ร้อยกิจกรรมวันหนังสือเด็กแห่งชาติ/สรวงมณฑ์ สิทธิสมาน

โดย สรวงมณฑ์ สิทธิสมาน

ปลายเดือนมีนาคมเข้าสู่เดือนเมษายน ของทุกปี
ดูเหมือนแทบจะกลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติซะแล้วว่าจะมีงานใหญ่ๆ
ของชาวกรุงเทพมหานครที่ผู้คนตั้งตารอถึง 3 งาน ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน

งานแรก คือ งานกาชาด
ที่บรรดาร้านค้าจำนวนมากมาออกบูธสินค้าบริเวณสวนอัมพร
และลานพระบรมรูปทรงม้า งานที่สอง คือ งานมอเตอร์โชว์
เอาใจคนรักรถเพื่อกระตุ้นยอดขาย โดยเลือกเอามุมเมืองจัดงานที่ไบเทค บางนา
ส่วนงานที่สาม คือ งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ที่จัด ณ
ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
เพื่อให้คนรักการอ่านได้มีโอกาสเลือกซื้อหาหนังสือในราคาถูกจากหลากหลาย
สำนักพิมพ์

เรียกว่าช่วงเวลานั้น
ถ้าใครต้องใช้รถใช้ถนนในช่วงเส้นทางที่ต้องผ่านงานเหล่านั้นก็สาหัสกันไปตามๆ
กัน

ทุกปีงานที่ดิฉันไม่เคยพลาด คืองานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ
กลายเป็นงานกิจกรรมสำหรับครอบครัวไปในตัวด้วย
เพราะถือโอกาสพาลูกไปเลือกซื้อหนังสือ บางปีก็มีกิจกรรมสำหรับเด็ก
ทำให้บรรยากาศคึกคัก และไปร่วมกิจกรรมทุกครั้ง
ถ้าใครที่ไปกันเป็นครอบครัวมีเด็กๆ ไปด้วย
คงเคยได้ไปร่วมกิจกรรมที่ห้องบอลรูม
จะเห็นว่ามีหน่วยงานและองค์กรที่ข้องเกี่ยวกับเด็กมาร่วมกิจกรรม
สร้างสีสันให้งานมีชีวิตชีวามากขึ้น มีพ่อแม่ผู้ปกครองเข้าร่วมจำนวนมาก
ทำเอาห้องบอลรูมเล็กไปเลยทีเดียว

แต่ปีนี้มีกิจกรรมดีๆ เกิดขึ้นอีกแห่งหนึ่ง นั่นก็คือ
"งานร้อยกิจกรรมวันหนังสือเด็กแห่งชาติ"
ซึ่งจะจัดขึ้นที่สำนักงานอุทยานการเรียนรู้ หรือทีเคปาร์ค ชั้น 8
ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ระหว่างวันที่ 31 มีนาคม - 5 เมษายน 2552 เวลา
10.00-16.00 น.

งานร้อยกิจกรรมวันหนังสือเด็กแห่งชาติ
เกิดขึ้นภายใต้ความร่วมมือของภาคีเครือข่ายองค์กรที่ทำงานด้านเด็กและครอบ
ครัว อาทิ ทีเคปาร์ค, มูลนิธิหนังสือเพื่อเด็ก,
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ, นิตยสาร Mother&Care
และภาคีเครือข่ายอีกหลายองค์กรที่ร่วมกันรังสรรค์งานกิจกรรมส่งเสริมเรื่อง
การอ่าน

วัตถุประสงค์หลักของงานต้องการจะผลักดันให้วันที่ 2 เมษายน
ซึ่งถือว่าเป็นวันหนังสือเด็กแห่งชาติ ให้ได้รับความสำคัญ
เพื่อกระตุ้นให้พ่อแม่และผู้ที่เกี่ยวข้องกับเด็กใส่ใจกับเรื่องการส่งเสริม
การรักการอ่าน โดยถือเอาวันหนังสือเด็กแห่งชาติเป็นวาระสำคัญในการจัดกิจกรรมส่งเสริมการ
อ่าน จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะนอกจากวันที่ 2
เมษายนของทุกปีจะเป็นวันหนังสือเด็กแห่งชาติของบ้านเราแล้ว
ยังเป็นวันสำคัญในระดับสากล
ซึ่งคณะกรรมการนานาชาติด้านหนังสือเด็กและเยาวชน (International Board on
Book for Young People - IBBY) ได้ประกาศให้วันที่ 2 เมษายน เป็น
"วันหนังสือเด็กนานาชาติ" อีกด้วย

นับเป็นโอกาสที่ดีในการจุดประกายนำหนังสือสู่เด็กพร้อมกับประเทศ
ต่างๆ ทั่วโลกที่มีการจัดกิจกรรมรณรงค์ส่งเสริมการอ่าน ซึ่งโดยปกติ
แต่ละประเทศก็จะให้ศิลปินที่มีชื่อเสียง
เป็นผู้วาดภาพโปสเตอร์พร้อมคำขวัญเป็นประจำทุกปี

