++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพฤหัสบดีที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

แหล่ประวัติศาสตร์ - กำปั่น ข่อยนอก (บ้านแท่น)

แหล่ประวัติศาสตร์

1 ข้าพเจ้า จะกล่าวความจริง ไม่มีแอบอิง นวนิยาย ประวัติศาสตร์
ชนชาติไทย บันทึกเอาไว้ หลายหมื่นพันวัน

2 ไม่ปฏิเสธ ประวัติศาสตร์ ไม่เคยตระบัด บิดเบือนเพื่อนบ้าน เป็นเช่นไร
ว่าไปเช่นนั้น ลำดับเหตุการณ์ ตั้งแต่ยาวไกล

3 วันที่ยี่สิบสี่ เดือนมิถุนา สองสี่เจ็ดห้า ที่ข้าจำได้
เวลาย่ำรุ่งอรุโณทัย วันที่แก้ไข เปลี่ยนแปลงปกครอง

4 จากสมบูรณาญาสิทธิราชย์ โดยคณะราษฎร ประกาศกู่ก้อง ที่ลานพระรูป
สรุปรับรอง ก่อนเห็นแสงทอง อรุโณทัย

5 ได้ก่อกำเนิด เกิดรัฐธรรมนูญ ฉบับที่หนึ่ง พึงจำกันไว้
ปกครองระบอบประชาธิปไตย ยึดอำนาจไว้ ก่อนเห็นแสงตะวัน

6 บุคคลต้นเหตุ คือพระยาพหล เป็นบุคคล เริ่มต้นก่อการ กับนักเรียนไทย
และนายทหาร ได้ร่วมมือกัน ไม่หวั่นเกรงกลัว

7 ได้ยุดอำนาจ จากพระบาทสมเด็จ พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ด้วยเหตุผล
ที่มนมืดมัว มีเรื่องพันพัว สาระพัดสารพัน

8 สภาพบ้านเมือง ตอนนั้นไม่เหมาะ มีสามหัวข้อ อ้างก่อเหตุการณ์
อ้างพระปกเกล้า ตั้งราชบริพาร มาบริหาร อภิรัฐมนตรี

9 เพื่อจะให้ร่าง สร้างรัฐธรรมนูญ มอบให้ชาวไทย ในสมัยนี้ แต่ไม่ทันเสร็จ
เกิดเหตุพอดี ความแตกแยกมี ก่อตัวขึ้นมา

10 สาเหตุที่สอง เรื่องเงินใช้สอย เงินคลังเหลือน้อย ลงมากนักหนา
จึงได้หั่นงบ ประมาณลงมา หลายคนจึงลา ออกจากราชการ

11 เพื่อจะตัดทอน ตอนค่าใช้จ่าย จึงไม่พอใจในกลุ่มทหาร
เรื่องเก็บภาษีก็มีส่วนสำคัญ ทำให้ทหาร พาลไม่พอใจ

12 ข้าราชการ ทำงานอืดอาด พระราชบัญญัติก็ใช้ไม่ได้
ไม่ค่อยสนองพระราโชบาย ทำงานรับใช้ เช้าชามเย็นชาม

13 พระยาพหล พยุหเสนา จึงได้เข้ามา ยุดอำนาจท่าน พระองศ์ไม่ขัด
หากรัฐต้องการ แต่อำนาจ ของท่าน จะมอบให้คนไทย

14 จะขอมอบให้ ชาวไทยทุกคน แต่ไม่มอบ ให้คน กลุ่มหนึ่งกลุ่มใด
ที่สิบธันวา ข้ายังจำได้ ดำรัสสุดท้าย ของพระผู้ทรงธรรม

15 จึงเกิดนายกรัฐมนตรี คนแรกคนนี้ ทีมีชื่อนำ เป็นเจ้าพระยา
จำหน้าจำนาม พระยามโนปกรณ์ นิติธาดา

--------------------------------------------------------------------------

16 เปลี่ยนการปกครอง ระบอบแบบใหม่ ก็ยิ่งซ้ำร้าย กว่าที่ผ่านมา
เกิดความวุ่นวาย ทุกวันทิวา จนคนนินทา ด่าว่าเต็มเมือง

17 พระยาพหลเป็นคนต้นคิด หลวงประดิษฐ์ เป็นคนต้นเรื่อง
ยึดอำนาจจากพระราชา ปล่อยหมูปล่อยมา เข้ามานั่งเมือง

18 พระยาพหล ก็พาลโมโห จึงยุดอำนาจ ประกาศดังเปรี้ยง ขอเป็นนายก
ขึ้นปกครองเมือง ปีเดียวที่เพียง เปลี่ยนการปกครอง

