++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันอาทิตย์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2557

ข้อคิดดีๆจากพ่อหม้าย ภรรยาตาย ที่เลี้ยงลูกชายตามลำพัง

ข้อคิดดีๆจากพ่อหม้าย ภรรยาตาย ที่เลี้ยงลูกชายตามลำพัง

ภรรยาของเขาเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุมา 4 ปีแล้ว

เขารู้สึกเคว้างคว้าง ไม่รู้จะทำหน้าที่ของพ่อ และ แม่ให้ลูกชายได้อย่างไร
ค่ำวันเสาร์ หลังจากที่เขากลับมาจากทำงาน เขาทักทายลูกไม่กี่คำ ก็เข้าห้องอยากนอนด้วยความเพลีย

หลังจากถอดสูทออกแล้ว ก็ล้มตัวลงไปนอนบนเตียง

“เพล้ง” เสียงเหมือนชามอะไรแตกสักอย่าง
เมื่อเขาเปิดผ้าห่มดู ชามบะหมี่กับจานแตกเป็นเสี่ยงๆ ทั้งน้ำและเส้นหกเลอะผ้าห่มและที่นอน

เขาหยิบไม้แขวนเสื้อเดินออกไปหิ้วแขนลูกชายที่กำลังเล่นของเล่น จากนั้นก็ตีไปที่ก้นของลูกด้วยความโมโห

ลูกชายร้องไห้ด้วยความเจ็บ เขาถามลูกออกไปด้วยความโมโห
“ทำไมเอาบะหมี่ไปกินบนเตียงพ่อ?”
ลูกชายร้องไห้สะอึกสะอื้นบอกกับเขาว่า

“ข้าวที่พ่อหุงไว้เมื่อเช้าผมกินหมดแล้ว ตอนเย็นนี้ผมหิวข้าว แต่พ่อยังไม่กลับมา
ผมก็เลยหามาม่าจากในครัว แต่พ่อบอกผมว่าไม่ให้ยุ่งกับแก๊ส ผมก็เลยเอาน้ำอุ่นจากตู้น้ำดื่มมาชงมาม่า
ผมกินไปชามหนึ่งแล้ว อีกชามหนึ่งผมชงให้พ่อ แต่ผมกลัวว่ามันจะเย็นไปซะก่อนที่พ่อจะกลับมา
ผมก็เลยเอาผ้าห่มคลุมไว้ ตอนที่พ่อกลับมาผมมัวแต่เล่น จึงลืมบอกพ่อ ผมขอโทษครับพ่อ”

เขาปล่อยมือลูก และ รีบหันหน้าหนีเดินไปที่ห้องน้ำ เมื่ออยู่ในห้องน้ำ
เขาก็เปิดน้ำเสียงดังเพื่อกลบเสียงร้องไห้โฮของเขา

เขานั่งอยู่ในห้องน้ำครู่ใหญ่ เมื่อออกมาจากห้องน้ำ เขาเดินไปที่ห้องของลูกชาย
เห็นลูกชายนอนหลับอยู่บนเตียงพร้อมกับกอดรูปของแม่อยู่ในอ้อมกอด ใบหน้ายังเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา

จากเหตุการณ์ในวันนั้น เขาสัญญากับตัวเองว่าจะดูแลลูกให้ดีกว่านี้
แต่เมื่อลูกชายเข้าเรียนชั้นประถมได้ไม่นาน เขาก็ตีลูกชายอีกครั้ง

ช่วงก่อนวันแม่ไม่กี่วัน วันนั้นคุณครูประจำห้องก็โทรศัพท์มาบอกเขาว่าลูกชายไม่ได้มาเรียน
และวันนี้ก็มีการแสดงของเด็กนักเรียนด้วย

เขารีบลางานเพื่อไปตามหาลูกชาย เขาเดินตามหาลูกชายแถวบริเวณหน้าโรงเรียนแต่ก็ไม่เจอ
เมื่อเดินไปที่สวนสาธารณะ ก็เห็นลูกชายกำลังยืนอยู่หน้าเครื่องเล่นสไลเดอร์ เขาโมโหลูกชายมาก
จึงตีลูกชายอีกครั้ง ครั้งนี้ลูกชายไม่ได้แก้ตัวอะไรใดๆ เอาแต่กล่าวคำขอโทษเขาเท่านั้นเอง

หลังจากนั้นหนึ่งปี เขาก็ได้รับโทรศัพท์จากบุรุษไปรษณีย์
ว่าลูกชายของเขานำจดหมายปึกใหญ่ที่ไม่มีที่อยู่ใส่ไว้ที่ตู้ไปรษณีย์หน้าบ้าน
และช่วงนี้ก็เป็นช่วงปีใหม่ เจ้าหน้าที่ไม่มีเวลาว่างมาสนุกกับสิ่งที่ลูกชายเขาทำหรอก

เมื่อเขาทราบดังนั้น ก็รีบบึ่งรถไปที่ไปรษณีย์เพื่อนำจดหมายปึกใหญ่นั้นกลับมา
เมื่อกลับมาถึงบ้าน เขาก็โยนจดหมายปึกนั้นให้ลูกชายดู

“ทำไมลูกทำอย่างนี้?”
ลูกชายเมื่อเห็นจดหมายก็ร้องไห้
“นี่เป็นจดหมายที่ผมเขียนส่งให้แม่”

เขาได้ฟังก็สะท้อนใจเป็นอย่างยิ่ง จึงถามลูกชายออกไปว่า
“ทำไมส่งครั้งเดียวตั้งเยอะตั้งแยะ?”

