++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันศุกร์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2552

2012 วันสิ้นโลก..เรื่องจริงอิงจากนักดาราศาสตร์

ด้วยความสงสัยของผมว่าทำไม 2012 จะมีข่าวลือเกี่ยวกับวันสิ้นโลกมากมายเหลือเกิน
บางแหล่งก็อ้างน้ำท่วมจาเหตุโลกร้อน
บางแหล่งก็อ้างไบเบิ้ลเพราะพระเจ้ากำหนดมา

แต่มีสิ่งที่นึงที่มีทั้งหลักฐานทางวิทยาศาสตร์พร้อมเกี่ยวปรากฎการณ์ที่อาจหลีกเลี่ยงไม่ได้
และถ้าเกิดขึ้นก็จบ... ไม่เหมือนกับ LHC ที่กลัวโอกาสว่าจะเกิดหรือเปล่าเท่านั้น

เรื่องนี้คือเรื่อง ดาวปริศานาดวงที่ 12 ของ ระบบสุริยะจักรวาล
ถ้าใครได้พอดูความปี 2002 จะได้ทราบว่า นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบ ดาวดวงที่ 12 ขึ้นมาอยู่ในระบบกาแล็คซี่เราดื้อๆ
แต่ความเป็นจริงนักดาราศาสตร์รู้จักดาวนี้มาตั้งแต่ปี 1982 แล้ว
ซึ่งเป็นข่าวใหญ่โตมากช่วงเดือน พฤษภาคม เพราะผมก็ได้ดูเหมือนกัน
มันคือดาวที่มีชื่อตั้งทางวิทยาศาตร์ว่า นิบิรุ (Nibiru)

และด้วยหลักฐานโบราณวัตถุและนักโบราณคดีได้กล่าวไว้เนืองๆ ว่า...
สิ่งของที่ไม่สามารถอธิบายด้วยวิทยาศาสตร์ได้เกิดจากดาวดวงนี้

แต่สิ่งที่เรารับรู้คือเจอดาวเคราห์ดวงใหม่ แล้วก็จบ...
ทำไมถึงกล่าวอ้างเช่นนั้น?

ิสิ่งที่เราไม่รู้มันคือสิ่งนี้ครับ....

ดาวดวงนี้ทุนเดิมไม่ได้อยู่ในระบบกาแล็คซี่ทางช้างเผือกมาแต่เนิ่นๆ อยู่แล้ว
แต่... มีวงโคจรกว้างใหญ่ไพศาลมาก จนมาทับซ้อนลงบนกาแล็คซี่นี้

แปลว่า... ที่นักวิทยาศาสตร์เห็นเพิ่มมาดวงก็แปลว่ามันโคจรเข้ามาใกล้กาแล็คซี่เราสินะ

ถูกครึ่งเดียวครับ ความจริงมันเเข้ามาทับวงโคจรทั้งแถบเลย

ลดขนาด: 74% จากขนาดเดิม [ 686 x 514 ] - คลิกเพื่อดูภาพขยาย

(ลักษณะทางกายภาพที่เป็นไปได้ของดาวนิบิรุครับ)

อันนี้ใช้เทคโนโลยี้ขั้นสูงในการถ่ายซูมครับ ทำให้รู้ได้ว่า ดาวนี้เป็น ดาวฤกษ์ครับ

และทับเข้ามาแค่ไหน

เส้นทางการเดินทางของวงโคจรดาว นิบิรุ เข้ามาทับเส้นเดียวกับโลกเลยครับ
แปลว่า... มันมีสิทธิชนโลกเราอย่างแน่นอน!!!

รูปนี้คือเส้นวงโคจรของดาวนิบิรุครับ

มันเข้าใกล้มาจริงเร้อ?

เส้นทางวงโคจร ทำให้เรารู้ได้ว่าทางเราส่องดาวบริเวณทิศใต้สุดของดาวโลกเราจะเห็น

แต่ปัจจุบันนี้ ปีนี้สามารถเห็นได้ด้วยเปล่าแล้ว

(เส้นขาวๆ คือลูกศรชี้ตำแหน่งดาวนิบิรุครับ)

และสำหรับคนที่อยากเห็นแต่ไม่มีตังไปออสเตรเลียหรือประเทศอะไรที่อยู่ทางใต้ของโลกนะ
ครับ
แนะนำให้ลองใช้โปรแกรม googleSky ดู ท่านจะเห็นเป็นวงแดงๆ อยู่วงเดียวทั้งท้องฟ้า นั่นหละครับ นิบิรุ...

