++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพฤหัสบดีที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

สัญญาณที่บอกว่าครอบครัวเรามีความสุข/ดร.แพง ชินพงศ์




 ในครอบครัวจะมีความสัมพันธ์ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ระหว่างสามีภริยา ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อ แม่ ลูก หรือความสัมพันธ์ระหว่างญาติพี่น้อง ซึ่งความสัมพันธ์แต่ละแบบอาจมีลักษณะที่แตกต่างกันไป แต่สิ่งที่ทุกครอบครัวปรารถนาตรงกันที่จะให้เกิดขึ้นคือการอยู่กันด้วยความรัก มีความเข้าใจ ดูแลช่วยเหลือกันอย่างอบอุ่น และมีความสุขร่วมกันอย่างดี ซึ่งสัญญาณที่แสดงให้เห็นว่าครอบครัวเราเป็นครอบครัวที่มีความสุขมีดังนี้
     
       1.เวลา
     
       สัญญาณที่บอกว่าครอบครัวมีความสุขคือการใช้และให้เวลาแก่กันและกันอย่างมีคุณค่า คนที่รักกันมักอยากใช้เวลาร่วมกันในการพูดคุย หรือทำกิจกรรมต่างๆ เช่น รับประทานอาหารร่วมกัน นอนดูโทรทัศน์ด้วยกัน เล่นกีฬา หรือเล่นเกมกัน เวลาที่คนในครอบครัวได้อยู่ด้วยกัน จึงเป็นเวลาแห่งความสุข ในทางกลับกันหากคนในครอบครัวหลีกเลี่ยงการใช้เวลาร่วมกันแสดงให้เห็นสัญญาณของความมีปัญหา เพราะนั่นหมายความว่า เราไม่อยากที่จะพูดคุย ถามทุกข์ สุข หรือทำกิจกรรมร่วมกัน ซึ่งถ้าเป็นเช่นนี้สะสมไปเรื่อยๆ อาจทำให้เกิดความแตกแยกในครอบครัวได้ การให้เวลาแก่ครอบครัวเป็นเหมือนการสร้างรากฐานให้แข็งแรง ดังนั้น หากมีเวลาแม้เพียงน้อยนิดนอกเหนือเวลาที่เราให้กับเรื่องอื่นๆ แล้วควรให้เวลากับครอบครัวอย่างสม่ำเสมอ แล้วความสุขที่มีค่ามากมายจะเกิดขึ้นตามมา
     
       2.การสื่อสาร
     
       สัญญาณที่บอกว่าครอบครัวมีความสุข คือ ต้องมีการสื่อสารที่ดี ทั้งการพูดคุยด้วยถ้อยคำที่สุภาพไม่หยาบคาย การรับฟังในคำพูดและความคิดเห็นของกันและกัน มีการแลกเปลี่ยนความคิดระหว่างกัน การยอมรับในการแสดงความรู้สึก อารมณ์ ความต้องการของผู้อื่นโดยปราศอคติ หรือการดูถูกดูแคลนการสื่อสารที่ดีในครอบครัวจะทำให้การใช้ชีวิตของทุกคนมีความสุข แม้ยามที่สมาชิกในครอบครัวมีปัญหาก็จะสามารถพูดคุยและร่วมกันแก้ไขปัญหาให้ ผ่านพ้นปัญหาและอุปสรรคไปได้อย่างแน่นอน
     
