หุ่นกระบอกบิน ตุ๊กตาหิน
ธีระวัฒน์ อนันตวรสกุล
เด่นนั่งอยู่ที่ม้าหินริมสระน้ำในวัดแห่งหนึ่ง มองตุ๊กตาจีนทำจากหินสีเขียวตัวหนึ่ง เหมือนกำลังระลึกถึงใครสักคน ที่เคยผ่านเข้ามาในชีวิตเขา เขาเป็นเจ้าของกิจการธุรกิจติดตั้งระบบสูบน้ำเพื่อบำบัดน้ำเสีย งานล่าสุดของเขาคือ ปรับปรุงสระน้ำในวัดนี้ จากสระเก่าสกปรกให้เป็นสระที่มีระบบกรองน้ำด้วยถังทราย ถ่านแกลบ ให้สามารถนำน้ำมาใช้ได้ในบางกิจกรรมที่ไม่ต้องการน้ำสะอาดอย่างน้ำประปา เช่นรดน้ำต้นไม้ ล้างพื้น หรือนำน้ำที่กรองแล้วบางส่วนไปฆ่าเชื้อต่อด้วยหลอดรังสียูวีก่อนนำไปราดห้องน้ำ งานของเขาเสร็จแล้ว แต่เขากำลังนึกถึงป้าของเขาซึ่งเป็นเจ้าของร้านเจ้าของขายของชำ
...................................................
ร้านขายของชำของป้าที่ต่างจังหวัด เป็นร้านขายของชำที่ดีที่สุดเท่าที่เด่นเคยรู้จัก แตกต่างกับร้านขายของชำแถวบ้านเด่นอย่างสิ้นเชิง ร้านแถวบ้านมักจะอมของแถมเป็นประจำ เช่นไม่แจกจานตามเงื่อนไขทั้งที่ซื้อนมข้นหวานสิบกระป๋อง ของก็เก่าเลือกก็ไม่ได้ เช่นยาสีฟันที่ใส่ตู้ตากแดดจนกล่องมีสีซีดจาง อาหารกระป๋องที่บุบ เทปกาวที่เหลืองจนใช้ไม่ได้ในห่อ หลอดไฟที่ขาด ซึ่งพอแกะแล้วก็ไม่ให้เปลี่ยน และที่ฝังใจมากที่สุด คือโกงเกมส์จับฉลากเบอร์ละบาท ในสมัยนั้นปืนฉีดน้ำราคายี่สิบบาท มีฉลากเหลืออยู่สิบใบ จับจนหมดสิบเบอร์ยังไม่เจอเบอร์ที่ตรงกับปืนฉีดน้ำ ทราบจากเด็กที่โตกว่าภายหลังว่า ทางร้านแอบฉีกหนึ่งเบอร์ เอาเบอร์ที่ฉีกออกนั้นเขียนเป็นรางวัลปืนฉีดน้ำให้ลูกเขาเล่นเอง เมื่อมีร้านสะดวกซื้อและห้างค้าปลีกมาเป็นแหล่งซื้อของทางเลือกใหม่ เด่นก็รู้สึกสะใจที่ร้านนั้นเจ๊งไป หนึ่งในเหตุการณ์ประทับใจของเด่นเกี่ยวกับร้านขายของชำของป้า เกิดขึ้นในวัยเด็ก ขณะที่แม่ของเด่นพาเด่นไปเยี่ยมป้าที่ร้านขายของชำของป้าในต่างจังหวัด ในวันนั้นมีคนดูยากไร้มาเดินมองๆ ข้าวสารที่ร้านขายของชำแห่งนั้น ในขณะที่เจ้าของร้านนั่งอยู่ หากเป็นร้านอื่นบางร้าน คนยากไร้คนนั้นคงโดนไล่ว่า อย่ามายืนขวางหน้าร้าน แต่ภาพที่เด่นเห็นคือ ป้าไปหยิบถุงพลาสติกไปชั่งข้าวให้คนยากไร้คนนั้นหนึ่งกิโลกรัม พร้อมให้หัวไช้โป๊วแห้งไปอีก ปากก็บอกว่า “ไม่มีเงินก็เอาไปกินเถิด ชั้นให้”
