++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันจันทร์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

จดหมายจากเพื่อนนายเข้ม เย็นยิ่ง ถึง น.ส.ยิ่งเรขา ภ่ายวัตรภัย ผู้ใหญ่บ้านไทยเจริญ


จาก FWM มีข้อคิดดี หยิบมาแปะแบ่งกันอ่านค่ะ

จดหมายจากเพื่อนนายเข้ม เย็นยิ่ง
ถึง น.ส.ยิ่งเรขา ภ่ายวัตรภัย ผู้ใหญ่บ้านไทยเจริญ
๔ วันก่อน ๒๘ ตุลาคมที่น่าสนับสนุนและระมัดระวัง

ถึงหนูยิ่งเรขา ที่รักและเมตตา
เมื่อตอนที่หนูอายุได้ ๔ ขวบนั้น นายเข้ม เย็นยิ่ง เพื่อนอาวุโสของผม ได้เขียนจดหมายถึงนายทำนุ เกียรติก้อง ผู้ใหญ่บ้านไทยเจริญ เรียกร้องให้รีบประกาศใช้กติกาหมู่บ้าน ซึ่งถูกเลิกล้มไปด้วยอำนาจเผด็จการ เพื่อจะให้ไทยเจริญกลับคืนสู่และรักษาไว้ชึ่งความ “เป็นโลกและหมู่บ้านที่น่าอยู่ มีความสงบสุขเป็นไทยสมชื่อ และเจริญสมหวัง”
บัดนี้ ผมอยากจะถามหนูให้ตอบด้วยความจริงใจว่า ไทยเจริญ “น่าอยู่ มีความสงบสุขเป็นไทยสมชื่อ และเจริญสมหวัง” แล้วหรือ
แม้แต่คนไทยเองก็เห็นว่าไทยเจริญใกล้ความเป็นนรกเข้าไปทุกทีแล้ว ประจักษ์พยานก็คือการที่บ้านแตกสาแหรกขาด ลำบากยากเข็ญ คนไทยเข่นฆ่าราวีคนไทยด้วยกันเอง ข่มเหงทำร้ายคนไทยด้วยกันเอง เท่านั้นยังไม่พอยังชักน้ำเข้าลึกชักลึกเข้าบ้าน เอาขมุเขมรมาไล่จับไล่ฆ่าคนไทยในบ้านของตนเอง เอาฝรั่งมังค่ากับเจ๊กจีนมาขุดเจาะอ่าวและไร่นาของชาวบ้านหาน้ำมัน เอาไปโก่งราคาหากำไร แล้วหวนมาสูบเลือดเชือดเนื้อคนไทยด้วยกันเอง
ว่าไปแล้วหนูก็มิใช่ต้นเหตุดอก ต้นเหตุมันมาจากกติกาที่นายเข้มและผมเองพร้อมกับลูกหลานไทยเจริญเรียกร้องนั่นแหละ แต่บังเอิญเราไม่ได้กติกาที่พึงปรารถนา แต่ได้กติกาอุบาทว์จากนรกจกเปรต ด้วยการสมคบคบคิดแสวงหาประโยชน์ของผู้นำสมัชชา บรรดาทหารถืออาวุธ และนักปราชญ์จอมปลอมทั้งหลายต่างหาก
ว่าไปอีกทีแล้ว พวกหนูขึ้นมาเป็นใหญ่ได้ก็ด้วยกติกาอุบาทว์นี่แหละ และผู้มีอำนาจนอกเหนือกติกานั้นก็มิใช่อื่นไกล หนูรู้อยู่แก่ใจดี มันไม่ใช่เรื่องที่ชอบธรรมหรือน่าภาคภูมิใจอะไรก็หามิได้