“จดหมายปึกนี้ผมเขียนมาตั้งแต่แม่ตาย แต่เมื่อก่อนผมยื่นจดหมายใส่ตู้ไม่ได้ เพราะผมยังตัวเล็ก
ตอนนี้ผมสูงพอที่จะหย่อนจดหมายใส่ตู้ได้
ผมก็เลยเอาจดหมายที่เขียนถึงแม่ไว้ทั้งหมดส่งให้แม่อ่านพร้อมๆกัน!”

เมื่อเขาได้ฟังลูกบอก น้ำตาก็คลอเบ้าตา ไม่รู้จะบอกลูกยังไงดี
เขาจึงก้มตัวลงไปกอดลูกไว้
“แม่ของลูกอยู่บนสวรรค์แล้ว วันหลังถ้าจะเขียนจดหมายถึงแม่
พ่อจะเผาให้นะ จดหมายจะได้ส่งไปบนสวรรค์ให้แม่ได้อ่าน”

ค่ำวันนั้น เมื่อส่งลูกชายเข้านอนแล้ว เขาจึงหยิบจดหมายปึกใหญ่นั้นมาอ่าน
มีจดหมายอยู่ฉบับหนึ่ง ที่ทำให้เขาสะเทือนใจมาก

“ แม่ครับ ผมคิดถึงแม่วันนี้ ที่โรงเรียนมีการแสดงของแม่ลูก ผมไม่มี แม่ เลยไม่ได้แสดงด้วย
ผมไม่ได้บอกกับพ่อ กลัวว่าพ่อจะคิดถึงแม่ แต่พ่อก็ลางานมาตามหาผม ผมไม่อยากให้พ่อรู้ว่าผมเหงา
ผมเลยแสร้งไปเล่นที่สวนสนุก แม้ว่าพ่อจะด่าผมตีผม แต่ผมก็ไม่ได้เล่าความจริงให้พ่อฟัง

แม่ครับ ผมเห็นพ่อนั่งกอดรูปของแม่ทุกวันเลย ผมรู้ว่าพ่อก็คิดถึงแม่เหมือนกับผม
แม่ครับ ผมจำไม่ได้แล้วว่าเสียงของแม่เป็นยังไง แม่มาเข้าฝันผมหน่อยได้ไหม
ขอให้ผมได้เห็นหน้าแม่อีกสักครั้ง ขอให้ผมได้ฟังเสียงของแม่อีกสักครั้งได้ไหมครับ

ลุงข้างบ้านบอกผมว่า หากเราคิดถึงใคร ก่อนนอนให้กอดรูปของเขาไว้ที่อก แล้วเราจะฝันถึงเขาคนนั้น
แต่แม่ครับ ผมกอดรูปแม่ไว้กับอกทุกวัน ทำไมแม่ไม่มาเข้าฝันผมเลยละครับ”

เมื่อเขาอ่านจบ เขาก็กลั้นเสียงสะอื้นไว้ไม่ให้ดังออกมากลัวลูกได้ยิน
เขาเอาแต่ถามตัวเองว่า จะทำอย่างไรถึงจะทดแทนความรู้สึกกำพร้าแม่ของลูกได้
…………………..
เมื่อเราเป็นผู้สร้างลูกให้เกิดมาบนโลกนี้ เราต่างมีหน้าที่รับผิดชอบชีวิตที่เกิดขึ้นมานั้นร่วมกัน

หากคุณเป็นแม่ อย่าได้เอาแต่ทำโอที
หากคุณเป็นพ่อ อย่าเอาแต่เลิกงานแล้วไปสังสรรค์กับมิตรสหาย
ขอให้คุณทั้งหลายดูแลสุขภาพให้ดี คุณจึงจะมีโอกาสได้อยู่ดูแลลูก ได้เห็นการเจริญเติบโตของลูก ได้เห็นความสำเร็จของลูกไปพร้อมๆกัน

อย่าได้ทำแต่งานหาแต่เงินจนลืมดูแลสุขภาพ
มีชื่อเสียงเงินทองแต่สุขภาพทรุดโทรม แล้วจะมีประโยชน์อะไร

อย่าได้เอาแต่คิดว่า รอฉันมีเงินก่อนแล้วค่อยทำอันโน้นทำอันนี้
เพราะไม่มีใครอาจล่วงรู้ได้ว่า นาทีต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น วันหน้าจะมีได้อีกสักกี่ครั้ง

source : forward from Line
img : crescentmoon06.tumblr.com

นุสนธิ์บุคส์ https://www.fb.com/.../a.324955277672571.../336030966565002

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น