แล้วทำไม? มันเกี่ยวอะไรกับโบราณสถานและวัตถุในอดีตหละ
นักโบราณฯ สันนิษฐานว่า นิบิรุเคยโคจรเข้ามาใกล้ทีนึงแล้วในเมื่อหลายแสนปีก่อน

แต่มารอบนี้ มาเทียบและทาบวงโคจรของดาวนิบิรุ คาดว่ามีโอกาสที่จะชนกันสูง
หรือแม้เฉียดกันก็เกิดอันตราย

เพราะแกนของดาวมีสนามแม่เหล็กอยู่ อาจจะทำให้เกิดสภาพอากาศแปรปรวน เกิดภัยพิบัติธรรมชาติ
เกิดภาวะน้ำขึ้นกระทันหัน เกิดพายุต่างๆ นา

และเค้าคาดการณ์ไว้แล้วว่า ปี 2012 เราสามารจะเห็นดาวนิบิรุ ใหญ่ขนาดดวงอาทิตย์ได้เลย เพราะมันเข้าใกล้เรามากแล้ว

ข้อมูลอาจจะยังไม่แน่นพอ เพราะ NASA :Xปิดข่าว แต่นักดาราศาสตร์ออกมาอธิบายเรื่องทฤษฎีความเป็นไปได้กันอย่างจ้าละหวั่น

ข้อมูลที่ยังขัดแย้งกันอยู่คือ บางแหล่งบอก ดาวฤกษ์ และ อุกกาบาต เพราะขนาดของมันใหญ่กว่าดาวพฤหัส 2 เท่า!!!
(ดาวพฤหัสเป็นดาวเคราะห์ที่ใหญ่ที่สุดในระบบนี้)

ปล. งานนี้ก้อถึงเวลาที่ธรรมชาติเลือกเราของแท้แล้วละนะครับ


ส่งต่อๆกันมานะครับ....มีแถมให้หน่อย
อย่าง ที่รู้ๆกันว่า ดาวฤกษ์ที่ชื่อว่า นิบิรุ จะโคจรเข้ามาใกล้โลก ซึ่งมีผลกระทบอย่างแน่นอน แต่ใครมีความรู้ดีๆเรื่องมั้ง มาคุยกันดีกว่าเนอะ (ก่อนหน้านั้นเผลอปิดกระทู้ไป -*-)ดาวนิบิรุ (Planet X Nibiru)สันนิฐานว่าถูกดวงอาทิตย์จับไว้เมื่อ 500,000 ปีก่อน
ก่อนและหลังจากการเปลี่ยนแปลงสนามแม่เหล็กโลก
ผลกระทบ (เท่าที่รู้มา)
เนื่องจากมันเป็นดาวฤกษ์ ซึ่งถ้ามันโคจรเข้าใกล้ๆวงโคจรของระบบสุริยะนี้ ก็สร้างความปั่นป่วนได้แล้ว (ปัจจุบัน ดาวยูเรนัสกับเนสจูนโดนเป็นประจำ) และวิถีโคจรของมันโดยองค์กรนาซ่าบอกว่า...จะโคจรเข้า มาใกล้มาๆและมันจะโคจรเข้าเป็นเส้น ตรงพอดีในวันที่ 21 ธันวาคม ค.ศ.2012 (ช่วงจบกึ่งกลางพุทธกาลพอดี) ก็คือ ดวงอาทิตย์ โลก และนิบิรุ อยู่ในระนาบเดียวกันพอดี วันนั้นจะเป็นวันวิบัติซึ่งจะมีผลดังนี้

