...+

วันจันทร์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

เรื่องของความลับ

', '


จาก หนึ่งสมอง สองมือ
รวมบทสนทนา "ชีวิตธุรกิจ" พ.ศ. 2530
โดย ประสาร มฤคพิทักษ์


ผมเข้าใจว่าเป็นประสบการณ์ร่วมกันนะครับต่อคำพูดทำนองนี้ คือ
"อย่าพูดไปนะ นี่เป็นความลับสุดยอด ผมบอกให้คุณรู้เพียงคนเดียวเท่านั้น"

ปรากฏว่า เรื่องลับที่ว่านี้ กลายเป็นเรื่องที่ปิดกันให้แซดไปหมด
คนแพร่ความลับไม่ใช่ใครอื่น คือคนที่กำชับกำชาให้ปิดเป็นความลับนั่นเอง

เรื่องแบบนี้เป็นจิตวิทยาง่ายๆนะครับ คนเราชอบแสดง ชอบอวดตัวอยู่แล้วว่า
แน่ เก่ง และเป็นคนวงในที่สามารถรับรู้ข่าวสารได้ลึก เฉพาะเจาะจงมากกว่า

พอได้ความลับมาก็อยากให้คนอื่นทึ่งและเห็นความสำคัญในตัวเอง
จึงอดไม่ได้ที่จะพูดต่อ แล้วกำชับบอกว่า ลับ
ทุกคนที่ได้รับรู้เรื่องก็เล่าต่อแล้วสั่งให้เก็บ

เป็นความลัลหมด พอคนรู้กันหมดก็กลายเป็นเรื่องลับที่ไม่ลับเสียแล้ว

เอาง่ายๆ เรื่องอัตราเงินเดือน แทบทุกบริษัทละครับที่ว่าลับนักลับหนา
นั้น เอาเข้าจริงๆ ก็รู้กันทั่วไป

ผู้จัดการบางคน บริษัทบางบริษัท ทำทุกเรื่องเป็นความลับไปหมด
เมื่อเผยเรื่องราวออกมาพบว่า
ที่จริงแล้วแานจะเป็นเรื่องธรรมดาที่ทุกคนสามารถรับรู้ได้

เหตุที่ต้อง ทำให้รู้สึกเป็นเรื่องลับ
ก็อยู่ตรงที่ได้คงความสำคัญของตนเองไว้นั่นเอง

หารู้ไม่ว่า อะไรๆก็ลับนั้น ในที่สุดก็จะไม่มีอะไรเป็นเรื่องลับจริงๆ
เพราะทุกเรื่องได้รับน้ำหนักเท่ากับหมดว่าลับ

คนทำงานจะมีความสบายใจหากได้ทำงานในบรยากาศที่มีท่าทีเปิดเผยต่อกัน
แสดงถึงความไว้เนื้อเชื่อใจกัน ถ้าอะไรๆก็ลับ
มันอึดอัดใจด้วยกันทุกฝ่ายครับ

ดังนั้น เรื่องทั้งหลายถ้าไม่คอขาดบาดตาย
จึงควรเปิดเผยให้ทุกคนมีส่วนรับรู้จะดีกว่าครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น