++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพุธที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2557

จอดรถติดเครื่อง อันตรายที่ต้องระวังในยุคนี้

อันตรายที่ต้องระมัด
ระวังเด็ดขาด ทุกรายที่เกิดต่อ
ไปนี้คิดเกือบเหมื่อนกันว่า
"จอดแป๊บเดียวเอง?"..อ่านแล้ว
ก็ผ่านคิดว่าคงไม่เกิดกับเรา"..
"ประมาท" จงระวัง100%ครับ
อย่าเป็นผู้ต้องหาโทษฐาน
ยุยงส่งเสริมล่อให้คนทำความ(ข้อนี้มีไหม?ครับทนายตั้วและทนายปอง...๕๕๕..
ผิดโดยเจตนา...
อ่าน นสพ.เดลิ นิวส์ ฉบับวันนี้ (27 ส.ค.57) หน้า 2
"สก๊ปพิเศษ : เตือน "จอดรถติดเครื่อง" โจรแสบฉกหายหลายคัน"
1. รายแรก ภรรยาอัยการ ขับเก๋งวีออส อยู่บางใหญ่ นนทบุรี หลังจากพาลูก 3 ขวบ กลับจากโรงพยาบาล ตนเองเดินเข้าบ้านพร้อมแม่เพื่อจะมาะปิดประตู ปล่อยให้ลูกสาวนอนรอในรถลำพัง เพียงเสี้ยววินาที คนร้ายเป็นชาย 2 คน กระโดดเข้ามาในรถแล้วขับออกไปทันที เดชะบุญรายนี้นับว่าโชคดี ตำรวจสกัดจับไว้ได้ที่ราชบุรี ได้คืนทั้งรถและลูกน้อย(หัวใจแทบสลาย) คนร้ายเป็นชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กับเพชรบุรี
2.รายที่ 2 เสี่ยโรงไม้ที่เชียงใหม่ ขับกระบะนิสสัน นาวาร่าแบบ 4 ประตู ไปจอดติดเครื่องแล้วลงไปกด เอทีเอ็ม คนร้ายฉวยโอกาสกระโดดขึ้นรถขับหนีไปหน้าตาเฉย เจ้าตัวกระโดดขวางยังถูกพยายามขับชนเกือบตาย รายนี้เสียรถไปหนึ่งคันและยังเกือบเสียชีวิต
3. รายที่ 3 เช้ามืดวันที่ 19 ส.ค.57 เสี่ยนักธุรกิจค้าจิวเวลรี่ ขับเก๋งออดี้ สปอร์ต กลับจากงานเลี้ยงมาจอดติดเครื่องยนต์ไว้หน้าบ้านพัก(ท้องที่บางพลัด กทม.) แล้วลงรถมาเปิดประตู เพื่อจะนำรถเข้าบ้าน ระหว่างนั้นมีคนร้ายแอบเข้าไปในรถเก๋งขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ทรัพย์สินในรถกรอบนาฬิกาโรเล็กซ์ฝังเพชร แหวนเพชรอีก 1 กระเป๋าหนังแบรนด์เนมอีก 1 เคราะห์ดีที่วันรุ่งขึ้นคนร้ายขับรถไปจอดทิ้งไว้ริมถนนพระรามที่ 3 แต่ทรัพย์สินมูลค่า 2 ล้านหายเกลี้ยง
4. ล่าสุด เที่ยงคืนวันที่ 22 ส.ค.57 คนขับอายุ 60 ขับรถโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ อ่างทอง กลับจากธุระ มาจอดหน้าบ้านพักเพื่อลงไปเปิดประตูบ้าน โดยมีภรรยาวัย 58 นั่งรออยู่ในรถ จังหวะนั้นคนร้ายบุกเดี่ยวเปิดประตูเข้าไปนั่งในรถแล้วขับรถหลบหนีออกไปทันที แต่ไปหยุดรถกระทันหันห่างจากบ้านพัก ประมาณ 500 เมตร คนร้ายเปิดประตูรถถีบภรรยาเจ้าของรถร่วงศีรษะกระแทกฟุตปาธอย่างแรง ก่อนขับรถหนีไปในความมืดจนวันนี้ยังตามไม่เจอทั้งคนร้ายทั้งรถ

ฉะนั้น เหตุการณ์เหล่านี้เป็นอุทธาหรณ์เตือนใจ ทุกคนต้องระมัดระวัง ปิดช่องว่าง
1.จอดรถเมื่อใดให้ดับเครื่องยนต์ ดึงกุญแจออก และหากมีล็อกเท็คดึงเลย แล้วจึงลงจากรถในทุกสถานการณ์ แม้เสี้ยววินาทีก็ตามต้องดับเครื่องยนต์เอากุญแจออก / ทนลำบากหน่อย แค่มา
สตาร์ทเครื่องใหม่ คนอยู่ในรถก็ทนหน่อย
2. ขึ้นรถให้รีบกดล็อกประตูทันที แล้วค่อยสตาร์ทรถ
3. ก่อนลงรถ/ ขึ้นรถ สังเกตดูเหตุการณ์บริเวณรอบ ๆ ด้วยก็จะดี
4. ไม่จอดรถในที่เปลี่ยวห่างไกลผู้คน
5.ติดตั้งตัวป้องกันการขโมย และล๊อกตัวป้องกันทุกตัวทุกครั้งเมื่อลงจากรถ แม้ไม่ป้องกันการโจรกรรมได้ แต่ก็ทำให้การทำงานของคนร้ายชัาลงหรือเปลี่ยนใจไม่เลือกทำรถที่มีอุปสรรคเยอะ
6.ติดสัญญาณ จีพีเอส จะเป็นประโยชน์ต่อเจ้าของรถเองรวมทั้งเจ้าหน้าที่หากมีโจรกรรมเกิดขึ้น
7. จดเบอร์โทรสายด่วนที่สำคัญไว้ที่กระเป๋าสตางค์ กระเป๋าเสื้อ เผื่อใช้ประโยชน์ได้ทันที เช่น สายด่วนแจ้งรถยนต์หาย โทร. 1192 /เว็บไซต์ www.lost-car.go. th เพื่อรับฐานข้อมูลโจรกรรมแจังสกัดจับ

ด้วยความห่วงใยต่อทุกท่านครับ
27 ส.ค. 2557

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น