1.สร้างความปั่นป่วนให้สนามแม่เหล็กไฟฟ้า
2.น้ำจะขึ้นสูงมากๆจนเกิดวิกฤติการ์ที่เรียกว่า น้ำท่วมโลกหรือซุปเปอร์ซึนามิ
3.แผ่นดินไหวและภูเขาไฟไปทั่วโลก
4.ระบบอิเล็กโทรนิคจำนวนมากจะทำงานผิดปกติ (ระบบขีปนาวุธ ,computer)
5.การอพยพของฝูงสัตว์ เช่น นก หรือปลาวาฬ ทำให้สูญเสียทิศทางและอื่นๆ
6.ระบบภูมิคุ้มกันโรคในบรรดาสัตว์รวมถึงมนุษย์จะทำให้อ่อนอย่างมาก
7.สนามแม่แหล็กโลก (Magnetosphere) จะอ่อนแอลง และการแผ่รังสีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากดวงอาทิตย์จะเพิ ่มปริมาณถึงระดับอันตราย ก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนังตามมา ซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้
8.กลุ่มวัตถุในอวกาศที่มีเส้นผ่านมากมายจะเฉียดเข้าใ กล้โลกได้ง่ายขึ้น
9.แรงดึงดูดของโลกจะมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม (มนุษย์น่าจะกระโดดได้สูงขึ้นกว่าเดิม)


ไม่ หมดเพียงเท่านี้ หลังจากเหตุการณ์นี้ไม่กี่เดือน เราจะเจอพายุสุริยะเข้าอย่างจัง ซึ่งอย่างที่รู้ๆกันว่า สนามแม่เหล็กโลกช่วยป้องกันไม่ให้มันมีผลกระทบมากนัก เมื่อไม่มีก็วิบัติ มีสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจก็คือชนเผ่ามายาหรือมายันนี่เอง พวกเขาได้ทำปฏิทินไว้สองแบบก็คือ

แบบที่หนึ่ง สามารถเทียบเคียงได้กับปฏิทินจริงที่เราใช้กันในปัจจุบัน และมีความคลาดเคลื่อนกันน้อยมาก
แบบที่สอง คือปฏิทินที่ข้างบนๆได้กล่าวไว้ (หมายถึงมีถึงแค่ 21 ธันวาคม ค.ศ. 2012)
เรื่องราวต่างเป็นที่รู้ดีกันนานแล้วในวงการแต่เรื่องผลกระทบต่างๆเป็นแค่การคาดการ์ณลาวงหน้าเท่านั้น.....
แต่ที่แน่ๆเรามีภาพเหตุการ์ณนั้นมาให้ดูว่าจะเกิดเหตุการณ์ประมาณไหนในปี 2012 เขาทำมาเป็นหนังทุนสร้างสูงเรื่องยิ่งใหญ่เรื่อง 2012-สุดยอดมหาภัยพิบัติโลก

รับชมตัวอย่างหนังได้ที่นี่ครับผม

http://www.flixya.com/video/2086118/2012_Trailer_

ที่มา : 2012 วันสิ้นโลก..เรื่องจริงอิงจากนักดาราศาสตร์

http://www.thaiseoboard.com/index.php/topic,67520.0.html

3 ความคิดเห็น:

  1. ในห้วงอวกาศมีช่องว่างสำหรับเทหะวัตถุหรือดวงดาวต่างๆ โคจรในวิถีของตนมานานมากแล้ว และยังไม่เคยมีหลักฐานหรือมีปรากฏการณ์ว่ามีดวงดาวชนกันบ่อยนัก เช่นที่เคยเกิดขึ้นบนดาวพฤหัส ซึ่งกรณีนั้นเทหวัตถุที่พุ่งไปกระทบผิวดาวพฤหัสมีขนาดเล็กกว่าดาวพฤหัสมาก เมื่อโคจรเข้าไปใกล้ดาวพฤหัสจึงถูกแรงดึงดูดของดาวพฤหัสดูดเข้าไป มีต่อ....

