การเดินทางแต่ละครั้งทำให้เราได้เห็นมุมมองอะไรที่แปลกใหม่
และช่วยเปิดโลกทัศน์ของเราให้กว้างขึ้น
ถ้าไม่ใช่เจตนาเพียงเพื่อการท่องเที่ยวเพื่อหาความสุขสำราญใส่ตัว
เราจะพบว่าสองข้างทางที่เราผ่านไปนั้น
ทำให้เราเห็นโลกในมุมมองที่ไม่เคยเห็น กรวดทรายข้างทาง แม้แต่ดอกหญ้าเล็กๆ
ก็ทักทายเรา หากเรารู้จักเก็บรายละเอียดเหล่านั้น โดยเฉพาะการเดินไปตามถนน
เราจะได้สัมผัสถึงชีวิตผู้คนมากกว่าการเดินทางไปกับคณะทัวร์
ซึ่งอีกไม่นานคณะทัวร์จากสมาชิกรัฐสภาไทยก็จะพากับไปถลุงงบประมาณ
โดยอ้างความชอบธรรมว่าเป็นการไปดูงาน
แต่จะมีสักกี่คนที่จะนำประสบการณ์ที่ได้รับกลับมาสร้างประโยชน์ให้กับประเทศ
ชาติ
ผมได้ข้อมูลจากคนไทยในต่างประเทศว่าเขาเคยพาผู้ทรงเกียรติเหล่านั้น
ไปเข้าซ่อง เข้าบ่อน โดยใช้เงินภาษีอากรของเรา อดีตสมาชิกสภาฯ
บางท่านก็เคยออกมายอมรับว่าเรื่องดังกล่าวเป็นความจริง
ดูตัวอย่างได้จากอดีตรัฐมนตรีรักเกียรติ
ที่ปัจจุบันเป็นพระรักเกียรติไปแล้วนั้น
ก็ได้สารภาพให้ฟังว่าในอดีตท่านเคยหมกมุ่นอยู่กับอบายมุข
จนนำไปสู่การทุจริตคอร์รัปชัน
การเดินทางไปต่างประเทศหลายครั้งของผม
ส่วนใหญ่ได้รับเชิญไปหรือมีผู้ออกค่าใช้จ่ายให้
บางครั้งได้ทุนไปอยู่นานเป็นปี ถ่ายภาพเอาไว้เป็นหมื่นๆ รูป
บางครั้งก็บันทึกเป็น VDO ไว้
เมื่อครั้งอยู่ที่ญี่ปุ่นก็ได้บันทึกสิ่งที่พบเห็นจากการศึกษาดูงานเรื่อง
การจัดการน้ำโดยชุมชนตลอด 300 วันในญี่ปุ่น ซึ่งยังไม่มีโอกาสได้พิมพ์ 60
วันที่บาหลี 15 วันที่บาวาเรีย 7 วันที่มาไซมาร่า เคนย่า จีน เวียดนาม ลาว
และที่อื่นๆ อีกหลายแห่ง พยายามบันทึกและจดจำสิ่งต่างๆ ที่ได้ประสบพบเห็นมา
และนำมาเปรียบเทียบกับบ้านเมืองของเราเสมอ
สำหรับการเดินทาง 16 วันในอเมริกาที่เพิ่งผ่านมานี้
ต้องขอขอบคุณอีกครั้งสำหรับพันธมิตรฯ ที่ลอสแองเจลิส ลาสเวกัส
และซานฟรานซิสโก ที่ให้การสนับสนุนออกค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
และดูแลรับรองเป็นอย่างดีจนยากที่จะลืมได้
ผมได้เห็นชีวิตของคนไทยในต่างแดนจำนวนมากที่ประสบความสำเร็จ
และอีกหลายชีวิตที่ล้มเหลวจนต้องผิดหวังกลับมา
แต่ทั้งหมดล้วนต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมายด้วยความสามารถของตนเอง
ไม่มีพ่อแม่พี่น้องคอยช่วยเหลือ
ยามขัดสนเงินทองก็ต้องใช้สติปัญญาดิ้นรนหาหนทางเอาเอง
ด้วยสองมือสองเท้าและความรู้ที่ติดตัวมา ไม่มีระบบเส้นสาย
วัดกันด้วยความสามารถมากกว่าใบปริญญา
ผู้คนในอเมริกามีศักดิ์ศรีเท่าเทียมกัน หรืออย่างน้อยก็ใกล้เคียงกันมากขึ้น
ช่องว่างระหว่างชนชั้นมีน้อยมาก
เพราะเขาไม่ได้วัดความเป็นคนที่ความร่ำรวยหรือวัตถุ
คนไทยในต่างแดนกลับโหยหาความเป็นไทยมากกว่าคนในประเทศ
วัดไทยในลอสแองเจลิสมีมากกว่า 20 แห่ง ทุกแห่งเปิดโอกาสให้เด็กๆ
ได้เข้าไปเรียนรู้ภาษาและวัฒนธรรมไทย
ในขณะที่คนไทยในบ้านเมืองเรากลับละทิ้งรากเหง้าของตนเอง
คลั่งนักร้องต่างชาติ อยากเป็นเกาหลี เห่อของนอกและสินค้าแบรนด์เนม
ดูอย่างนายกรัฐมนตรีหญิงของไทย ไม่เคยภูมิใจในชาติของตน
