สุนิสา นิติประเสริฐ
หญิงสาวตกเป็นเหยื่ออาชญากร ขณะนั่งโทรศัพท์อยู่ในรถส่วนตัว มีดแหลมที่จี้คอทำให้ยอมเบิกเงินให้คนร้าย ก่อนถูกเชือดคอนำไปทิ้ง โชคดีไม่ตาย เธอบอกว่า เมืองหลวงเต็มไปด้วยภัย
' ขับไปภาคใต้ ' เสียงตะโกนสั่งเพื่อนร่วมแก๊ง ของชายฉกรรจ์วัยประมาณ 30 ปี ที่ใช้มีดปอกผลไม้จี้อยู่ที่ลำคอ ขณะถูกบังคับให้นั่งคุกเข่าที่พื้นด้านหลังรถ ยังดังก้องหู น.ส.สุนิสา นิติประเสริฐ นักธุรกิจประมูลงานรับเหมาก่อสร้าง แม้เวลาจะผ่านมานานกว่าสัปดาห์แล้วก็ตาม
ประสบการณ์ที่แทบเอาชีวิตไม่รอดครั้งนี้ ทำให้นักธุรกิจรายนี้ถึงกับผวาและไม่มั่นใจในความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน . . . เธอบอกว่า ไม่คิดมาก่อนว่าโจรจะกล้าลงมือชิงทรัพย์เธออย่างอุกอาจ กลางเมืองหลวงของประเทศ โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย และไม่คิดมาก่อนว่ากรุงเทพมหานครจะอันตรายเช่นนี้
'ตอนเกิดเหตุเวลาประมาณ 19:40 น. ฉันกลับจากเยี่ยมเพื่อนซึ่งพักอยู่ในซอยลาดพร้าว
ซ. 71 ขณะรถวิ่งมาถึงกลางซอยลูกชายก็โทรศัพท์มาหา ตอนแรกก็ไม่อยากรับเพราะมีกฎหมายห้ามคุยโทรศัพท์ขณะขับรถ แต่คิดว่าลูกชายคงโทรศัพท์มาสั่งซื้ออาหารไปรับประทาน จึงจอดรถข้างทางคุยโทรศัพท์ ระหว่างนั้นเห็นชายฉกรรจ์อายุประมาณ 30 ปี สวมเสื้อแขนสั้นสีดำ นุ่งกางเกงยีน เดินเข้ามาประชิดรถ ท่าทางไม่น่าไว้ใจ จึงพยายามล็อกประตู แต่ก็ไม่ทัน ชายคนดังกล่าวกระชากประตูเปิดออกอย่างแรง ' สุนิสา ย้อนลำดับเหตการณ์ขณคนร้ายลงมือชิงทรัพย์ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
ท่ามกลางความตกใจของ ' สุนิสา ' คนร้ายได้เข้าประชิดตัวและชกเธอเข้าที่ใบหน้าด้านซ้ายอย่างแรง 1 ครั้ง แรงปะทะของกำปั้น ทำให้ร่างของเธอถึงกับเซล้มลงบนเบาะด้านข้างคนขับ พร้อมๆ กันนั้ นก็มีชายวัยเดียวกับคนร้ายคนแรกกระชากประตูด้านหน้าซ้ายแล้วขึ้นมาบนรถ พร้อมกับใช้ข้อศอกล็อกคอ แล้วลากเธอจากที่นั่งคนขับจนไปตกลงตร งที่ว่างระหว่างเบาะด้านหน้ากับเบาะหลังรถ พร้อมกับใช้มีดปอกผลไม้จี้ที่ลำคอ ขู่บังคับไม่ให้ขัดขืน
แม้ สุนิสา จะพยายามดิ้นรนต่อสู้โดยหวังจะหนีออกจากรถ ไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนร่วมทาง แต่เธอไม่สามารถทำได้ คนร้ายปิดประตูรถได้สำเร็จ พร้อมกับขับรถทะยานออกจากที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็ว โดยคนร้ายไม่ลืมที่จะปรับเบาะที่นั่งด้านข้างคนขับจนเอนทับตัว สุนิสา ไว้ เพื่อป้องกันการหลบหนี
' ตอนนั้นเหมือนจะเป็นลม กลัวอย่างบอกไม่ถูก คนร้ายใช้มีดเฉือนลงที่ลำคอจนเลือดไหลซิบ ๆ ก่อนจะขู่ให้บอกรหัสเอทีเอ็ม หลังจากพวกมันรื้อค้นได้จากกระเป๋าถือของฉัน ที่วางไว้หน้ารถ มันขู่จะฆ่าทิ้งหากไม่บอก ด้วยความกลัวจึงบอกรหัสจริงไป มันตระเวนกดเงินจากตู้เอทีเอ็มอยู่หลายจุด หลังจากได้เงินแล้วฉันก็ถามมันไปว่า ทำไมต้องทำอย่างนี้ มันตอบกลับมาว่าต้องการเงินไปเลี้ยงลูกเลี้ยงเมีย หลังจากนั้นประมาณ 10 นาที พวกมันก็จอดรถ แล้วลากฉันลงมาทิ้งไว้ที่พงหญ้าข้างทาง ตรงข้ามกับปั๊มน้ำมันในย่านสามพราน จ.นครปฐม ก่อนที่พวกมันจะขับรถฉันหนีไป ' สุนิสา ลำดับเหตุการณ์
หลังเกิดเหตุ สุนิสา ขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านในละแวกที่คนร้ายนำเธอมาทิ้งไว้ ให้ช่วยนำเธอส่งโรงพยาบาล หลังจากแพทย์ตรวจดูอาการแล้ว สุนิสา จึงเข้าแจ้งความที่สภอ.สามพราน โดยแจ้งความรถหายด้วย กระทั่งเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม ได้รับแจ้งจากตำรวจว่า รถยนต์โตโยต้ายาริส สีบรอนซ์ทะเบียน สส 847 กรุงเทพมหานคร ของเธอ ถูกคนร้ายนำไปจอดทิ้งไว้ที่หน้าร้านอาหารเทสตี้ชอยส์ เลขที่ 866 ถนนภาณุรังษี แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กทม.
คนร้ายได้เงินไปจาก สุนิสา ประมาณ 1.4 แสนบาท เธอยังโชคดีที่มีชีวิตรอดกลับมา แม้จะถูกคนร้ายทำร้ายร่างกายจนสะบักสะบอมก็ตาม
สุนิสา บอกว่า ไม่คาดคิดมาก่อนว่าในเมืองหลวงของประเทศไทยโจรผู้ร้ายจะชุกชุม และลงมือก่อเหตุอย่างอุกอาจเช่นนี้ และขอเตือนไปยังสุภาพสตรีทุกท่านให้ระมัดระวังตัว ทำงานเสร็จแล้วให้รีบกลับบ้าน นั่งในรถยนต์ต้องล็อกประตูทุกครั้งและต้องหมั่นมองกระจกหลัง และกระจกข้างซ้ายขวาเป็นระยะ หากพบสิ่งไม่ชอบมาพากลให้แจ้งตำรวจทันที
ในสภาพเศรษฐกิจเช่นนี้ ต้องระมัดระวังตัวเป็นพิเศษ หากเผลออาจตกเป็นเหยื่อโจรผู้ร้ายได้ทุกเสี้ยววินาที
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น