19 เข้ายึดอำนาจ ยี่สิบมิถุนา สองสี่เจ็ดหก เป็นนายกคนที่สอง
แต่มีเรื่องเกิด มากมายก่ายกอง ด้านการปกครอง ล้มลุกคลุกคลาน

20 ได้เกิดกบฏ เจ้าบวรเดช เดือนตุลา ในคราปีนั้น ดีที่กำราบและปราบได้ทัน
ไม่งั้นเหตุการณ์ ช่างน่าโศกา

21 ต่อมาในปี สองสี่เจ็ดแปด กบฏนายสิบ เกิดเดือนสิงหา สิบเอกสวัสดิ์
ประกาศนำมา เลยถูกจับฆ่า ข้อหาสำคัญ

22 และอีกในปี สองสี่แปดสอง ก็มีกบฏ เกิดขึ้นอีกครั้ง ผู้ที่คิดล้ม
ล้างรัฐบาล พระยาสุระเดช กลเม็ดก็ดี

23 หวังแก่งแย่งชิง เพื่อนำอำนาจ ถวายกษัตริย์ คืนท่านเสียที
แต่ไม่สำเร็จ ระเห็จหลบหนี กบฏคิดดี โชคไม่บันดาล

24 ต่อมา พ.ศ. สองสี่เก้าสูน มีพลโทผิน ชุณหะวัณ เข้ายึดอำนาจ จากรัฐบาล
เป็นรัฐประหาร เรียกขานกันมา

25 แล้วให้นายควง อภัยวงศ์ ขึ้นเป็นนายก เป็นการบังหน้า ในวันที่แปด
เดือนพฤศจิกา นายควงขึ้นมา เป็นได้ไม่นาน

26 เพราะเกิดกบฏแบ่งแยกดินแดน จะจับผู้แทน ส.ส.อีสาน วันที่ยี่สิบแปด
เดือนกุมภาพันธ์ นายเตียง ศิริขันธ์ กับพวกหลายคน

27 แต่เพราะ ส.ส.มีเอกสิทธิ์ เลยจับไม่ได้ ขัดใจนายพล จึงไล่นายควง
ออกไปให้พ้น ให้จอมพล ป. นั้นหนอเป็นแทน

28 เมื่อจอมพล ป.พิบูลสงคราม ดำรงตำแหน่ง ก็ยังไม่เหนียวแน่น
คนจะยึดอำนาจ ก็ไม่ขาดไม่แคลน มีอยู่ทั่วแดน จนเต็มแผ่นดิน

29 พลตรีสมบูรณ์ ศรานุชิต และพลตรีเนตร เขมะโยธิน จะยึดอำนาจ
ราชการแผ่นดิน เรียกว่ากบฏเสนาธิการ

30 แต่ข่าวล่วงรู้ถึงหูจอมพล จึงจับสองคน เอาไว้ได้ทัน มีเรื่องมีราว
สำคัญๆ และมีเหตุการณ์ มากมายก่ายกอง


31 วันที่ยี่สิบหก เดือนมิถุนา ปี พ.ศ.สองสี่เก้าสอง มียึดอำนาจ
ด้านการปกครอง ครั้งนี้เกี่ยวดอง กับนายปรีดี

32 มีทหารเรือ และพลเรือน ได้เคลื่อนกำลัง ยึดวังเต็มที่ แต่จอมพล
ป.ดวงหมอยังดี พลตรีสฤษดิ์ มาคิดช่วยทัน

33 จนนายปรีดี ต้องหนีระเห็จ อยู่ต่างประเทศแต่ครั้งกระนั้น กบฏวังหลวง
ทั้งปวงเรียกกัน ปราบปรามได้ทัน สงสารเมืองไทย

34 ในปี พ.ศ.สองสี่เก้าสี่ มิถุนายน ก็เกิดเรื่องใหญ่ ผู้บังคับ-เรือรบ
หลวงสุโขทัย ได้ใช้ปืน จี้จอมพล ป.

