++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

พรรคพันธมิตรฯ

พรรคพันธมิตรฯ
โดย ชัยอนันต์ สมุทวณิช 24 พฤษภาคม 2552 17:52 น.
มีข่าวว่ากลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จะตั้งพรรคการเมือง
ผมหวังว่าพรรคการเมืองที่จะตั้งขึ้นนี้
คงมีอะไรที่แตกต่างไปจากพรรคการเมืองทั้งหลายที่มีอยู่ในปัจจุบันบ้าง

พรรคการเมืองปัจจุบันส่วนใหญ่มีลักษณะดังนี้

1. จัดตั้งขึ้นโดยบุคคลเพียงคนเดียว
และเป็นพรรคส่วนตัวเพื่อการเลือกตั้ง
จะมีพรรคประชาธิปัตย์เท่านั้นที่เกิดจากกลุ่มคนไม่ใช่บุคคลคนหนึ่งคนใด

2. การเงินของพรรคมาจากบุคคลคนเดียว หรือคนจำนวนน้อย

3. กำลังสนับสนุนของพรรคอยู่กับ ส.ส.ซึ่งมีหัวคะแนนจำนวนหนึ่ง
มิได้มีฐานจากประชาชน และไม่มีสาขาพรรคที่เข้มแข็ง

4. พรรคไม่มีกลไกอื่นที่ทำงานเพื่อให้การศึกษาทางการเมืองแก่ประชาชน
และขาดองค์กรทางวิชาการและการวิจัย
จึงไม่มีความสัมพันธ์กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง นอกเหนือไปจากการเลือกตั้ง

5. พรรคขาดกลไก และกระบวนการพัฒนาผู้นำ

หากพรรคพันธมิตรฯ เกิดขึ้น ก็จะเป็นพรรคที่แตกต่างไปจากพรรคอื่น
ตรงที่มีการเคลื่อนไหวทางการเมือง และมีการรวมตัวกัน
ทำกิจกรรมร่วมกันมาก่อนที่จะพัฒนาไปเป็นพรรคการเมือง กล่าวคือ
พรรคเกิดมาจากการพัฒนาของกลุ่มที่มีความคิดเห็นทางการเมืองร่วมกัน
พรรคพันธมิตรฯ มีลักษณะดังนี้

1. จัดตั้งขึ้นโดยความเห็นพ้องต้องกันของสมาชิก
และเป็นพรรคที่มีผู้นำรวมหมู่คือ แกนนำ

2. แกนนำมีความคุ้นเคย และมีการยอมรับบทบาทของแต่ละคน
เพราะมีประสบการณ์ร่วมกันในการเคลื่อนไหวทางการเมือง

3. ทั้งแกนนำ
และสมาชิกมีประสบการณ์ทางการเมืองร่วมกันอย่างต่อเนื่อง
ก่อให้เกิดภราดรภาพ

4. เป็นพรรคที่เกิดจากการรวมตัวของสมาชิกที่เป็นฐาน
มีสาขาที่ได้ทำกิจกรรมอย่างต่อเนื่องหลังการเคลื่อนไหวชุมนุม

5. มีความผูกพันสูง เพราะเคยประสบกับภยันตรายร่วมกัน
และมีความสำนึกทางจริยธรรม และความชอบธรรมสูง

6. มีการระดมทุน และการสนับสนุนจากสมาชิกอย่างกว้างขวาง

7. มี "ประวัติศาสตร์" ของการต่อสู้ที่สามารถอ้างอิง และนำมาปลุกจิตสำนึกได้

8. มีแกนนำที่มีความสามารถหลายด้าน และมีการสร้างแกนนำรุ่นต่อๆ ไป

9. มีสื่อทั้งหนังสือพิมพ์ และโทรทัศน์ที่เป็นของตนเอง

เมื่อพิจารณาลักษณะทั้ง 9 ด้านนี้แล้ว พรรคพันธมิตรฯ
ก็เกิดจากพื้นฐานที่แข็งแกร่งได้ ได้เปรียบพรรคการเมืองอื่น
และน่าจะมีความยั่งยืนได้

