++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพฤหัสบดีที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

เสียงพระอาทิตย์

มีชายคนหนึ่ง ตาบอดทั้ง 2 ข้างมาตั้งแต่กำเนิด
จึงไม่รู้จักสีสันรูปพรรณสัณฐานของสิ่งต่างๆ
มีอยู่วันหนึ่ง เขาได้ยินคนยืนคุยกันเรื่องพระอาทิตย์
ชายคนแรกพูดว่า... ?4-5 วันมานี้ฝนตกทุกวัน ฟ้าครึ้ม ตลอดทั้งวัน
ทำให้รู้สึกซึมเศร้า แต่วันนี้ฟ้าโปร่งแล้ว มองเห็นพระ อาทิตย์ด้วย
ฉันรู้สึกดีใจจริงๆ?
ชายคนที่ 2 พูดขึ้นบ้างว่า ?ตอนนี้เป็นฤดูใบไม้ผลิอากาศ
ไม่ร้อนไม่หนาว แสงแดดอันอบอุ่นส่องสาดอยู่บนตัวเรา
ช่างให้ความรู้สึกสุขสบายอะไรเช่นนี้?
ชายคนที่ 3 กล่าวว่า ?แต่พอถึงหน้าร้อน เมื่อพวกเราทำงานในนา
แสงแดดที่แผดกล้าทำเอาทุกคนเหงื่อท่วมตัวไปหมด
ถึงตอนนั้นพวกเราต่างก็คิดอยากหาที่หลบแดดแล้ว?
ชายคนที่ 4 กล่าวสรุปว่า ?ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม
ถ้าหากไม่มีพระอาทิตย์แล้วละก็
น่ากลัวมนุษยชาติคงไม่สามารถดำรงอยู่ได้อีกต่อไป?
ชายตาบอดคนนั้นได้ฟังคำพูดเหล่านี้แล้ว รู้สึกน่าสนใจ
จึงเดินไปหยุดตรงหน้าคนกลุ่มนั้น ถามอย่างสุภาพอ่อนน้อมว่า
?ขอเรียนถามทุกท่าน พระอาทิตย์จริงๆ แล้วมีลักษณะอย่างไร?
ชายกลุ่มนั้นถูกถามจนนิ่งงันไป ไม่รู้จะตอบอย่างไรดี
เงียบไปสักครู่หนึ่ง ชายคนหนึ่งก็บอกไปว่า
?พระอาทิตย์เป็นของที่มีลักษณะกลมๆ เหมือนถาดทองแดงที่ส่องแสงออกจากตัว?
แต่ทว่าอะไรเรียกว่า ?กลม? อะไรคือการ ?ส่องแสง? อะไรเรียกว่า
?ถาดทองแดง? ชายตาบอดคนนั้นล้วนไม่รู้จัก
ชายคนนั้นไม่รู้จะทำอย่างไรดี ได้แต่เคาะถาดทองแดงในมือตัวเอง
พลางบอกว่า ?ก็คือของอันนี้แหละ แกเข้าใจหรือยัง?
ชายตาบอดพยักหน้างึกงัก แสดงท่าว่าเข้าใจแล้ว
วันถัดมา ชายตาบอดคนนั้นเดินผ่านหน้าวัดพอดีกับเป็นเวลาพระเคาะระฆัง
พอเขาได้ยินเสียงระฆังก็รู้สึกคล้ายกับเสียงเคาะถาดทองแดงที่ตนได้ยินเมื่อวาน
เขาดีใจมาก ร้องตะโกนเสียงดังว่า ?ทุกคนฟัง นี่ก็คือเสียงของพระอาทิตย์?
ท่านสาธุชนทั้งหลาย...
ผู้คนในโลกต่างก็ทำความเข้าใจสิ่งต่างๆ
โดยอาศัยการเปรียบเทียบกับประสบการณ์เดิมของตน
หากสิ่งใดเป็นสิ่งที่พ้นเกินกว่าประสาทสัมผัสของมนุษย์ทั่วไปจะรับรู้ได้
มนุษย์ย่อมไม่เข้าใจสิ่งนั้น เพราะเหตุนี้เอง
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงทรงอธิบายลักษณะของพระนิพพานด้วยการปฏิเสธว่า
ไม่ใช่พระอาทิตย์ พระจันทร์ หรือสิ่งใดๆ ที่มนุษย์ในโลกรู้จัก
แต่ทรงรับรองว่า อายตนะนั้นมีอยู่ แต่ทว่าชาวโลกอีกไม่น้อยที่ปฏิเส
ธการมีอยู่ของทั้งพระนิพพาน นรก สวรรค์ บุญ บาป กฎแห่งกรรม
เพราะถือว่าตัวไม่เห็น พวกเราทุกคนอย่าเป็นอย่างนั้นนะ
ขอให้ตั้งใจปฏิบัติธรรมให้เข้าถึงพระธรรมกาย
สามารถไปรู้ไปเห็นสิ่งเหล่านี้ด้วยตัวของเราเอง
ด้วยญาณทัสนะของพระธรรมกาย แล้วเราจะรู้ว่า เราเกิดมาจากไหน เกิดมาทำไม
มีหน้าที่อะไร ตายแล้วเราจะไปไหน
ซึ่งเป็นความรู้พื้นฐานที่ทำให้เราเป็นบุคคลที่ตื่นแล้ว
พร้อมจะก้าวเดินไปสู่ความสุขความสำเร็จที่นิรันดร์

แก้ไขล่าสุดเมื่อ ( ๒๐ กรกฎาคม ๒๕๔๙ )

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น