การที่หนูเองได้ขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่บ้าน ก็ด้วยกติกาปัจจุบัน ซึ่งปรับเปลี่ยนต่อมาหลายต่อหลายครั้ง ด้วยกำลังบ้าง ด้วยเสียงข้างมากบ้าง แต่ผลก็เหมือนกัน ล้วนแต่เป็นกลอุบายรักษาผลประโยชน์ให้หมู่คณะและพรรคพวก โดยแอบอ้างส่วนรวมและประชาธิปไตยบังหน้าทั้งสิ้น หาไม่แล้ว คนในครอบครัวหนูจะสลับสับเปลี่ยนกันมาครองอำนาจถึง ๓ คนได้อย่างไร
ยิ่งกว่านั้น มีที่ไหนในโลกที่โรงเรียนม้าแข่งบ้านนอกแห่งเดียวจะผลิตผู้นำไทยเจริญได้ทั้งครอกถึง ๓ คนไล่ๆกัน ไทยเจริญเป็นหมู่บ้านชาวเขาหรือบริษัทส่วนตัวของครอบครัวภ่ายวัตรภัยหรืออย่างไร
ดังนั้น เราต้องตั้งคำถามและหาคำตอบใหม่ให้ได้ว่า “ปัจจัยสำคัญของความเป็นไทยและความเจริญ” ที่นายเข้มว่า คือ “ความสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงอะไรในหมู่บ้านของเราโดยสันติวิธี และเป็นไปตามกติกา”ปัจจัยที่ยังขาดอยู่คือความสามารถและความซื่อสัตย์ใช่หรือไม่ ปัจจัยนี้จะพึ่งคนโกงและคนไม่รู้ไม่ชี้ดีแต่ซื้อสิทธิขายเสียงได้อย่างไร
ว่าไปแล้ว ผมก็รู้ดีอยู่เหมือนกันว่าหนูหาได้ฝึกปรือฝีมือ หรือเตรียมตัวเตรียมใจจะมาเป็นหัวให้ไทยเจริญไม่ หนูยังสาวยังสวยมีชีวิตเลือดเนื้อที่จะหาสุขสำราญในความมั่งมีและโลกียสุขได้อีกนาน เรื่องอะไรจะอยู่ดีๆจะหาเหามาใส่หัว หนูคงไม่ปฏิเสธใช่ไหมว่าถูกบังคับ หนูคงจำตอนที่หนูไปถอนสะอื้นร่ำไห้กับอาจารย์ศักดิ์พูน ในวันที่ชาลี เครือสุชิน ที่ปรึกษาสำคัญของหนูพาไปได้ดีว่า “หนูไม่อยากเป็น”
ขณะนี้ ผมมาอยู่ไกล เพราะทั้งเหม็นทั้งเบื่อขี้หมูไหลในหมู่บ้านไทยเจริญเต็มที ได้ข่าวว่าผู้นำโรงเรียนอดีตยามพกอาวุธของหมู่บ้านกำลังระดมพลังสาธุชนคนดีทุกอาชีพเพศวัยมาขับไล่หนูกับคณะให้ลงจากอำนาจ ถ้าพูดดีๆไม่ฟัง ก็จะใช้กำลังบังคับกันละ
ได้ยินแล้ว ผมก็ให้เป็นห่วง ไม่ใช่เกรงหนูจะลำบากเท่านั้น แต่เกรงบ้านเมืองจะลำบากไปด้วย และนี่ก็คือสาเหตุที่ผมเขียนจดหมายมาถึงหนูในครั้งนี้
หนูอย่าไปโกรธเขา หรือมัวแต่ไปหลงลมไอ้พวกสอพลอว่าจะเกลี้ยกล่อมติดสินบนเปลี่ยนใจเขาได้นะ ไม่สำเร็จหรอก เขาทำด้วยสิทธิเสรีภาพที่เขามีอยู่ถูกต้องทุกประการ และด้วยความรักชาติบ้านเมืองอย่างแท้จริง ผมยังไม่เห็นเขามีเบื้องหลัง แต่รู้ว่าเขาเห็นความชั่วช้าสามานย์สั่งสมมานานแล้ว ถ้าปล่อยไว้เลยตามเลยเกรงว่าไทยเจริญจะล่มจมจนกู้ไม่ได้อย่างที่ท่านท้าวเทวาเทพยดารักษาบ้านปรารภเป็นห่วงไว้นานนักหนา (จนพากันลืมหมดแล้ว)