บ้านเราก็ไม่น้อยหน้ามีศิลปินวาดภาพโปสเตอร์และเขียนคำขวัญเป็นประจำ
ทุกปี ปีนี้ คำขวัญวันหนังสือเด็กแห่งชาติคือ "อ่านหนังสือหลากหลายชนิด
เพิ่มสีสันให้ชีวิตงดงาม" ศิลปินเจ้าของภาพวาดในโปสเตอร์และคำขวัญ คือ
รศ.เกริก ยุ้นพันธ์ อาจารย์สาขาวรรณกรรมเด็ก มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ

ย้อนไปดูปีอื่นๆ กันบ้าง

ปี 2548 คำขวัญ "อุ้มลูกนั่งตัก สื่อรักด้วยหนังสือ" ศิลปินคือ
ศาสตราจารย์เกียรติคุณประหยัด พงษ์ดำ
ปี 2549 คำขวัญ "อ่านที่ไหนก็ได้ อ่านเมื่อไรก็ได้" ศิลปินคือ
อาจารย์เทพศิริ สุขโสภา
ปี 2550 คำขวัญ "หนังสือคือเพื่อน" (My book, My Friend)
ศิลปินคือ อาจารย์ปรีดา ปัญญาจันทร์
ปี 2551 คำขวัญ "หนังสือคือดวงตา ปัญญาคือความสุข" ศิลปินคือ
อาจารย์ จักรพันธุ์ โปษยกฤต

ภายในงานร้อยกิจกรรมวันหนังสือเด็กแห่งชาติ
มีการรวบรวมบุคลากรที่ทำงานเกี่ยวกับหนังสือและวรรณกรรมสำหรับเด็ก
ทั้งนักวาดภาพประกอบ นักแต่งนิทาน นักแปล และนักเล่านิทาน
ตลอดจนนักวิชาการด้านการศึกษาสำหรับเด็กวัยต่างๆ
มาพูดคุยให้ความรู้อีกเป็นจำนวนมาก จนนับว่าเป็นงานที่อัดแน่นสาระความรู้
และความเพลิดเพลินอย่างครบถ้วนมากที่สุดงานหนึ่ง

กิจกรรมส่งเสริมการอ่านในหลากหลายมิติ
ทั้งการเล่านิทานอ่านหนังสือ
และสารพัดรูปแบบหลากหลายเทคนิคในการเล่านิทานให้เด็กฟัง รวมไปถึงการทำ
Work Shop น่ารักๆ ประกอบการอ่านทั้งสำหรับพ่อแม่และสำหรับครู
ที่สำคัญคือมีการเสวนาเชิงปฏิบัติการที่มีหัวข้อดีๆ สำหรับเด็กวัยต่างๆ
ทั้งวันตลอด 6 วันเต็ม เพื่อการปลูกฝังวัฒนธรรมรักการอ่านให้เกิดขึ้น
และเต็มอิ่มกับกิจกรรมเกี่ยวกับการอ่าน ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย
ตั้งแต่วัย 6 เดือน - วัยรุ่น

ในงานนี้จะมีกิจกรรมไม่ต่ำกว่า 100 กิจกรรม
เพื่อให้สอดคล้องกับชื่องาน จนกระทั่งต้องใช้พื้นที่แทบทุกตารางเมตรของ
TK Park (ลานสานฝัน, มินิเธียเตอร์ 1-2, Learning Auditorium, ห้องเด็ก
และบริเวณลานด้านหน้า)

ไฮไลต์ของงานจะไปอยู่ในวันที่ 2 เมษายน 2552 ที่จะมีคุณหมอ เกษม
วัฒนชัย องคมนตรี ซึ่งท่านเป็นประธานมูลนิธิหนังสือเพื่อเด็ก
จะมากล่าวปาฐกถาในหัวข้อ "อ่านสร้างชาติ"
และพบกับวิทยากรรับเชิญทั้งเด็กและผู้ใหญ่หลากหลายสาขาอาชีพที่เติบโตขึ้นมา
กับการอ่าน

ที่พลาดไม่ได้ พบกับหนูน้อยนักเล่านิทานจากโครงการ "ลับสมอง
ประลองปัญญา สรรหาหนูน้อยนักเล่านิทาน"
ที่ได้รับรางวัลถ้วยพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี
ทั้ง 3 ปี มาเล่านิทานให้ฟังทั้งในรุ่นระดับอนุบาลและวัยประถม
รวมถึงประเภทครอบครัว

รับประกันความน่ารักครบคุณภาพ

จะว่าโปรโมตก็โปรโมตค่ะ เพราะอยากให้งานดีๆ
ได้รับความสนใจจากพ่อแม่ ผู้ปกครอง รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องกับเด็ก
ยิ่งเป็นช่วงเวลาปิดเทอม เป็นช่วงเวลาที่เด็กๆ
ควรจะได้เรียนรู้โลกใบนี้ผ่านกิจกรรมดีๆ
ถ้าต้องการส่งเสริมลูกในเรื่องการอ่าน
ก็ไม่อยากให้พลาดงานร้อยกิจกรรมวันหนังสือเด็กแห่งชาติครั้งนี้ค่ะ

เกี่ยวก้อยลูก ชวนกันไปอ่านในงานนะคะ

http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9520000030608