การเกิดขึ้นของพรรคพันธมิตรฯ
น่าจะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองไทยที่สำคัญ คือ
พรรคพันธมิตรฯ จะนำนโยบายใหม่ๆ ไปใช้
และจะเป็นพรรคที่ยึดถือหลักการมากกว่า "ความสะดวกทางการเมือง"
ความสัมพันธ์ระหว่างพรรคกับประชาชน
จะไม่จำกัดอยู่เฉพาะระยะที่มีการหาเสียงเลือกตั้ง
แต่จะมีการถามความเห็นของประชาชนผ่านทางสื่อ
และการจัดกิจกรรมทางการเมืองอยู่เสมอ
พรรคจะมีบทบาทสำคัญในการให้การศึกษาทางการเมือง
และหากได้รับเลือกตั้งก็จะมีสิทธิได้รับเงินสนับสนุนการทำกิจกรรมทางการ
เมืองมากขึ้น

ในปัจจุบันการเมืองไทยถูกครอบงำโดยนักการเมืองจำนวนน้อยที่มี
พฤติกรรมแบบเดิม พรรคพันธมิตรฯ ประกอบด้วยบุคคลที่ไม่ใช่นักการเมือง
แต่เป็นผู้ต้องการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง เป้าหมายหลักของพรรคพันธมิตรฯ
จึงมิใช่การได้อำนาจเพื่อจะเป็นรัฐบาล
หากเป็นการขยายบทบาทเข้าไปมีพื้นที่ใหม่อยู่ในระบบการเมือง
เพื่อเสนอทางเลือกใหม่ให้แก่การเมืองไทย

ในระยะแรก พรรคพันธมิตรฯ อาจได้ที่นั่งในสภาฯ ไม่มากนัก
และคงเน้นพื้นที่ที่เป็นเขต 1 ในจังหวัดต่างๆ เป้าหมายระยะ 5
ปีของพรรคพันธมิตรฯ น่าจะเป็นการสร้างพรรคขนาดกลาง (30-50 คน)
ที่มีคุณภาพ การกำหนดเป้าหมายเช่นนี้
ทำให้พรรคมีจุดเน้นที่ไม่ต้องใช้เงินทุนมากนัก
และไม่จำเป็นที่จะต้องส่งผู้สมัครให้ครบทุกจังหวัด
แต่พรรคขนาดกลางก็จะเป็นตัวแปรสำคัญทางการเมือง ทั้งในการจัดตั้งรัฐบาล
และการทำงานในระบบรัฐสภา

พรรคประชาธิปัตย์คงอยากได้พรรคใหม่นี้เป็นพันธมิตรฯ
เพื่อลดอำนาจต่อรองของพรรคอื่นๆ ลง และพรรคพันธมิตรฯ
ก็มีบุคคลผู้มีความรู้ ความสามารถ
ตลอดจนความซื่อสัตย์สุจริตมากกว่าพรรคอื่นๆ
ที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลในปัจจุบัน

พรรค พันธมิตรฯ มีเวลาไม่มากนักในการเตรียมตัว
หากจะส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง ซึ่งคาดว่าจะมีไม่เกินปลายปีนี้
การจัดกิจกรรมทางการเมืองที่ผ่านมาคงเป็นการประเมินกำลังได้ว่าควรเน้น
พื้นที่ใดในจังหวัดใด ขณะนี้ควรระดมทุนจากผู้สนับสนุนได้แล้ว
และควรเน้นการบริจาครายละ 10-20 ล้านบาท แทนที่จะหาเงินจากนายทุนใหญ่ๆ
นอกเหนือไปจากการบริจาคของสมาชิกที่ทำกันอยู่แล้ว


