จาก หนึ่งสมอง สองมือ
รวมบทสนทนา "ชีวิตธุรกิจ" พ.ศ. 2530
โดย ประสาร มฤคพิทักษ์
ผมเข้าใจว่าเป็นประสบการณ์ร่วมกันนะครับต่อคำพูดทำนองนี้ คือ
"อย่าพูดไปนะ นี่เป็นความลับสุดยอด ผมบอกให้คุณรู้เพียงคนเดียวเท่านั้น"
ปรากฏว่า เรื่องลับที่ว่านี้ กลายเป็นเรื่องที่ปิดกันให้แซดไปหมด
คนแพร่ความลับไม่ใช่ใครอื่น คือคนที่กำชับกำชาให้ปิดเป็นความลับนั่นเอง
เรื่องแบบนี้เป็นจิตวิทยาง่ายๆนะครับ คนเราชอบแสดง ชอบอวดตัวอยู่แล้วว่า
แน่ เก่ง และเป็นคนวงในที่สามารถรับรู้ข่าวสารได้ลึก เฉพาะเจาะจงมากกว่า
พอได้ความลับมาก็อยากให้คนอื่นทึ่งและเห็นความสำคัญในตัวเอง
จึงอดไม่ได้ที่จะพูดต่อ แล้วกำชับบอกว่า ลับ
ทุกคนที่ได้รับรู้เรื่องก็เล่าต่อแล้วสั่งให้เก็บ
เป็นความลัลหมด พอคนรู้กันหมดก็กลายเป็นเรื่องลับที่ไม่ลับเสียแล้ว
เอาง่ายๆ เรื่องอัตราเงินเดือน แทบทุกบริษัทละครับที่ว่าลับนักลับหนา
นั้น เอาเข้าจริงๆ ก็รู้กันทั่วไป
ผู้จัดการบางคน บริษัทบางบริษัท ทำทุกเรื่องเป็นความลับไปหมด
เมื่อเผยเรื่องราวออกมาพบว่า
ที่จริงแล้วแานจะเป็นเรื่องธรรมดาที่ทุกคนสามารถรับรู้ได้
เหตุที่ต้อง ทำให้รู้สึกเป็นเรื่องลับ
ก็อยู่ตรงที่ได้คงความสำคัญของตนเองไว้นั่นเอง
หารู้ไม่ว่า อะไรๆก็ลับนั้น ในที่สุดก็จะไม่มีอะไรเป็นเรื่องลับจริงๆ
เพราะทุกเรื่องได้รับน้ำหนักเท่ากับหมดว่าลับ
คนทำงานจะมีความสบายใจหากได้ทำงานในบรยากาศที่มีท่าทีเปิดเผยต่อกัน
แสดงถึงความไว้เนื้อเชื่อใจกัน ถ้าอะไรๆก็ลับ
มันอึดอัดใจด้วยกันทุกฝ่ายครับ
ดังนั้น เรื่องทั้งหลายถ้าไม่คอขาดบาดตาย
จึงควรเปิดเผยให้ทุกคนมีส่วนรับรู้จะดีกว่าครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น