บุญ...และความหมายแห่งบุญ ๓ ระดับ
๑. เราทำบุญก็เพื่อประโยชน์สุขปัจจุบัน (ทิฏฐธัมมิกัตถะ)
คือ เพื่อให้เกิดลาภบริวาร สถานภาพความเป็นอยู่ ความสุข คำชมเชย
สนองตอบกลับมา นั่นคือคุณภาพชีวิตที่ดี เศรษฐกิจที่ดี
และการยอมรับที่ดีจากสังคมรอบข้างที่เราอยู่
ที่สุดก็เพื่อให้คนเรารู้จักเห็นอกเห็นใจกัน ช่วยเหลือกันฉันพี่น้อง
คนที่เดือดร้อนก็ได้รับการดูแลเอาใจใส่ ไม่ถูกทอดทิ้ง
มีชีวิตอยู่ร่วมกันเป็นสังคมที่มีความสุข
เพราะคนเราในโลกต้องเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันด้วยความเอื้ออาทรต่อกัน
จะอยู่แบบตัวใครตัวมันไม่ได้
๒. เราทำบุญเพื่อประโยชน์สุขที่สูงขึ้น (สัมปรายิกัตถะ)
นั่นคือในระดับจิตที่สูงขึ้นไป
เพื่อเราจะได้เรียนรู้ที่จะพัฒนาตัวเอง
ให้เจริญเติบโตขึ้นมาเป็นบุคคลที่มีศีลธรรม มีคุณธรรม
มีจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ มีความอบอุ่นซาบซึ้งสุดใจด้วยศรัทธา
ภาคภูมิใจ อิ่มใจ แกล้วกล้ามั่นใจในชีวิตที่ได้ทำบุญ
โดยกินความรวมถึงจุดหมายต่อมาเมื่อละโลกนี้ไปแล้วด้วย
๓. เราทำบุญเพื่อประโยชน์อย่างยิ่ง (ปรมัตถะ)
คือ ประโยชน์ที่เป็นสาระแท้จริงของชีวิต
ได้แก่ การรู้แจ้งสภาวะของสิ่งทั้งหลายตามความเป็นจริง
รู้เท่าทันคติธรรมดาของโลกของสังขารธรรม
ไม่ตกเป็นทาสของโลกและชีวิต
มีจิตเป็นอิสระปลอดโปร่งผ่องใส
ไม่หวั่นไหวไปกับความผันผวนปรวนแปรของชีวิต
หรือการพรัดพรากจากสิ่งอันเป็นที่รักในชีวิต
ไม่ถูกบีบคั้นโดยความยึดมั่นของตนเอง เย็นสว่างไสวโดยสมบูรณ์
ความมุ่งหมายของบุญทั้ง ๓ ระดับนี้
เราจะเห็นได้จาก พิธีกรรมทางพุทธศาสนาที่มุ่งประโยชน์ทั้ง ๔ ด้าน
ได้แก่ ด้านวัตถุ หรือความเป็นอยู่ ด้านสังคม
ซึ่งรวมถึงพฤติกรรมความเอื้อเฟื้อ เผื่อแผ่เกื้อกูลกัน
ความสัมพันธ์ด้านจิตใจ และด้านปัญญา
ทั้งหมดนี้ล้วนมีคุณค่าต่อคุณภาพชีวิตและสังคม
อันไม่อาจขาดด้านใดด้านหนึ่งไปได้
พูดง่ายๆ คือ พิธีกรรมทางพุทธศาสนามุ่งให้เกิดประโยชน์ครบถ้วน
อย่างเป็นองค์รวมตามความมุ่งหมาย
ประโยชน์ทั้ง ๔ ด้านนี้เรายังเห็นได้จากประเพณีพิธีกรรมของชุมชน
เช่น ลอยกระทง บุญบั้งไฟ
กล่าวคือ ไม่เพียงแต่มีจุดมุ่งหมายอนุรักษ์ลำน้ำ
หรือเพื่อให้ฝนฟ้าตกต้องตามฤดูกาล
อันเป็นเรื่องเกี่ยวกับชีวิตความเป็นอยู่โดยตรงเท่านั้น
ยังเอื้อให้เกิดความสนิทสนมกลมเกลียวในชุมชน
และมีกิจกรรมทางศาสนาเพื่อให้เกิดความมั่นใจในชีวิต
รวมทั้งมีการปลูกฝังตอกย้ำทัศนคติที่เคารพธรรมชาติ และจิตสำนึกต่อชุมชน
ซึ่งล้วนเป็นคติที่สำคัญในการดำเนินชีวิต
โดยสรุปแล้ว ปุถุชนคนเราทำบุญก็เพื่อ "ตัวเอง"
แต่คงดีกว่าถ้าเราทำบุญเพื่อ "พัฒนาจิต"
และคงดียิ่งขึ้นไปอีก ถ้าเราทำบุญเพื่อพัฒนา "สติปัญญา" ไปด้วย
และคงดีที่สุด ถ้าเราช่วยกันทำบุญทุกรูปแบบ (บุญกิริยาวัตถุ ๑๐)
เพื่อช่วยเหลือสังคมให้สงบสุข และดีไปด้วยพร้อมๆ กัน
(ที่มา : “ฉลาดทำบุญ : รวมเรื่องน่ารู้คู่มือทำบุญให้ถูกวิธี, พิมพ์ครั้งที่ ๖๗ (ฉบับปรับปรุง). ,
สนับสนุนโดย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และศูนย์ส่งเสริมการให้
และการอาสาเพื่อการส่งเสริมสังคม (ศกอส.) (National Centre for Giving and Volunteering (NCGV.) , หน้า ๒๓-๒๕)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น