++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันอาทิตย์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2552

อันตรายที่ไม่มีใครรู้_โปรดอ่าน

รู้ไว้ใช่ว่า เพื่อเราจะได้หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารชนิดนี้พร้อมกับวิตามินซีค่ะ

ด้วยความห่วงใยค่ะ

ปุณณภา คุณดิลกบุญเขต

Subject: FW: อันตรายที่ไม่มีใครรู้_โปรดอ่าน
Date: Tue, 24 Mar 2009 07:32:21 +0000

เสียเวลาอ่านนิดนึ่งนะ...อันตรายทีไม่มีใครรู้...มาก่อน

ไต้หวัน-- -- หญิงคนหนึ่งเลือดออกทางทวารทั้ง 7 โดยไม่รู้สาเหตุ
เสียชีวิตในข้ามคืนเดียว จากการชันสูตรศพเบื้องต้น
ลงความเห็นว่าตายเพราะพิษสารหนู แล้วสารหนูมาจากไหนล่ะ
ตำรวจเริ่มสืบสวนในวงกว้าง และเชิญศาสตราจารย์นิติเวชมาร่วมคลี่คลายคดี
ศาสตราจารย์ตรวจวิเคราะห์สิ่งตกค้างในกระเพาะ
ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็เปิดโปงสาเหตุการตายฉับพลัน " ผู้ตายไม่ได้ฆ่าตัวตาย
ไม่ได้ถูกลอบสังหาร แต่ตายเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ถูกมันฆ่า"
ศาสตราจารย์ฟันธง
ผู้คนงงเป็นไก่ตาแตก อะไรคือ "มันฆ่า " แล้วสารหนูมาจากไหน
ศาสตราจารย์กล่าวว่า สารหนูเกิดในกระเพาะผู้ตาย ผู้ตายกินวิตามินซีทุกวัน
นี่ไม่ใช่ปัญหา ปัญหาอยู่ที่เธอกินกุ้งจำนวนมากในมื้อเย็น
กินกุ้งโดยลำพังก็ไม่มีปัญหา คนในบ้านกินกันก็ไม่เห็นเป็นไร
แต่ผู้ตายกินวิตามินซีพร้อมกันด้วย ปัญหาจึงเกิดตรงนี้แหละ
นักวิจัยมหาวิทยาลัยชิคาโกเคยทำการทดลอง
พบว่าสัตว์เปลือกอ่อนเช่นกุ้งมีสารประกอบอาเซนิกเข้มข้นในปริมาณสูง
สารประกอบชนิดนี้เข้าไปอยู่ในร่างกายก็ไม่มีพิษภัยอะไร
แต่เมื่อรับประทานวิตามินซีพร้อมกัน จะเกิดปฏิกิริยาทางเคมี
ทำให้สารประกอบเดิมที่มีสูตรเคมี As2O5 หรืออาเซนิกออกไซด์ซึ่งไม่มีพิษ
กลายเป็นสารประกอบที่มีสูตรเคมี As2O 3 หรืออาเซนิกไตรออกไซด์ซึ่งมีพิษ
หรือภาษาชาวบ้านเรียกว่าสารหนูนั้นเอง
พิษสารหนูจะทำให้การทำงานของเส้นโลหิตฝอยและเอนไซม์ของซัลฟีดรีลขัดข้อง
เกิดอาการเลือดคั่งในหัวใจ ตับ ไต และลำไส้ เซลล์ผิวหนังตายด้าน
เส้นโลหิตฝอยขยายตัว ดังนั้น ผู้ที่รับพิษจนตาย
จะมีเลือดออกทางทวารทั้งเจ็ด
เพราะฉะนั้น ในระยะที่รับประทานวิตามินซี ต้องงดกินอาหารประเภทกุ้ง
เพื่อความไม่ประมาท
เมื่ออ่านจบแล้ว โปรดส่งต่อไปยังบุคคล ที่คุณรักและห่วงใยด้วยนะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น