http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9520000058046

เห็นด้วยที่ให้ตั้งพรรค
เพราะการตั้งพรรคจากความเห็นชอบของประชาชน ทำให้ประชาชนมีส่วนร่วมทุกส่วน
แต่ต้องแยกออกให้ชัดเจน เพราะ พธม จะเป็นทั้งผู้ตรวจสอบและสนับสนุน
เมื่อมีหน้าที่ในสภาจะมาประท้วงนอกสภานั้นไม่เหมาะสม แต่ต้องรับฟังเสียงจากประชาชน
และเสียงจากประชาชน ก็จะมาจาก พธม ผู้ซึ่งเป็นเจ้าของเสียงจากฐานรากจริงๆ
เพราะ พธม มาจากหลากหลายอาชีพ
ซึ่งต่างมีประสบการณ์ตรงในปัญหาที่หมักหมมมานานปี
ที่ไม่เคยได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง
เพราะ ที่ผ่านมานักการเมืองเก่าจะเก็บเรื่องเหล่านี้ไว้กินเรื่อยๆ
เหมือนเลี้ยงไข้ ความมั่นคงในอาชีพไม่มี ได้แต่ประคองไปเรื่อยๆ
และรอคอยความหวังลมๆแล้งๆจากนักการเมืองตอนหาเสียง
เมื่อประชาชน พธม ต่อสู้มาถึงขั้นนี้แล้วเราต้องทำให้ถึงที่สุด
ไม่ใช่ได้คืบจะเอาศอก
เราต่อสู้เพื่อจะเอาสิทธิ์ที่เราเคยมอบความไว้วางใจให้กับพรรคการเมืองคืนต่างหาก
เพื่อมาจัดการเองแต่เป็นไปตามครรลองของประชาธิปไตย
ประชาชน พธม จึงต้องการมีส่วนร่วมในการออกกฎหมายหรือกฎกติกาใดๆ
ที่จะมาปกครองพวกเราจริงๆเสียที่ เพราะไม่สามารถที่จะวางใจพรรคใดได้อีก

ดังนั้นจึงไม่เห็นด้วยที่จะให้ 5แกนนำ เข้าไปเกี่ยวข้องโดยตรง
เพราะป้าย 5แกนนำคือ ป้ายศักดิ์สิทธิ์ของ พธม
ดังนั้นเราจึงขอสงวน 5แกนนำไว้เป็นประธาน พธม
และในสภาจะผ่านกฎหมายใด ขอให้มาตกผลึกที่ พธม ก่อนออกเป็นกฎหมาย
จนกว่าเราล้างความสกปรกในสภาออกหมดแล้ว พธมจึงจะสลาย และข้อผูกพันธ์ที่
5แกนนำ เคยให้สัจจะวาจาไว้ก็จะหมดไปโดยปริยาย
จากนั้น 5แกนนำก็เหมาะสมที่จะรับตำแหน่งในสภา
คิดว่าไม่นานหรอก ไม่เกิน 5 ปี จากนี้ไป เราเชื่อว่า 5แกนนำ
จะพาเราสู่เวทีโลกได้อย่างสง่าผ่าเผย
ลูกเนียง