เมื่อคนยากไร้ได้ข้าวก็ดีใจ ยกมือไหว้ อวยพรเสียยกใหญ่ ก่อนจากไป เด่นจึงถามป้าว่า “ให้ไปเปล่าๆ เลยเหรอครับป้า ผมว่าให้เปล่าๆ อย่างนี้ขาดทุนแย่” ป้ากลับตอบมาว่า “เค้าอดจริงๆ ให้เค้าไปเถอะ ถ้าเค้าไม่มีกิน เค้าก้อต้องขโมย มันบาป” แม้เด่นจะคิดว่า หากมีคนใจดีแบบนี้อยู่มากๆ คนจนคงงอมืองอเท้า ไม่ดิ้นรนทำมาหากิน แต่เด่นก็อดประทับใจคุณป้าไม่ได้ เท่าที่แม่เล่าให้ฟัง ป้าเป็นคนใจดี ใครชักชวนเอ่ยปากให้ร่วมบุญร่วมทานใด ป้าไม่เคยปฏิเสธเลยสักครั้ง ร่วมบุญทุกครั้งที่มีโอกาสมาโดยตลอด
เด่นทำงานรับเหมาเกี่ยวกับการออกแบบระบบบำบัดน้ำเสียซึ่งไม่มีกำไรมากนัก แต่พออยู่ได้ไม่เดือดร้อนเพราะเด่นดำเนินธุรกิจแบบมีกรอบคุณธรรม ไม่ขูดรีดกำไรจนเกินไป แบบที่ป้าและพ่อแม่สอนสั่ง ส่วนป้ายังเปิดร้านขายของชำที่ต่างจังหวัด พออยู่ได้เช่นกัน เพราะร้านสะดวกซื้อและห้างค้าปลีก ยังไม่สนใจหมู่บ้านเล็กๆ ป้ายังขายของอยู่ เพราะเหตุผลว่าคนในหมู่บ้านจะเข้าเมืองก็ลำบาก ขายของให้เขาจะได้สบายๆ ไม่ต้องเดินทางไกล Facebook ทำให้เด่นยังได้คุยกับลูกพี่ลูกน้องรุ่นราวคราวเดียวกัน ที่เป็นลูกของป้า เขาได้รู้และรู้สึกยินดีกับป้าและลุงเขยที่เพิ่งจะขายที่ดินจำนวน 10 ไร่ ได้เงินมากพอที่จะไปซื้อที่ดินที่จังหวัดนครสวรรค์เกือบ 300 ไร่ เพื่อเริ่มการปลูกยาง ไม้เศรษฐกิจที่กำลังมีราคาดี และจะกันที่ปลูกข้าวเพื่อทำสวนเกษตรแบบเศรษฐกิจพอเพียง เด่นรู้สึกว่าสวรรค์ได้ตอบแทนคนดีๆ อย่างท่าน ถ้าเด่นเดาไม่ผิด คุณป้าคงกันที่ไว้ปลูกข้าว ปลูกกล้วย เพื่อแจกคนจนแน่นอน ว่าแล้วเด่นจึงส่งข้อมูลแบบการสร้างจักรยานสีข้าว จักรยานสูบน้ำ กังหันลมสูบน้ำจากถัง 200 ลิตรใบเก่า เครื่องกรองน้ำจากถังเก่าใส่ทรายและถ่านแกลบ ไปให้ลูกพี่ลูกน้องของเขาพิจารณา เผื่อว่าจะได้เอาไปให้คุณป้าใช้งานในสวน
ภาพความสุขของครอบครัวป้ามีอยู่ได้ไม่นานนัก เหมือนสวรรค์เปลี่ยนใจมากลั่นแกล้ง หลังจากนั้นไม่นาน เด่นได้ทราบว่า ป้าป่วยเป็นมะเร็ง เด่นเกิดความสงสัย คนใจบุญที่ทำดีมาทั้งชีวิตแบบป้า ไม่น่าจะไม่ต้องมาประสบชะตากรรม พบเรื่องราวร้ายๆ หรือว่าผลบุญไม่ช่วยป้าเลย รับรู้ข่าวของป้ามาโดยตลอด