    ตอบลบ
  2. สำหรับโลกไม่ได้มีขนาดใหญ่โตเท่าดาวพฤหัสแม้ NIbiru โคจรมาเยี่ยมเยือนโลกไม่มีแรงดึงดูดมากขนาดดูด Nibiru เข้ามาได้ และในทางกลับกันในอดีตที่ Nibiru เคยโคจรผ่านมาในกาแล๊กซี่นี้ก็ไม่ได้ดูดโลกเข้าไปหา Nibiru แต่อย่างใด แต่แน่นอนที่ Nibiru เป็นดาวฤกษ์ ผลกระทบทางคลื่นความร้อนที่จะเกิดมีต่อโลกย่อมจะเกิดขึ้นมากตามพลังความร้อนของ Nibiru เป็นธรรมดา อาจเปรียบเทียบได้เสมือนมีพระอาทิตย์ขขึ้นเป็น 10 ดวงส่องมายังผิวโลกในขณะที่โคจรผ่านโลกไป ซึ่งมีกล่าวไว้ในพระไตรปิฏกถึงการมีพระอาทิตย์ส่องมายังโลกเป็น 7 ดวง 10 ดวง ในเชิงเปรียบเทียบ อีกไม่นานใครยังมีชีวิตอยู่ก็จะได้พบเรื่องที่น่าตื่นเต้นกว่าปี 2000 มากนัก คราวนี้ของจริง ที่เพื่อนในจักรวาล ที่มนุษย์ไม่ได้พบบ่อยนัก มนุษย์และสัตว์ที่ตั้งใจมาเกิดในช่วงจังหวะนี้มาคอยชมปรากฏการณ์ครั้งนี้โดยเฉพาะ การติดตามชมปรากฏการณ์พิเศษ เช่นการชมสุริยุปราคา เราก็ต้องมีการเตรียมเครื่องมือ เช่นเดียวกันปรากฏการณ์ของ Nibiru มีความพิเศษกว่ามาก ท่านที่รอชมจึงต้องเตรียมการในหลายๆด้าน ทั้งด้านที่สัมผัสได้ด้วยสังขารร่างกาย และในด้านจิตใจ หรือในมิติพลังงาน อ่านต่อ...

    ตอบลบ
  3. เพื่อความไม่ประมาท การชมอาจมีอันตรายถึงชีวิตก็ได้ ถ้าผู้ติดตามชม ไม่ศึกษาคุณสมบัติแวดล้อม หรือรู้เขารู้เราให้ถ่องแท้ก่อน ท่านผู้ชมอาจเป็นผู้ที่ได้รับความเสียหายก็ได้ การเผชิญเหตุการณ์อย่างผู้ชนะในคราวนี้ จึงเป็นทั้งโอกาสดี และอาจสร้างความเสียหายให้สังขารร่างกาย และจิตใจก็ได้ มีทั้งคุณและโทษ อย่าคิดคาดการณ์เอาง่ายๆอย่างที่เคยชิน มาในชีวิต จะเป็นผู้ที่มีความประมาทเกินไป อย่าลืมว่าทุกชีวิตมนุษย์ที่เกิดมาท่านเป็นหนึ่งในผู้ชนะมาแล้ว ในจำนวนคู่แข่ง 500 ถึง 600 ล้านคู่แข่งกว่าจะว่ายไปผสมกับไข่ในท่อรังไข่ของผู้เป็นแม่ได้ 1 ใน 500 ล้าน เป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจของทุกๆคนทุกๆชีวิต ที่เกิดมาเป็นคนได้สำเร็จไม่ใช่หรือ ดังนั้นในโอกาสที่ Nibiru มาเยือนใกล้โลกครั้งนี้ ทุกๆท่านควรเตรียมตัวให้พร้อม ในการเป็นผู้ชนะกันอีกวาระหนึ่ง เป็นครั้งสำคัญยิ่งในชีวิต ทำอย่างไรจะใช้ปรากฏการณ์ครั้งนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ตัวเรา ไม่ว่าเราจะอยู่หรือจะตายก็ตาม ต้องให้ได้ประโยชน์ทั้งขึ้นทั้งล่อง จึงจะสมกับที่ตั้งใจมาเกิดครั้งนี้ ระหว่างที่มีการเตรียมตัวไปอุ่นเครื่องกันหน่อยที่ http://www.ainews1.com/modules.php?name=Web_Board&file=view&No=125 จะดีไม๊ ลองแวะคุยกับ ศ.ดร.นพ.เทพพนม เมืองแมน กันก่อนระหว่างที่รอคอย Nibiru มา

    ตอบลบ