+

อย่ามัวแต่กลัวๆ กล้าๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นพวกรู้มาก...เหล่าบล็อกเกอร์ทั้งหลายที่ทำให้คนเข้าไป
อ่านเกิดการไขว้เขว...กลัวว่าจะไม่สะอาด...กลัวไม่เป็นพลังบริสุทธิ์...กลัว
เสียสัจจะ...กลัวตั้งแล้วไม่โต...กลัวตั้งแล้วต้องล้ม...ตั้งแล้วขาดความน่า
เชื่อถือจากสังคม...ตั้งแล้วแกนนำจะเปลี่ยนไป...แล้วคิดหรือว่าฝ่ายตรงข้าม
พวกนักวิชาการกลางกลวง หรือนักการเมืองเก่า แม้กระทั่ง
ปชป.เองก็ตามทีเถอะ... จะมองเห็นการเคลื่อนไหวของ
พธม.มีความบริสุทธิ์อย่างงั้นหรือ
แนวทางการต่อสู้...แนวเดียวที่เรามีอยู่ คือ
การเดินออกมายังท้องถนนกำลังจะตีบตันลงทุกขณะแล้ว...แม้แต่นายกฯ
ที่มักพูดเสมอว่ายึดแนวทางประชาธิปไตยอยู่เนื่องๆ
ยังกล่าวถึงการแก้กฎหมายเพื่อมาควบคุมการชุมนุมฯ...นึกหรือนักการเมืองอยาก
เห็นการชุมนุมฯ ประท้วงพวกเขาอย่างงั้นหรือ
ดังนั้นเราต้องอาศัยเครื่องมือในการต่อสู้ในระบบรัฐสภาฯ
ที่เหล่านักการเมืองเสื้อแดงชอบท้าทายให้เราเขาไปต่อสู้ในสภาฯ
มักเหยียดหยามว่าใช้ม็อบที่ประท้วงตามข้างถนนว่า...
"พวกที่ชอบใช้กฎหมู่อยู่เหนือกฎหมาย..."
พธม.เสียเปรียบพวกนักการเมืองเก่าอย่างมากไม่ว่าจะเป็นสื่อสามานย์...นัก
วิชาการเสื้อแดง-เสื้อขาว...รัฐตำรวจ...กองทัพ...องค์กรอิสระ...อัยการสูง
สุด...ผลกระทบที่เหล่า
พธม.ถูกกระทำย่ำยี...ตายเป็นสิบศพ..บาดเจ็บหลายร้อย...แล้วพวกเราได้รับความ
ยุติธรรม...หรือเห็นสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงไปสู่การเมืองใหม่หรือยัง...
ทั้งที่เวลาล่วงเลยมา 6-7 เดือนที่ผ่านมา...นต.ประสงค์กล่าวว่า
"การเมืองใหม่ไม่มีให้ซื้อหา...อยากได้ต้องทำเอง...อย่าไปหวังอะไรกัยนายกฯ
ที่พูดจาฉะฉาน...ที่ดีแต่การพูดการจา...มุ่งหวังแต่การรักษาอำนาจของตัว
เอง..." หากเรามองเห็นจุดแข็งของเหล่า
พธม.ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่มีความเข้าใจการเมืองดีกว่ากลุ่มอื่นในสังคม...ถ้า
หากกลุ่ม พธม.ไม่เป็นผู้เริ่มย่างก้าวเริ่มสู่การเมืองใหม่...ดังคำกล่าวของคุณสนธิ
"จะเดินหมื่นลี้...ต้องมีก้าวแรกใช่หรือไม่"
การตีเหล็กต้องทำในขณะที่เหล็กกำลังแดงคุโชน... เหล่า
พธม.มีความคิดแตกต่างกันได้...แต่ไม่ควรแตกแยก...
เราต้องเชื่อมั่นในพลังที่เหนียวแน่นของพวกเรา...อย่ากลัวอุปสรรคขวากหนาม
ที่อยู่ข้างหน้า...พวกเรามีจิตใจสาธารณะ...ต้องเสียสละเพื่ออนาคตของประเทศ
ไทย...ถ้าเราไม่ทำ...ก็อย่าเสียใจทีหลังก็แล้วกัน...หากวันนั้นไม่เหลือ
ประเทศชาติให้เรากอบกู้อีกแล้ว...อย่าทำอะไรที่มันครึ่งๆ กลางๆ
เลยครับ...เริ่มต้นเสียทีอย่ามัวรีรออะไรอยู่เล่า...อย่าเป็นเจ้าสาวที่กลัว
ฝนเลยครับ...มุ่งสู่การเมืองใหม่เสียทีเถอะครับ...
A

+
เห็นด้วยกับการตั้งพรรคการเมืองพธม.
และเห็นควรให้มีการเมืองภาคประชาชนควบเป็นแนวคู่ขนานไปด้วย
อยากเห็นการเมืองมีคุณธรรมจริยธรรม ปราศจากการทุจริตคอรับชั่น
ซึ่งเป็นการเมืองนำเน่า เป็นการเมืองแบบเก่า
นักการเมืองไร้จิตสำนึกไร้ยางอายหน้าด้าน ขาดความรับผิดชอบ
มีค่านิยมที่มุ่งการกอบโกยโคตรโกงไม่มีที่สิ้นสุด การแก้ไขรัฐธรรมนูญ
2550 ไม่เห็นด้วยอย่างเด็ดขาด
chaitana1979@windowlive.com

"...ขอให้เราวิ่งแข่งด้วยความเพียรพยายาม
จงวิ่งไปถึงหลักชัยเพื่อชิงรางวัลแห่งชีวิต"

ภาพพยนต์ แสงเทียนแห่งความหวัง

http://www.youtube.com/watch?v=Sk0-BaYIPTE

ขอให้กำลังใจครับ...

++
ถามนิดนึงนะฮะ ไม่ได้จะขัดขวางหรืออะไรนะฮะ

คือ... ถ้าพันธมิตรตั้งพรรคมาเลือกตั้งขึ้นมาจริงๆ
เพื่อเปลี่ยนการเมืองมาเป็นการเมืองใหม่ Image ของพันธมิตรจะเสียไหมฮะ?
แล้วกับสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นมา สิ่งที่เคยปราศรัยกันว่าจะไม่ตั้งพรรค
เค้าจะไม่มาโจมตีจุดนี้กันเหรอฮะ?

แค่อยากรู้อ่ะ ใครเมตตาช่วยตอบผมหน่อยฮะว่าตั้งพรรคมาแล้วมันดีต่อประเทศส่วนใหญ่ยังไง?
maleng

++
No one can oppose Puntamit in creating a new political party now. So
I only agree with all the ideas in this article and has to support
their action.