รับรู้ว่าป้าต้องทนทุกข์ทรมานกับการรักษามะเร็งด้วยยาเคมีบำบัด อยู่เนิ่นนาน จนป้าบอกว่าจะไม่ไปรักษาแผนปัจจุบันอีกแล้ว ด้วยความห่วงใยคุณป้า แม่และเด่นพยายามหาข้อมูลเกี่ยวกับ หมอสมุนไพรที่มีจรรยาบรรณและเชื่อถือได้ จนในที่สุดก็เจอหมอดีเข้า หมอคนนี้มีสูตรยาต้มที่ระงับมะเร็งได้ คนป่วยยากจนที่ไม่มีเงินไปรักษากับแผนปัจจุบันมารักษากันมาก และส่วนใหญ่ได้ผลดีด้วย มีหลักฐานยืนยันจากผู้ป่วยหลายราย ซึ่งดีขึ้นจากการแพทย์ทางเลือกนี้ เด่นลงทุนไปหาหมอในวันหยุด เมื่อพบกับหมอแล้วยิ่งเกิดความศรัทธา บ้านหลังเล็กมีสมุนไพรอยู่เต็ม มีคนป่วยมาพบมากพอควร ในระหว่างที่รอคิวพบหมอ ก็พบเจ้าหนี้ของหมอยา มาทวงหนี้และค่าเช่าบ้านข้างๆ ที่หมอยาเช่าใช้เป็นที่เก็บยา เจ้าหนี้คนนี้ใจดีมาก แกมาถามดีๆ ว่า เดือนนี้มีจ่ายไหม หมอยาบอกขอผัดผ่อนไปก่อน พร้อมให้เหตุผลว่า เดือนที่แล้วคนจนมารักษาเยอะ เลยต้องรักษาฟรีไปบ้าง รับเงินพอแค่เขามีจ่ายบ้าง เจ้าหนี้ก็ยิ้มไม่ว่าอะไร บอกว่าไม่เป็นไร สำหรับหมอมีเมื่อไรค่อยจ่ายก็ได้ เมื่อถึงคิวเด่นซึ่งขอพบหมอเป็นคนสุดท้าย หมอกลับไม่ยอมจ่ายยา บอกว่าอยากให้พาคนป่วยมาดูสภาพ ถ้าทำได้ ถามแค่ว่ายังกินข้าวดื่มน้ำเองได้นะ เพราะต้องกินยาต้ม เด่นถามหมอว่า ทำไมไม่ขึ้นราคายาละครับ จะได้มีเงินจ่ายหนี้ ซื้อบ้านข้างๆ ที่ปกติเช่าเป็นคลังเก็บยา หมอตอบกลับด้วยคำพูดที่เด่นประทับใจว่า “จะเอาอะไรหนักหนา กับคนเจ็บคนป่วย แค่เขาเจ็บป่วย เขาก็ทุกข์ทรมานมากพออยู่แล้ว”
เด่นเชื่อว่าสวรรค์กลับมาช่วยคุณป้าแล้ว ป้าจะได้เจอหมอดี และจะรีบพาป้ามาหาหมอ บุญย่อมรักษาคนดี เจอหมอดีขนาดนี้ ในที่สุดป้าก็ได้ไปซื้อยากินตามคำแนะนำของเด่น เด่นดีใจที่รู้ว่าป้ามีกำลังใจขึ้นมามาก ใช่สิ สวรรค์ต้องคุ้มครองคนดีๆ เด่นคอยลุ้นอย่างใจจดใจจ่อ ว่าอาการป้าจะดีขึ้นไหม คอยถามข่าวอยู่อย่างสม่ำเสมอ แล้วก็เป็นไปตามคาด แค่เจ็ดวันป้าก็ดีขึ้น เพราะไม่มีอาการปวดกระดูกเหมือนเคย แต่ยังเหนื่อยหอบอยู่ เด่นคิดว่า แน่นอน คนดี สวรรค์ย่อมคุ้มครอง ดลใจให้ เจอหมอดียาดี อาการก็ต้องดีขึ้น