อีกอย่างหนึ่ง หนูต้องอย่าหลวมตัวหลงลมไอ้พวกชนะไหนเข้าด้วยช่วยกระพือนะ มันไม่จริงใจหรอก มันหลอกใช้ทั้งหนูและพี่ต่างหาก มันล้วนแต่หิวกระหายผลประโยชน์และตำแหน่งเกือบทุกคนสิไม่ว่า หนูก็เห็นอยู่แล้วมิใช่หรือ วิ่งหนูไม่ได้ก็วิ่งพี่ วิ่งผัวไม่ได้ก็วิ่งเมีย วิ่งเขยไม่ได้ก็วิ่งสะใภ้ จริงหรือไม่
ที่มันอ้างอุดมการณ์หลักการนั้นน่าเหม็นขี้ฟันมากกว่า นึกว่าคนไทยเขาโง่ยังงั้นหรือ พวกมึงน่ะซีโง่ โถ ไอ้พวกผีเจาะปากพูดออกมาได้ “ต้องยอมให้ยิ่งเรขาอยู่จนครบเทอมจึงจะเป็นประชาธิปไตย” ลืมไปแล้วหรือ ทำไมไม่พูดอย่างนี้บ้าง ตอนที่มึงยกพวกเอาขี้ไปเทใส่หัวไอ้หนุ่มหมวกถุงยาง ทั้งๆทีมันเป็นผู้ใหญ่บ้านได้ไม่กี่วัน ตั้งแต่นั้นมา ไอ้พวกนี้ของหนูนี่ต่างหาก ที่ทำให้ไทยเจริญปราศจากความสงบสุข
ถึงพูดอย่างไร หนูก็คงไม่เชื่อว่าผมเขียนถึงหนูครั้งนี้ ด้วยทั้งรักทั้งเมตตาและสงสารหนู ใช่แต่เราจะเป็นคนเมืองเจียงด้วยกันเท่านั้น ผมกับพ่อของหนูรู้จักกันมาตั้งแต่สมัยท่านเล่นการเมืองสังกัดท่านโค้วพร้อมพ่อจาตุรงค์ ตั้งแต่หนูยังไม่เกิดโน่น ผมเคารพนับถือท่านโค้วมาก พ่อของหนูด้วย พี่ของหนูถึงไม่เคยรู้จักชอบพอกัน ครูการเมืองของเขาคือนายช่างปรีดีก็มาฝากฝังไว้ตั้งแต่ยังไม่ทันได้เป็นผู้ใหญ่บ้าน เมื่อมีเหตุคับขัน เขาจะเอาตัวไม่รอด ผมก็สู้อุตส่าห์เตือน ชี้แนะหาทางออกให้ถึง ๓ ครั้ง ถ้าเขาเชื่อผม ก็คงไม่ต้องร่อนเร่เป็นผีไม่มีศาลอยู่ยังงี้หรอก
ผมเตือนพี่หนูว่าอย่างไร ขอให้หนูไปหาอ่านดู ถ้าเจริญสติตามนั้นได้ หนูจะได้ไม่ต้องประสบชะตากรรมอย่างเดียวกับพี่
ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หนูต้องเชื่อในหลักธรรม บาปบุญคุณโทษและกรรมเวรบ้างนะ ถึงตัวไม่ทำเอง ก็อย่าปล่อยให้คนอื่นเขาทำ หนักจะได้กลายเป็นเบา อย่ามัวแต่ชะล่าใจว่ามีคนมีเงินซะอย่าง ใครจะมาทำอะไรได้
จำตัวอย่างพี่หนูไว้ให้ดีนะ อย่าปล่อยให้กรรมมันตามทัน ใครก็ตามที่เชื่อว่าไม่ได้ด้วยเล่ห์กูก็จะเอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนต์กูก็จะเอาด้วยคาถาขอม ในที่สุดมันก็จะหนีไม่พ้นคำว่า “มาอย่างไรก็ต้องไปอย่างนั้น” ใครเป็นคนตั้งคนนั้นก็จะเป็นคนเอาออก นอกจากจะหลอกตบตาว่ามาโดยเลือกตั้ง ทั้งๆที่มาด้วยเงินบวกกับอาวุธ ในที่สุดก็จะต้องออกด้วยอาวุธบวกกับเงินนั่นแหละ ขอให้หนูใคร่ครวญให้ดี คนที่จ้องจะปลดหนูอยู่ จะเป็นใครกันแน่
