++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพุธที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ใบย่านาง สมุนไพรมหัศจรรย์

ใบย่านาง


ชื่อ : ใบย่านาง

ชื่อสามัญ : Bai-ya-nang

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Tiliacora triandra Diels

วงศ์ : MENISOERMACEAE


ทำความรู้จักกับใบย่านาง


หากใครเป็นคออาหารอีสานรสแซบแล้วละก็
เป็นต้องคุ้นกับกลิ่นใบย่านางที่เคล้ามากับซุบหน่อไม้และแกงหน่อไม้ที่หอมยั่วน้ำลาย

ใครบางคนว่ากลิ่นใบย่านางนั้นหอมแต่บางคนก็ว่าฉุนทั้งนี้และทั้งนั้นก็อาจเป็นเพราะขึ้นอยู่กับรสนิยมของคนกินด้วยว่ากลิ่นที่ว่านี้จะถูกกันหรือไม่
แต่หากว่าแกงกับซุบหน่อไม้ไร้ซึ่งน้ำคั้นจากใบย่านางก็เห็นทีจะไม่เป็นซุบหรือแกงที่รสชาติแซบนัว
(แปลว่าอร่อยแบบกลมกล่อม - ภาษาอีสาน)
เพราะกลิ่นเปรี้ยวกลิ่นขื่นและรสขมของหน่อไม้ทีดองก่อนนำมาทำอาหาร

น้ำคั้นสีเขียวคล้ำหรือเกือบดำของใบย่านางคือเครื่องปรุงรสปรุงกลิ่นที่สามารถสยบกลิ่นเปรี้ยวของหน่อไม้
แต่ถึงแม้ใครต่อใครจะชอบอาหารอีสานอย่างซุบหน่อไม้ก็ใช่ว่าจะรู้จักใบย่านาง
บางคนไม่ทราบว่าน้ำที่ปนมากับซุบหน่อไม้สีคล้ำ ๆ นั้นละคือน้ำใบย่านาง
เพราะใบย่านางไม่ใช่พืชผักที่แพร่หลายมากนัก
มักกินกันแต่ตามต่างจังหวัดบางที่บางแห่ง
เมืองกรุงนั้นหารับประทานสดนั้นยากอยู่เหมือนกัน
จึงควรทำความรู้จักกันไว้
เพราะย่านางคือตัวการที่ทำให้อาหารอร่อยแบบลึกลับเหมือนน้ำคั้นสีคล้ำที่แค่เพียงดูก็ไม่รู้เลยว่าจะทำให้อร่อยได้อย่างไร
ลักษณะทั่วไปของใบย่านาง


ย่านางนั้นเป็นไม้เลื้อย เถาสีเขียวสดและอวบน้ำ
ภายในลำต้นมีน้ำเมือกเหนียว มีขนตามกิ่งอ่อน
เถาเมื่อแก่มีผิวเรียบและเหนียวมาก ใบเป็นใบเดี่ยว
สีเขียวเข้มรูปไข่แกมรี ปลายใบแหลม โคนใบมน ผิวใบมัน ออกดอกเล็ก ๆ
ตามซอกใบ ดอกมีสีเหลือง ผลมีขนาดเล็กกลมรี
การปลูกและดูแลรักษา


เดิมนั้นเถาย่านางมักขึ้นอยู่เองตามป่า
แต่อยากปลุกก็ไม่ยากเพียงแค่เพราะเมล็ดหรือขุดเอารากที่เป็นหัวไปปลูกในที่ใหม่
รดน้ำให้ฉ่ำชุ่ม
สักพักเถาย่านางก็จะคลี่กางเลื้อยขึ้นพันค้างที่เตรียมไว้
หรือหากไม่มีค้างก็มักเลื้อยพันต้นไม้อื่นที่อยู่ใกล้เคียง
ซึ่งก็ไม่ถือเป็นเรื่องลำบากยากเย็นสำหรับเถาย่านาง
เพราะเดิมนั้นเถาย่านางเป็นไม้ป่าจึงไม่กลัวความลำบากลำบน
อดทนเป็นเยี่ยมและเติบโตได้ในทุกสภาพดินและสภาพอากาศทุกฤดูกาล
หากอยากได้บรรยากาศเมืองร้อนแลป่าฝนก็ปลูกชมใบสีเขียวก็ดี
คุณค่าทางอาหารของใบย่านาง


มาดูกันว่าคนไทยในภาคต่าง ๆ เขากินใบย่านางกันอย่างไรกันบ้าง

นอกจากจะใช้เป็นเครื่องปรุงรสเพื่อเพิ่มความกลมกล่อมของแกงหน่อไม้และซุปหน่อไม้แล้ว
ยอดอ่อนของเถาย่านางยังสามารถนำมารับประทานแกล้มแนมกับของเผ็ดอื่นได้ด้วย
หรืออย่างชาวอีสานก็นิยมนำใบ และยอดอ่อนใส่รวมกับแกงขนุน แกงอีลอก
อ่อมและหมกต่าง ๆ

ทางปักษ์ใต้นั้นนิยมใช้ยอดอ่อนใส่ในแกงเลียงและแกงหวาน
ซึ่งเพื่อนชาวใต้ของผู้เขียนบอกว่ารสชาติเถาย่านางในแกงดังกล่าวนั้นหวานอร่อย
ในแกงขี้เหล็ก น้ำคั้นจากใบก็ใช้เติมลงไปด้วย เพื่อลดความขมของใบขี้เหล็ก
ประโยชน์ของใบย่านาง


นอกจากจะเป็นอาหารและเครื่องปรุงรส
ใบย่านางและน้ำคั้นจากใบยังมีสารอาหารอย่างแคลเซียมและวิตามินซีค่อนข้างสูง
อีกทั้งยังมีวิตามินอื่น ๆ ร่วมขบวนด้วย เช่น เอ บี 1 บี 2
และเบต้า-แคโรทีน

คนโบราณเชื่อกันว่ารากของเถาย่านางนั้นสามารถแก้ไขได้
อีกทั้งยังช่วยถอนพิษผิดสำแดงและพิษอื่น ๆ แก้เมาเรือ แก้เมาสุรา
แก้โรคหัวใจและแก้ลม ใบก็ช่วยถอนพิษและแก้ไข้ ส่วนของเถาใช้แก้ตานขโมย


แถมวิธีใช้เถาย่านางเพื่อลดไข้ ใช้ดังนี้ใช้รากแห้งประมาณ 15
กรัม ต้มกับน้ำดื่มก่อนอาหารวันละ 3 ครั้ง หรือต้มกับสมุนไพรอีก 4 ชนิด
ตามการแนะนำของสถาบันการแพทย์แผนไทย คือรากเท้ายายม่อม รากมะเดื่ออุทุมพร
รากคนทา รากชิงขี่ จะให้ผลในการลดไข้ได้ดียิ่งขึ้น

คราวนี้ใครที่ยังไม่รู้ว่าเบื้องหลังสีคล้ำและความอร่อยของซุบหน่อไม้และแกงพื้นบ้านทั้งหลาย
คืออะไรตอนนี้คงตอบกันได้แล้ว


ขอขอบคุณข้อมูลจาก

วราภรณ์ วิชญรัฐ, ไม้เลื้อยกินได้, สุรีวิยาสาส์น กรุงเทพมหานคร,2548

1 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ7 ตุลาคม 2553 เวลา 19:43

    ใบนำเอามาตำคั้นเอาน้ำดื่มเป็นยาเย็น แก้ร้อนในได้ด้วย ต้านมะเร็งด้วย

    ตอบลบ