35 ไปกักขังไว้ ที่ในเรือรบ ไม่ให้ใครพบ ไม่ให้ใครพ้อ แต่โชคยังดี
ที่ไม่มีเคราะห์ จอมพล ป.หนีไปได้ทัน

--------------------

36 ลำดับเหตุการณ์ที่ผ่านทั้งหมด เขาเรียกว่ากบฏ แมนฮัตตัน
ฝ่ายกบฏเสียท่ารัฐบาล ถูกปราบลงพลัน จึงหยุดสอพลอ

37 สิบหกกันยา สองห้าห้าสูน เป็นวันสิ้นบุญ ของจอมพล ป. ถูกยึดอำนาจ
ถูกตัดต้นตอ จอมพลสฤษดิ์ ได้คิดจัดการ

38 ได้ยึดอำนาจ จากจอมพล ป. โดยการปฎิวัติรัฐประหาร ดำรงตำแหน่งนายก
มานาน ไม่ต้องใช้พานรัฐธรรมนูญ

39 ข้ารับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว คนอื่นห้ามเกี่ยว เข้ามาวายวุ่น
มาตราสิบเจ็ด เป็นเครื่องค้ำจุน กวาดสิ่งปฏิกูล แบบเผด็จการ

40 อยู่จนกระทั่งจอมพลสฤษดิ์ได้เสียชีวิต ในกาลครั้งนั้น
เวลาห้าปีที่เป็นรัฐบาล นับว่าเนิ่นนาน เป็นที่แน่นอน


41 สืบทอดอำนาจ เผด็จการพร้อม จอมพลถนอม กิตติขจร ดำรงตำแหน่ง
ตบแต่งขั้นตอน เป็นที่แน่นอน หวังอยู่นานๆ

42 ในวันที่เก้า คราวเดือนธันวา สองห้าสูนหก รัฐบาลทหาร
อยู่ถึงสิบปีจึงมีเหตุการณ์ เปลี่ยนแปลงสำคัญ ในสิ่งเป็นคุณ

43บรรดานิสิตเหล่านักศึกษา เรียกร้องโหยหา รัฐธรรมนูญ ทั้งประชาชน รวมพล
เพิ่มพูน ขอเสรีภาพ ให้กับคนไทย

44 ประภาส ถนอมไม่ยอมท่าเดียว จับนักศึกษา เอามาขังไว้ และตั้งข้อหา
ว่าเป็นผู้ทำลาย จับกลุ่มสุมหัว และมั่วการเมือง

45 ขัดขืนคำสั่งคณะปฏิวัติ และเป็นกบฏ มีโทษต่อเนื่อง ยัดเหยียดข้อหา
ให้พาขุ่นเคือง เริ่มต้นของเรื่องเริ่มต้นของราว

46 ศูนย์กลางนิสิต เหล่านักศึกษา จึงได้ออกมา กู่ก้องร้องเป่า
เรียกร้องให้ปล่อย ตัวได้หรือเปล่า ผู้ต้องหาเรา ทำผิดอะไร

47 ประภาสถนอม ไม่ยอมฟังศัพท์ แถมยังสั่งจับ ไขแสง สุกใส
เกิดความตึงเครียด ไม่มีคลี่คลาย จนวันสุดท้าย สิบสี่ตุลา

48 คลื่นมหาชน เป็นคนเรือนแสน ร่วมกับนิสิตเหล่านักศึกษา เดินออกถนน
ทุกคนออกมา ไปวังจิตลดา ขอบารมี

49 อ่านแถลงการณ์ แยกย้ายกันกลับ แต่กลับพบภาพ ดังต่อไปนี้ หน่วยคอมมันโด
นั้นและไม่ดี สกัดไว้ที่ ไม่ให้เดินทาง

50 ตำรวจกองปราบ พร้อมกับอาวุธ สกัดทุกจุด ไล่ให้กลับหลัง ฝูงชนข้างหลัง
ไม่รู้ต้นทาง ว่าแถวหน้านี้ มีเรื่องอะไร

51 เหล่านักศึกษา พากันร้องขอ แต่ทางตำรวจเขากลับไม่ให้ จึงเกิดกระทบ
กระทั่งกันไป ตำรวจมนตร์ชัย จึงได้สั่งการ
52 ให้ใช้อาวุธทั้งโล่กระบอง ตีนักศึกษา
แถวหน้าเหล่านั้น พวกอยู่แถวหลัง ยังไม่รู้เหตุการณ์ ต่างฝ่ายต่างดัน
เบียดกันเข้ามา

53 เหล่านักศึกษา พากันเจ็บตัว ถูกตีที่หัว ที่ตัวที่หน้า แถมยังมืดมน
โดนแก็สน้ำตา ทะลักหนีมา ตกน้ำก็มี

54 บ้างหนีไปยัง วังจิตลดา พวกอยู่แถวหน้า พากันถอยหนี โมโหที่ถูก
ตำรวจทุบตี ฉวยของที่มี ก็ขว้างปามา