ผมคิดว่าอดีตทหารยามพกอาวุธรักษาท่านท้าวเทวานี้เขาพูดรู้เรื่องนะ ถ้าหนูพูดกับเขาดีๆ อย่าเอะอะปึงปัง หรือหวังพึ่งกำลังจากภายนอก มันจะพากันฉิบหายตายโหง ไม่มีวันผุดวันเกิดกันทั้งชาติ
พากันใคร่ครวญสรุปให้ได้ว่า หมู่บ้านไทยเจริญนี้มันจะอยู่อย่างเก่าและกติกาอย่างเดิมมิได้แล้ว หรือจะแก้กติกาด้วยคณะจกเปรตขี้หมูไหลทั้งในและนอกสภาหมู่บ้าน ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลมันก็จะเข้าอีหรอบเดิมหรือเลวทรามต่ำช้ายิ่งขึ้น ไปไม่รอดหรอกมันเป็นปลาที่เน่าไปทั้งหนองแล้ว ไม่ใช่เฉพาะแต่ในข้องเท่านั้นดอก ที่พอทนกันอยู่ได้บ้างก็เพราะประพรมน้ำหอม ใส่เครื่องสำอางค์และชอบคนสวยอย่างหนูเท่านั้น เพราะฉะนั้นหนูอย่ามัวแต่หวงเก้าอี้อยู่เลย หาทางกอบกู้บูรณะไทยเจริญอย่างแท้จริงสักทีเถิด อย่าพูดแต่ปากอย่างพี่ของหนูเลย
ทั้งหนูทั้งผู้ที่จะมาขับไล่ ควรต้องหันหน้าเข้าหากัน พากันไปกราบไหว้ท่านท้าวเทวาเทพยดารักษาหมู่บ้านไทยเจริญด้วยกันจะดีกว่า ขอพึ่งบารมีของท่านนำสติปัญญาและความสามัคคีมาแก้ปัญหาให้ไทยเจริญ อย่าคิดใช้หอกดาบศัตราวุธ และหยุดชักน้ำเข้าลึกชักศึกเข้าบ้านเสียเถิด ไม่ว่าจะไอ้เขมรเขี้ยวดำหรือไอ้ฝรั่งตาน้ำข้าว ก็ไว้ใจไม่ได้ทั้งนั้นแหละ
ผมได้บอกมาครั้งแล้วครั้งเล่าว่า ทางเดียวที่ไทยเจริญจะไปรอดนั้น คือการมีกติกาใหม่ที่เป็นประชาธิปไตยจริงๆ มิใช่จอมปลอมอย่างที่ผ่านมาจนถึงทุกวันนี้
หมู่บ้านไทยเจริญก็เป็นหน่อเนื้อเชื้อไขของสยามราชอาณาจักรแท้ๆ ขอให้ท่องคาถาราชประชาสมาสัยไว้เถิด แล้วพากันสร้างประชาธิปไตยที่แท้จริงภายใต้พระบารมี มีกองทัพแผ่พลัง และมีปวงชนหนุนหลังอย่างล้นหลาม ตามด้วยกุศโลบายของการมีส่วนร่วมอย่างทั่วถึงสักครั้งเถิด
ให้โลกเขาลือสักทีว่าไม่มีปัญหาใดที่จะแก้ด้วยความรักสามัคคีและปัญญาของคนไทยไม่ได้
ขอให้หนูแคล้วคลาดและโชคดี ขอให้บุญบารมีของท่านท้าวเทวาคุ้มเกล้าหนูและพี่น้องไทยเจริญด้วยเทอญ
ด้วยความรักและเมตตา
นายนิ่ง นานยิ่งแข็ง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น