But I do oppose the 5 leaders in coming to take any leading roles in
this new political party. If they accept any roles,they are playing an
"old political action";the idea which they opposed. They expressed
clealy during their many months many times campaign as the leaders of
Puntamit that they won't do this. If they do they swallow a saliva
which they spated out. This action won't be accepted by me or by the
Thais in general.
prateep--Taiwan
++
เห็นว่าการตั้งพรรคเป็นเรื่องใหญ่
ควรมีการศึกษาและวางแผนตัวบุคคลไว้ล่วงหน้าเป็นอย่างดี
ฉะนั้นเวลานี้ดูเหมือนยังไม่พร้อมนัก สมควรสนับสนุนคนของ พธม ในพรรค ปชป
ไปก่อน เพื่อเป็นฐานมั่นให้ก่อน
แล้วเมื่อพร้อมก็สามารถแยกตัวออกมาเป็นพรรคใหม่ แต่ต้องให้พร้อมจริง ๆ
ขณะนี้ควรเน้นให้การศึกษาแก่ประชาชนโดยทั่วไปถึงเรื่องการเมืองแบบ ปชต
ที่มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ให้เข้าใจกันมาก ๆ เพื่อให้ฉลาดเลือกในภายหน้า
รุ่งทิวา ศ.
++
การตั้งพรรคการเมือง ของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (ฉบับที่ 3)

จาก การวิเคราะห์การตั้งพรรคการเมืองของมวลชนพันธมิตรประชาชนฯ
ทั้งด้านที่เห็นด้วยให้ตั้งพรรคการเมือง
และไม่เห็นด้วยในการตั้งพรรคการเมือง ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2 แล้วนั้น
สำหรับฉบับนี้จะวิเคราะห์ว่าถ้ามติของมวลชนพันธมิตรประชาชนฯ
สนับสนุนให้ตั้งพรรคการเมืองจะมีรูปแบบ (Model) ดำเนินงานอย่างไร
ในอันที่จะทำให้การเมืองภาคประชาชนและการเมืองภาครัฐ
เกื้อกูลสร้างความแข็งแกร่งซึ่งกันและกัน โดยจะวิเคราะห์โดยสังเขปดังนี้

1. สมัชชามวลชนพันธมิตรประชาชน เพื่อประชาธิปไตย ซึ่งจะมี มวลชนพันธมิตรประชาชนฯ
ที่ อยู่ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศเป็นมวลสมาชิกถ้วนทั่วกัน
และจะเชื่อมโยงผูกพันเป็นสายใยกันอย่างแนบแน่นในอุดมการณ์ที่ถูกต้องครรลอง
ครองธรรมเพื่อการเมืองใหม่
โดยจะมีการร่วมชุมนุมประชุมใหญ่อย่างเป็นทางการปีละหนึ่งถึงสองครั้ง เช่น
มีการชุมนุมเมื่อครบรอบปีในวันที่ 25 พฤษภาคม ทุกปี เป็นต้น

การ ประชุมใหญ่แต่ละครั้งจะมีวาระรายงานผลการดำเนินการของสภาพันธมิตรประชาชนฯ
และพรรคการเมืองของกลุ่มพันธมิตรประชาชนฯ
และวาระการขอฉันทามติประเด็นใหญ่ ๆ จากสมัชชามวลชนพันธมิตรประชาชนฯ
ดังเช่นที่ขอฉันทามติตั้งพรรคการเมือง จากมวลชนพันธมิตรประชาชนฯ ในวันที่
25 พฤษภาคม 2552 ณ สนามกีฬามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เป็นต้น
ซึ่งทั้งสองวาระจะเป็นสาระสำคัญในการประชุมใหญ่แต่ละครั้ง
นอกจากนั้นจะมีวาระอื่น ๆ ตลอดจนวาระบันเทิง สังสรรค์
ของมวลสมาชิดสมัชชาพันธมิตรประชาชนฯ
ซึ่งขึ้นกับสถานการณ์ในการประชุมใหญ่แต่ละครั้งเช่นกัน