       3.ความไว้วางใจ
     
       ครอบครัวจะมีความสุขได้คนในครอบครัวต่างต้องมีความไว้เนื้อเชื่อใจกัน ไม่ว่าจะเป็นความไว้วางใจระหว่างสามีและภริยาหรือระหว่างพ่อ แม่และลูก สิ่งนี้เป็นลักษณะที่สำคัญโดยเฉพาะคุณพ่อและคุณแม่ที่มักจะรู้สึกว่าต้องปกป้องลูกๆ อยู่ตลอดเวลา และจะต้องคอยดูแลไม่ให้คลาดสายตา อย่างถ้าลูกยังเป็นเด็กเล็กๆ ที่ยังไม่ได้ไปโรงเรียนการจะต้องดูแลเขาตลอด 24 ชั่วโมง ก็อาจเป็นเรื่องปกติ แต่หากเป็นลูกวัยที่โตขึ้นมาสามารถรับผิดชอบตัวเองได้บ้างแล้ว คุณพ่อคุณแม่ควรต้องให้ความไว้วางใจกับลูกบ้างโดยปล่อยให้เขาได้คิด ตัดสินใจ และเลือกทำในสิ่งที่เขาต้องการโดยเฝ้าดูอยู่ห่างๆ พร้อมที่จะให้คำแนะนำ หรือความช่วยเหลือได้ตลอดเมื่อลูกต้องการ การให้ความไว้วางใจแก่ลูกจะทำให้ลูกมีความภูมิใจในตัวเอง ขณะเดียวกัน ลูกจะเรียนรู้ในการให้ความไว้วางใจพ่อแม่เช่นกัน และเมื่อคนในครอบครัวไว้วางใจกันก็จะอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข
     
       4.ช่วยเหลือยามมีปัญหา
     
       อาจมีบ้างที่คนในแต่ละครอบครัวจะต้องมีวันเวลาที่ยากลำบากในชีวิต เวลาเช่นนี้สมาชิกในครอบครัวควรจะต้องยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือโดยทันที การช่วยเหลือกันแสดงว่าเรารักห่วงใยและปรารถนาดีต่อกัน ดังนั้น หากคนในครอบครัวมีปัญหาแต่สมาชิกคนอื่นเพิกเฉย ไม่สนใจ คิดว่าไม่ใช่เรื่องของเรา ไม่อยากเดือดร้อนไปด้วย นั่นแสดงว่าครอบครัวนั้น มีความรักที่ไม่เข้มแข็ง เป็นสัญญาณว่ามีครอบครัวมีปัญหาเกิดความแตกแยกกัน
     
       5.มีเป้าหมายร่วมกัน
     
       ครอบครัวที่อบอุ่นและมีความสุข มักมีเป้าหมายร่วมกันในการดำเนินชีวิต แต่ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าแต่ละคนจะมีเป้าหมายที่แตกต่างกันไม่ได้ เพียงแต่หากมีความแตกต่างต้องเป็นไปในทิศทางที่คนในครอบครัวยอมรับได้และเห็นพ้องต้องกันว่าดี เมื่อครอบครัวเรามีเป้าหมายอย่างไรเราก็จะดำเนินไปให้ถึงเป้าหมายนั้นร่วมกันโดยไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคที่เกิดขึ้น เช่น หากสมาชิกในครอบครัวอยากทำธุรกิจแล้วอาจเกิดปัญหาหนี้สินหรือล้มเหลว คนในครอบครัวต้องให้กำลังใจ คอยช่วยเหลือ ร่วมกันหาทางแก้ปัญหา แม้จะแก้ไขได้หรือไม่ได้ก็ตามแต่ แต่อย่างน้อยก็แสดงให้เห็นว่าครอบครัวเรารักกันและพร้อมจะก้าวเดินไปด้วยกันในทุกหนทางที่เราเลือกกันไว้
     
       ครอบครัวเป็นเหมือนเกราะป้องกันในวันที่ทุกข์ยาก วันที่เจ็บปวด เราสามารถวิ่งเข้ามาหาเกราะที่กำบังได้ ครอบครัวเป็นที่ ๆ ให้เรียนรู้เรื่องความรัก การให้อภัย การพึ่งพา การไว้เนื้อเชื่อใจกัน และเราสามารถสร้างสิ่งที่ดีต่าง ๆ ให้เกิดขึ้นทั้งกับคนในครอบครัว ผู้อื่นและสังคมได้จากรากฐานของครอบครัวที่มีความสุข ให้เราเริ่มต้นจากการสร้างครอบครัวเล็กๆ ของเราให้มีความรัก ความอบอุ่นและมีความสุขกันเถอะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น