แต่แล้ววันที่แปดก็ได้ข่าวว่า ป้าไม่ยอมกินอะไรเลย วันนึงกินข้าวคำสองคำ แต่ลูกป้าอีกคนที่เฝ้าไข้อยู่ ก็พยายามหยอดยาตามลงไปในปากของแกไม่ให้ขาด หยอดได้ 1-2 ช้อน ไม่เต็มแก้ว เช้าเย็นอย่างเคย เด่นรู้สึกไม่สบายใจจนกังวล เพราะยาที่เขาแนะนำไม่ถูกกับโรคหรือเปล่า ป้าทรุดเพราะ ยานั้นหรือเปล่า
คืนหนึ่งเด่นฝันไป เด่นฝันว่า ได้เทียวไปเทียวมา ซื้อยาไปให้ป้ากินอยู่หลายต่อหลายเที่ยว แต่ป้าก็ไม่ดีขึ้น จากยาหนึ่งชะลอม เป็นสองชะลอม จนเป็นห่อใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายเมื่อวางห่อยาขนาดใหญ่ลง แกะผ้าห่อออก ปรากฏว่าในห่อใหญ่ กลับกลายเป็นโลงศพขนาดใหญ่สวยงามสีขาว มีลายเขียนสีเป็นสีทอง เปิดโลงศพดูพบเพชรเม็ดใหญ่อยู่หนึ่งเม็ด ในโลงศพนั้น แล้วก็มีฝูงหุ่นกระบอกผู้หญิงบินได้เป็นจำนวนมากแต่ละตัว สวยงามมีอาภรณ์ประดับแวววาวระยิบระยับทุกตัว บินลงมาวนเวียนที่ตัวเด่น หุ่นกระบอกที่สวยงามตัวหนึ่ง กล่าวกับเด่นด้วยเสียงเล็กแหลมว่า “รักษาไม่หาย ยังไงก็ต้องตาย ใส่โลงศพนี้ แน่นอน” เด่นสะดุ้งตกใจตื่น ดูนาฬิกาพบว่าเป็นเวลา 2:55 น. ของวันใหม่ เกิดความสะพรึงกลัวในความฝันอย่างบอกไม่ถูก จนถึงขั้นไม่กล้าลุกไปเข้าห้องน้ำทั้งที่ปวดปัสสาวะอยู่นาน ตอนสาย ลูกพี่ลูกน้องของเขาประกาศข่าวการเสียชีวิตของคุณป้า ว่า “แม่หลับสบายแล้ว ต่อไปจะได้ไม่ต้องเจ็บต้องปวดอีก”
ทราบภายหลังว่าป้าสิ้นลมในเวลา 3:05น.
_______________________________
ความดีที่คุณป้าทำมาตลอดชีวิตไม่ได้ช่วยป้าเลย เด่นคิดว่าสวรรค์ไม่ยุติธรรม จากเหตุการณ์ในครั้งนั้น เด่นเลิกเชื่อเรื่องบาปบุญคุณโทษ คิดว่ามันเป็นเรื่องหลอกคนให้ง่ายต่อการปกครองในสมัยก่อน เริ่มใช้ชีวิตอย่างไร้ศีลธรรม และพบว่าชีวิตของเขาดีขึ้นเรื่อยๆ รายได้มากขึ้นจากการขูดรีดเอากำไรจากคนที่ไม่รู้ ขายของถูกๆ ในราคาแพง เมื่อกล้าขูดรีดเอากำไรครั้งหนึ่ง ก็กล้าทำขึ้นเรื่อยๆ อย่างย่ามใจ จนในที่สุดก็ได้รับงานใหญ่มา เป็นการปรับปรุงบ่อน้ำโบราณอายุสองร้อยปีเศษในวัดแห่งหนึ่ง รายละเอียดคือ เปลี่ยนสระน้ำซึมที่ถูกละเลยจนน้ำเน่า ขยะเต็ม ให้มีสภาพดีขึ้น ติดเครื่องสูบ ไปลงเครื่องกรองที่ใช้ทราย ถ่านแกลบ กรวด หิน ให้น้ำที่เคยขุ่นมีตะไคร่ใสขึ้น เพื่อนำน้ำไปรดน้ำต้นไม้ ล้างพื้น และ ราดส้วม เพื่อที่จะลดปริมาณการใช้น้ำประปา น้ำส่วนใหม่จากดินรอบๆจะซึมเข้ามา (ไม่ใช่น้ำบาดาลใต้ดินลึกๆ ที่หากสูบขึ้นมาใช้มากเกินไป อาจส่งผลให้ดินทรุดตัว) ทำให้น้ำมีสภาพดีขึ้น งานนี้กำไรมหาศาลรออยู่ ผู้ตรวจรับเป็นพระสงฆ์ที่ไม่เชี่ยวชาญเรื่องเครื่องสูบน้ำ และทางวัดก็จ่ายสดไม่มีเชื่อด้วย ขอเบิกเท่าไรก็ให้ตลอดไม่มีปฏิเสธ เพราะมีเจ้าภาพหลายคนร่วมทอดผ้าป่าถวายเงินไว้แล้ว อีกทั้งหัวหน้าคณะของเจ้าภาพ ก็เป็นเศรษฐีหุ้น พร้อมเพิ่มเงินให้หากเงินไม่พอ
_______________________________
ในที่สุดวันส่งมอบงานให้ทางวัดก็มาถึง พระสงฆ์องค์เจ้าประทับใจในผลงานมาก งานสมบูรณ์จนแทบจะไม่มีที่ติ จนหลายคนถามเด่นว่าทำงานดีขนาดนี้จะมีกำไรเหรอ เด่นยิ้มอย่างพอใจ บอกว่า “เอาน่า ถือว่าร่วมทำบุญละกัน ปกติคนเราทำบุญค่าน้ำประปาให้วัด ก็ประหยัดแค่เงินที่ถวายนั้น แต่ถ้าเราถวายระบบที่ช่วยประหยัดน้ำได้ในระยะยาว วัดก็ประหยัดเงินได้มาก แถมยังมีจักรยานสูบน้ำเป็นพลังงานทางเลือกลดการใช้ไฟฟ้า แถมพระเณรชาวบ้านรอบวัดได้ออกใช้เป็นที่ออกกำลังกายได้อีกด้วย” เด่นได้กลับใจ ทุ่มเททำอุปกรณ์ทุกอย่างที่เคยคิดจะ ทำให้ป้าใช้ ที่สวนสามร้อยไร่ของป้า ซึ่งสุดท้ายไม่ได้ทำ เพราะ ป้าเสียไปซะก่อน
_______________________________
เด่นไม่ได้เล่าให้ใครฟัง ถึงสาเหตุที่ทำให้เขาเปลี่ยนใจไม่ขูดรีดวัดอย่างที่ตั้งใจทำในตอนแรก เนื่องจากความฝันของเขา ในคืนหนึ่งในระหว่างที่รับงาน ณ วัดนี้ เด่นไม่อยากเล่า เพราะมันเป็นความเชื่อส่วนบุคคล และคนบางคนอาจคิดว่าเป็นเรื่องไร้สาระ เย็นวันหนึ่ง เด่นยืนที่ริมสระในวัดนึกในใจ ว่า “ป้า ค้าขายแบบป้าเมื่อไรจะรวย ต้องขูดรีดแบบผม ตั้งแต่ผมเริ่มทำธุรกิจแบบเอาเปรียบ ขูดรีดคนที่ไม่รู้ ผมรวยเอาๆ ผมอาจเหมือนร้านชำที่เอาเปรียบ ที่วันหนึ่งอาจถูกร้านสะดวกซื้อ มาแย่งลูกค้าจนเจ๊ง แต่ธุรกิจที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญเฉพาะอย่างผม คงอีกนานกว่าจะมีคนมาแข่งได้ ป่านนั้นผมก็รวยแล้ว ป้ารู้ไหม ขนาดเศรษฐีที่ขุดบ่อถวายวัด ยังเป็นโรคอหิวาตกโรคตายเลย การได้รับผลดีชั่ว มันเป็นผลจากความบังเอิญ เรื่องกรรมวิบากเป็นเรื่องที่ใช้หลอกคนเท่านั้น”
