รางวัลชนะเลิศเหรียญทองนานาชาติ จากการประกวดนิทรรศการสิ่งประดิษฐ์
นวัตกรรม และเทคโนโลยีนานาชาติ
ปัจจุบันการใช้อินเทอร์เน็ตเป็นที่แพร่หลายมากขึ้นเรื่อยๆ
ซึ่งหนึ่งในปัญหาที่บรรดานักท่องเน็ตพบเจอก็คือ
การซื้อชั่วโมงเน็ตที่ยังไม่ค่อยสะดวกเท่าที่ควร ด้วยเหตุดังกล่าว
"เฉลิมลาภ ศักดาปรีชา" ศิษย์เก่าคณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์
จึงได้คิดค้นนวัตกรรมใหม่ "ตู้จำหน่ายอินเทอร์เน็ตอัจฉริยะ" หรือ
Intelligence Wifi-Box
ขึ้นมาที่น่าสนใจไปกว่านั้นก็คือผลงานของเฉลิมลาภสามารถคว้ารางวัลชนะเลิศ
เหรียญทองนานาชาติ จากการประกวดนิทรรศการสิ่งประดิษฐ์ นวัตกรรม
และเทคโนโลยีนานาชาติ หรือ ITEX 09 (International Invention, Innovation
and Technology Exhibition : ITEX 09) จากประเทศมาเลเซีย
ปัจจุบัน เฉลิมลาภกำลังร่วมกับสถาบันนวัตกรรม บริษัท ทีโอที จำกัด
(มหาชน) ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อการติดตั้งให้บริการตู้จำหน่ายอินเตอร์เน็ต
อัจฉริยะตามที่สาธารณะ ร้านสะดวกซื้อ หรือหอพักต่าง ๆ ทั่วประเทศ
เฉลิมลาภเอ่ยถึงจุดเริ่มต้นของการคิดค้นนวัตกรรมชิ้นนี้ว่าได้แรงบันดาลใจ
มาจากการตอบโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับการใช้งานตู้โทรศัพท์สาธารณะ
และการใช้บริการอินเทอร์เน็ต
" ปัจจุบันผู้บริโภคมีความนิยมในการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่กันมากขึ้น
จึงมีผลทำให้ตู้โทรศัพท์สาธารณะมียอดการใช้บริการลดลงอย่างเห็นได้ชัด
และปัญหาหนึ่งที่เกี่ยวกับการใช้บริการอินเทอร์เน็ตก็จะมีแต่วิธีการเหมา
จ่ายรายเดือนหรือรายชั่วโมง
ซึ่งบางครั้งทำให้เราซึ่งเป็นผู้บริโภคเสียเปรียบ
เพราะไม่มีการเสียค่าใช้จ่ายตามนาทีที่ใช้งานจริง และด้วยโจทย์ทั้ง 2
ข้อนี้ จึงได้เกิดแนวคิดที่จะประดิษฐ์ Intelligence WiFi Box ขึ้นมา"
ทั้งนี้ ผู้ประดิษฐ์คิดค้นได้พัฒนาวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ฮาร์ดแวร์
ซอฟต์แวร์ และตัวรับส่งสัญญาณไร้สายสำหรับตู้จำหน่ายอินเทอร์เน็ตอัจฉริยะ
พร้อมกับออกแบบระบบเซิร์ฟเวอร์สำหรับรองรับเครือข่ายตู้จำหน่ายอินเทอร์เน็ต
ให้เป็นระบบขนาดใหญ่ ซึ่งวิธีการใช้สะดวกรวดเร็ว
เพียงหยอดเหรียญในตู้โทรศัพท์ เลือกกดปุ่มการใช้งานได้ทันที
"คุณสมบัติ ของตู้จำหน่ายอินเทอร์เน็ตคือ
สามารถกำหนดอัตราค่าบริการได้คิดเป็นบาท : นาที : พื้นที่ติดตั้ง
