่งที่ท่านสอนนั้นแก่นแท้ก็คือการนำพาผู้ปฏิบัติให้เกิดความรู้สึกตัว มีสติ รู้กายเคลื่อนไหว เห็นใจคิดนึก จนหลุดพ้นจากความสำคัญมั่นหมายในตัวตน เห็นความจริงว่าแท้จริงชีวิตนี้มีแต่รูปกับนาม และเห็นต่อไปถึงภาวะปรมัตถ์ จนหมดความยึดติดในสมมุติ วิธีการที่ท่านเน้นเสมอก็คือ “รู้ซื่อ ๆ” คือรู้โดยไม่ตัดสิน ไม่ทำอะไรกับอารมณ์ที่ปรากฏ เห็นมันตามความเป็นจริง ด้วยใจที่เป็นกลาง
วิธีการของท่านนั้นง่าย แต่สำหรับคนที่คุ้นเคยกับความซับซ้อน โดยเฉพาะคนเมืองหรือปัญญาชน ความง่ายในวิธีการของท่านกลับกลายเป็นเรื่องยากในความรู้สึกของเขา แต่หากปฏิบัติจนจับสาระคำสอนของท่านได้ ก็จะพบว่าการปฏิบัตินั้นไม่ใช่เรื่องยาก ที่ยากก็เพราะไม่ปฏิบัติหรือวางใจไม่ถูกนั่นเอง
สาธุๆๆ
ตอบลบ