เรื่องแบรนด์เนมคงไม่ต้องพูดถึง
แต่สำหรับชุดแต่งกายประจำชาติมีอยู่มากมายหลายแบบที่มีคุณค่าควรจะนำไปเผย
แพร่เวลาไปต่างประเทศ
ดันกระแดะไปใส่ชุดประจำชาติของคนอื่นหากเทียบกับสตรีผู้มีอิทธิพลทางการ
เมืองของพม่าอย่างอองซานซูจีแล้ว
ชุดประจำชาติแบบเรียบง่ายที่เราเห็นเธอใส่อยู่เป็นประจำไม่เคยเปลี่ยนแปลง
นั้น แม้ไม่ได้หรูหราราคาแพง
แต่ก็ทำให้เธอดูเป็นสตรีที่สง่างามได้ไม่ต้องพึ่งแบรนด์เนม
ผมมองว่าคนที่ใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศและประสบความสำเร็จได้นั้น
ไม่ใช่คนธรรมดา ต้องเป็นประเภทหัวเห็ดทั้งนั้น มันสมองดีๆ
ของประเทศจึงไปอยู่ที่อื่นกันหมด
เพราะเขาเอือมระอาบ้านเมืองที่มีแต่นักการเมืองเห็นแก่ตัว โกงบ้านกินเมือง
บ้าอำนาจกันถึงขนาดเผาบ้านตัวเองเพื่อต้องการอำนาจคืน
ผมได้พบรุ่นพี่อาวุโสท่านหนึ่งซึ่งแม้จะเลยวัยเกษียณมานานแล้วแต่ยังแข็งแรง
และปัจจุบันก็ยังคงทำงานให้กับองค์การนาซ่าของสหรัฐอเมริกาอยู่
มีรายได้วันละไม่ต่ำกว่า 600 เหรียญสหรัฐ
คนดีมีความสามารถนั้นอยู่ที่ไหนก็มีคุณค่า
แม้แต่นาซ่าเขาก็ไม่ยอมปล่อยให้หลุดมือไป
เราจึงเหลือแต่คนชั่วฉลาดน้อยบริหารบ้านเมืองกันอยู่ทุกวันนี้
พี่กมล ทัศนาญชลี
ศิลปินแห่งชาติของไทยท่านหนึ่งที่ไปโด่งดังในต่างแดนและใช้ชีวิตอยู่ในสหรัฐ
อเมริกา แต่ด้วยสำนึกรักในแผ่นดินเกิด
อะไรที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติก็พยายามทำ
โดยได้จัดโครงการแลกเปลี่ยนศิลปินระหว่างประเทศ
จัดให้มีค่ายอบรมศิลปะเพื่อเพิ่มทักษะให้กับครู อาจารย์ นักศึกษา
และบุคคลทั่วไป แรกๆ ใช้เงินทุนของตัวเอง
ต่อมาได้รับการส่งเสริมสนับสนุนจากกระทรวงวัฒนธรรม
แม้จะไม่มากมายนักแต่ก็เกิดประโยชน์มาก
ในแต่ละปีผู้ได้รับคัดเลือกจากทั่วประเทศจะต้องเข้าค่ายอบรมร่วมกันทำ
กิจกรรมต่างๆ ด้วยกันในประเทศไทย
เมื่อไปต่างประเทศก็จะพักรวมกันที่บ้านพี่กมลกว่า 10 ชีวิต ทั้งทำอาหาร
กินข้าว ล้างจานกันเอง ทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกันด้วยความเรียบง่าย ประหยัด
และพอเพียง
ในขณะที่นักเรียนทุนของรัฐบาลยุคทักษิณ
ส่งเด็กที่คัดเลือกไปศึกษาดูงานต่างประเทศ กินอยู่แบบ VIP นอนโรงแรมหรู
มีรถบัสปรับอากาศอย่างดี แต่ละคนแทบไม่ได้สังสรรค์ทำกิจกรรมอะไรร่วมกัน
เพาะบ่มความเป็นแก่ตัวเริ่มจากตรงนี้แหละ แต่ละคนสำคัญตัวผิด
ไม่นึกถึงคนอื่น ไม่ถูกสอนให้รู้จักร่วมกันทำงาน
เริ่มต้นก็มือใครยาวสาวได้สาวเอา ด้วยทัศนคติที่ปลูกฝังแบบผิดๆ เหล่านี้
เราจึงได้ผลผลิตออกมาเป็นข้าราชการและนักการเมืองเห็นแก่ตัว
ใช้วัตถุมาเป็นตัวกำหนด หลอกล่อเยาวชน สอนคนยากจนให้รอความช่วยเหลือจากรัฐ
คนเก่งๆ สมองดีๆ หลั่งไหลไปอยู่ต่างประเทศ
คนจนยากแค้นด้อยการศึกษาจากพม่า ลาว เขมร
หลายล้านคนกำลังทยอยเข้ามาเตรียมเป็นพลเมืองแทนที่คนไทยในอนาคตไม่รู้ว่า
สมาชิกรัฐสภาและรัฐมนตรีสุดฉลาดทุกวันนี้มัวแต่เล่นอะไรกันอยู่
เท่านี้ยังไม่สาแก่ใจกันอีกใช่ไหม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น