ซึ่งจะสามารถกระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ตได้ในรัศมี 100 - 300 เมตร
สำหรับกระบวนการทำงานของ Intelligence WiFi Box
เมื่อต้องการใช้งานอินเทอร์เน็ตสามารถยอดเหรียญไปที่ตู้ ก็จะมีบัตร
Username และ Password ออกมาให้สามารถนำไปใช้ในงานอินเทอร์เน็ต
โดยเข้าใช้งานจาก Notebook, PC, Smart Phone ได้ตามเวลาที่ซื้อจริง
โดยมีค่าบริหารเฉลี่ยนาทีละ 20 สตางค์
และหากใช้ไม่หมดตามระยะเวลาดังกล่าว
สามารถเก็บไว้ใช้งานอินเทอร์เน็ตในครั้งต่อไปได้ โดยมีอายุการใช้งาน 3
เดือน ทำให้ลูกค้าสามารถจ่ายค่าอินเทอร์เน็ตตามการใช้งานจริง
ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย และเข้าถึงการใช้งานอินเทอร์เน็ตได้อย่างสะดวก"
นอกจากความสามารถพิเศษที่เต็มเปี่ยมไปด้วย
คุณค่าและการใช้งานที่สะดวกสบายแล้ว ยังใช้ทุนการผลิตที่มีราคาถูกเพียง
60,000 บาทเท่านั้น
เมื่อเปรียบเทียบตู้จำหน่ายอินเตอร์เน็ตที่นำเข้าจากต่างประเทศ
ในราคาเครื่องละ 200,000 บาท
"ที่ ผ่านมาเคยนำติดตั้งเพื่อทดลองให้บริการแก่ลูกค้าบริเวณหอพักของม.ธรรมศาสตร์
รังสิต และบริเวณคอนโดมิเนียมย่านสะพานควาย
ปรากฏว่าได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี
โดยมีผู้มาใช้บริการคิดเป็นรายได้ประมาณ 8,000-10,000 บาทต่อเดือน"
เฉลิมลาภสรุป
http://www.manager.co.th/Campus/ViewNews.aspx?NewsID=9520000074092
เดี๋ยวนี้เขาทำธุรกรรมกันทาง internet หมดแล้ว
ใครเขาจะมาลงทุนเอาเครื่องไปวาง เสียเวลาดูแล เสียค่าลงทุนอีกละครับ
และที่สำคัญ รกหูรกตา บ้านช่องเหลือเกิน น่าจะมีการเก็บภาษีพวกนี้แบบแพงๆด้วยนะ
ไม่ใช่อยากติดอะไรก็ติด อยากวางอะไรก็วาง
ความคิดดี แต่ตกยุค
--
60,000 บาท สำหรับเครื่องต้นแบบถือว่าไม่แพงครับ
ถ้านำมาเข้าสู่ระบบธุรกิจจริง ๆ ราคาต่อเครื่องน่าจะถูกลงไปได้อีก
แต่ ผมว่าเครื่องนี้จะไร้ประโยชน์ไปทันทีถ้า 3g,4g ใช้งานได้ในไทย
แต่ก็อีกนั่นแหละ กว่าแม่มจะมาคงจะชาติหน้า ตอนนี้ทำเครื่องพวกนี้ขายได้
ก็ทำขายไปเลยครับ
คิดราคาเครื่องเอากำไรแค่ 10%-20% พอ พยายามขายให้ได้มากที่สุด
รีบทำรีบขาย เพราะของพวกนี้อยู่ได้ไม่นาน หากินกับ hardware
อยู่ได้ไม่เกิน 3 ปีครับ
เดี๋ยวมันจะมีเทคโนโลยีใหม่ออกมาเสมอ
ยังไงก็ขอให้พัฒนาตามเทคโนโลยีให้ทันละกันครับ ธุรกิจนี้
ต้องเสือปืนไวเท่านั้น
dust experimental researcher
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น