เด่นได้พบคุณป้าร้านขายของชำอีกครั้งในความฝัน แกแต่งกายชุดขาวสะอาด แกมาบอกว่า “ตอนนี้แกอยู่บนสวรรค์ในวิมานอย่างมีความสุขแล้ว นึกถึงเด่น เห็นว่ากำลังจะโกงวัดโกงพระโกงเจ้าทำบาปใหญ่ เลยลงมาหาเพื่อห้าม และอยากจะบอกว่าทำดียังไงก็ต้องได้ดี แม้ไม่เห็นกันในภพปัจจุบัน ก็จะติดตัวคนทำดีไป จนกระทั่งให้ผลสักวันหนึ่งแน่นอน ป้ากับท่านเศรษฐีที่ขุดสระน้ำถวายวัด อาจจะตายด้วยโรคร้าย ก็เพราะกรรมเก่าที่ป้าเคยค้าขายยาพิษในอดีตชาตินานมาแล้ว และท่านเศรษฐีที่อดีตชาติได้วางยาศัตรูจนตายเช่นกัน” ป้าพูดต่อ “ตอนนี้ชดใช้หนี้กรรมหมดแล้ว และกำลังเสวยความสุขอยู่ในวิมาน ด้วยแรงส่งของกุศลกรรมที่ตั้งใจทำมาตลอดชีวิต วัฏสงสารนี้ยาวไกลนัก จะมีสักกี่ชาติ ที่ได้พบพระพุทธศาสนา รู้กฎแห่งกรรมวิบาก. “ป้าหิวบ้างไหม” เด่นถาม ป้าบอกว่า “แค่คิดก็อิ่มแล้ว ไม่รู้จักคำว่าหิวเลย เป็นผลจากที่ป้าชอบให้ของกินคนอื่น และปรารถนาให้เขาอิ่ม ไม่ต้องทุกข์ทรมานจากความหิวโหย”
ป้ายังบอกด้วยว่า “ลึกลงไปหนึ่งวา ที่กึ่งกลางบ่อ มีตุ๊กตาหินจีนรูปนักรบสวยงามตัวหนึ่งจมอยู่ใต้บ่อ นำตุ๊กตานั้นขึ้นมาด้วยนะ ท่านเศรษฐีพ่อค้าที่ไปค้าขายที่เมืองจีนสมัยอยุธยา นำตุ๊กตาพวกนี้ถ่วงห้องอับเฉาเรือ ในตอนขากลับที่เรือว่าง ถ่วงเรือไม่ให้ล่ม และนำมาถวายวัดนี้ พร้อมขุดสระน้ำนี้ถวาย ตุ๊กตาหินตัวนี้ตัวใหญ่ สูงเกือบสองเมตร แบ่งเป็นสองส่วน ต่อกันด้วยสลักซึ่งเป็นแท่งหินที่ระดับเอวสลักของตุ๊กตานั้นเก็บอยู่ในวิหารข้างโบสถ์ ส่วนง้าวของตุ๊กตาหิน ตอนนี้ด้ามถูกวางพาดเป็นเชิงเทียนในโบสถ์ ใบง้าวอยู่ใต้ฐานพระพุทธรูป จัดการประกอบให้เรียบร้อยนะ”
เด่นเชื่อว่าเขาไม่ได้ฝันเหลวไหล เพราะเมื่อสูบน้ำเก่าหมดบ่อ ขุดดินลึกลงไปอีกสองเมตรที่กึ่งกลางบ่อ ก็พบตุ๊กตาเนื้อหินเขียวสวยงามตัวหนึ่ง ที่แบ่งเป็นสองชิ้นจริงๆ สลักของตุ๊กตา ด้ามง้าวและ ใบง้าว อยู่ในที่ตามที่ป้าพูดให้ฟัง และตอนนี้ทางวัดได้เชิญตุ๊กตาตัวนี้ ออกมาตั้งแสดงอยู่ที่มุมหนึ่งในวิหารข้างสระน้ำ
เด่นกำลังจ้องมองตุ๊กตาหินเขียว มันเป็นประจักษ์พยานของสิ่งลี้ลับที่มีอยู่จริง และคิดถึงป้าที่เชื่อเรื่องภพภูมิอื่น การเวียนว่ายตายเกิด และกฎแห่งกรรม เด่นหันมาเป็นผู้ประกอบอาชีพตามหลักคุณธรรม เพื่อความสุขของสังคมอีกครั้ง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น