55 เริ่มต้นตำนาน ของการนองเลือด วันที่สิบสี่ ของเดือนตุลา มหาวิปโยค
เศร้าโศกนักหนา คนไทยได้มา เข่นฆ่าซึ่งกัน

56 จอมพลถนอม จึงพร้อมประกาศ เขียนในกระดาษ อ่านแถลงการณ์ โดยอ่านผ่านกรม
ประชาสัมพันธ์ ว่าพวกก่อการ จลาจล

57 ให้ใช้รถถัง ออกมาทันที มาบดขยี้ ให้ยับย่อยย่น ปืนกลยิงกราด
อนาถสุดทน ชีวิตร่วงหล่น เหมือนสนต้องลม

58 นี้คือตำนาน การหวงอำนาจ ใครหลงอำนาจ มักมีแนวโน้ม
โมหะจริตผูกติดเป็นตม สิ่งนี้สังคม คงไม่ต้องการ

59 บทเรียนคนไทย จำไว้ให้หนัก ทุกสิ่งเกิดจาก การรัฐประหาร ประชาธิปไตย
จึงไม่เบ่งบาน เจ็ดสิบเจ็ดปีผ่าน เกิดเหตุเภทภัย

60 สรุปกลอนแหล่ไว้แค่นี้ก่อน เป็นอุทาหรณ์ สอนใจเอาไว้ ช่วยกันรักษา
ประชาธิปไตย อยู่คู่เมืองไทย แผ่นดินเมือง--ทอง

-------------------------

คำนิยม

"ศิลปิน"หาใช่แต่เพียงหลับตา เล่น แสดง
เพียงเพื่อจะได้รับเงินค่าจ้างจากนายจ้าง และอยู่ไปเพียงวันๆ
จนถึงกาลสิ้นชีพดับขันธ์ หากเป็นเช่นนั้น เราเรียกขานว่า โมฆะศิลปิน
คือศิลปินที่อยู่กับความว่างเปล่า ศิลปินต้องมีความรู้จริงแห่งชีวิต
รู้จริงกับโลกในปัจจุบัน รู้เสรีภาพ รู้ว่าอะไรคือสันติภาพ
อะไรคือมิตรภาพ และนำถ่ายทอดทางบทเพลงที่ตนเองถนัด
ข้าพเจ้ามีความภูมิใจกับความเป็นศิลปินพื้นบ้าน ที่ได้มีโอกาส
ร่วมงานกับศิลปินระดับประเทศในงานคอนเสิร์ต "บนเส้นทางสู่สันติภาพ
และมิตรภาพ ศิลปินคือผู้ชี้นำสังคมในทางที่ถูกต้อง
สังคมที่ยุ่งเหยิงในปัจจุบัน ศิลปินก็เป็นส่วนหนึ่ง
ในการชี้นำสังคมในทางที่ผิดๆ
ศิลปินเช่นนี้ถึงแม้จะยิ่งใหญ่โด่งดังเพียงใด แต่ข้าพเจ้าให้คำนิยามว่า
"ขยะศิลปิน" ข้าพเจ้ารำลึกไว้ในใจเสมอว่า อัครมหาศิลปิน คือองศ์ในหลวง
พระองศ์เป็นตัวอย่างของศิลปินที่แท้จริง สมควรที่ศิลปินทุกแขนง
น่าจะเดินตามรอยเบื้องยุคลบาทพระองศ์ท่าน

สังคมไทยในปัจจุบัน บางคนจะเชื่อในคำพูด บทเพลง
ของศิลปินในดวงใจของเขา หากศิลปินผู้นั้นได้ถ่ายทอด ในสิ่งที่ถูกต้อง
ให้กับกลุ่มแฟนเพลงของเขา ผลประโยชน์ย่อมตกอยู่กับประเทศชาติ
สมกับบทกวีที่ว่า

" ศิลปะจรรโลงจินต์ ศิลปินจรรโลงใจ ศิลปวัฒนธรรมไทย
จรรโลงใจ จรรโลงจินต์"

ฉะนั้นข้าพเจ้าต้องขอชื่นชม
กับผู้ที่ทำให้เกิดงานนี้ขึ้นมา และได้ให้โอกาสศิลปินพื้นบ้าน
ได้เข้าร่วมแสดงเจตนารมณ์อันถูกต้อง เพราะยากนักที่จะหาเวที
ที่เป็นอิสระได้เช่นนี้ อยากให้มีงานคอนเสิร์ตเช่นนี้ เกิดขึ้นบ่อยๆ

ลงชื่อ กำปั่น นิธิวรไพบูลย์ (บ้านแท่น)

(
)

ศิลปินพื้นบ้านนครราชสีมา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น