ภาระหน้าที่หลักของสมัชชามวลชนพันธมิตรประชาช เพื่อประชาธิปไตย ตัวอย่างเช่น
1.1 ร่วมกันคัดเลือกคณะกรรมการบริหารสภาพันธมิตรประชาชนฯ
1.2 ร่วมการให้ฉันทามติประเด็นใหญ่ ๆ แก่สภาพันธมิตรประชาชน เพื่อประชาธิปไตย
1.3 สมัชชามวลชนพันธมิตรประชาชนแต่ละจังหวัดลงคะแนนเลือกผู้แทนที่จะส่งลงสมัคร
รับเลือกตั้งในนามของ พรรคการเมืองของพันธมิตรประชาชนฯ
แต่ละเขตทั่วประเทศไทย
1.4 ร่วมกันตรวจสอบติดตามการบริหารงานของพรรคการเมือง

2. สภาพันธมิตรประชาชน เพื่อประชาธิปไตย ซึ่งจะเป็นแก่นแกนในการกำหนดภาระ
(Mission) กำหนดวิสัยทัศน์ (Vision) และกำหนดนโยบาย (Policy)
ซึ่งแนวทางในการกำหนดดังกล่าวข้างต้น
กรณีที่มีประเด็นสำคัญจะมีการขอฉันทามติจากสมัชชามวลชนพันธมิตรประชาชน
เพื่อประชาธิปไตย ก่อนที่จะมีการกำหนดเป็นแนวทางเพื่อการปฏิบัติต่อไป

นโยบาย ของพรรคการเมือง ของพันธมิตรประชาชนฯ
คณะกรรมการกำหนดและบริหารนโยบายจะคัดเลือกโดยคณะกรรมการบริหารสภาพันมิตร
ประชาชนฯ ซึ่งจะคัดเลือกมาจากผู้รอบรู้ ผู้ชำนาญ ผู้ทรงคุณวุฒิ
และมีประวัติที่ซื่อสัตย์สุจริตเพื่อร่างนโยบายแต่ละด้าน เช่น ด้านสังคม
ด้านเศรษฐกิจ ด้านการเมือง ด้านความมั่นคงของประเทศ และด้านการต่างประเทศ
ซึ่งนโยบายต่าง ๆ
ที่คณะกรรมการกำหนดและบริหารนโยบายร่างเรียบร้อยแล้วจะมีการนำเสนอ
คณะกรรมการบริหารสภาพันธมิตรประชาชน ฯ
และคณะกรรมการบริหารสภาพันธมิตรประชาชนฯ
จัดพิธีการแถลงนโยบายให้สมัชชามวลชนพันธมิตรประชาชนฯ
เพื่อมีฉันทามติเห็นชอบ
เป็นการยืนยันว่านโยบายของพรรคการเมืองมาจากประชาชนอย่างแท้จริง
และส่งต่อนโยบายให้แก่พรรคการเมืองเพื่อนำไปปฏิบัติให้เป็นรูปธรรมต่อไป

ภาระหน้าที่หลักของสภาพันธมิตรประชาชนฯ เพื่อประชาธิปไตย ตัวอย่างเช่น
2.1 เตรียมการจดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมือง และคัดเลือกคณะกรรการบริหารพรรคการเมือง
2.2 กำหนดภาระ (Mission) กำหนดวิสัยทัศน์ (Vision) และนโยบาย (Policy)
2.3 คัดเลือกคณะกรรมการกำหนดและบริหารนโยบาย
2.4 สนับสนุนสมัชชามวลชนพันธมิตรประชาชนฯ ฯ
ในการคัดเลือกผู้แทนแต่ละจังหวัดเพื่อสมัครรับเลือกตั้งเข้าสู่รัฐสภา
ในนามพรรคการเมืองของพันธมิตรประชาชนฯ
2.5 กำหนดแนวทางการบริหารพรรคการเมือง และส่งต่อ ภาระ วิสัยทัศน์ นโยบาย
ให้แก่ พรรคการเมือง
เพื่อให้ปฏิบัติตามแนวทางที่สมัชชามวลชนพันธมิตรประชาชนฯ เห็นชอบ
2.6 ประสานการเมืองภาคประชาชน (สมัชชามวลชนพันธมิตรประชาชน กับ
พรรคการเมืองเพื่อให้สามารถเชื่อมโยงกันได้เป็นหนึ่งเดียวกัน
2.7 วางแผนด้านการเงินและทรัพยากรบุคคลต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนพรรคการเมือง
และการเมืองภาคประชาชน

3. พรรคการเมืองของพันธมิตรประชาชน เพื่อประชาธิปไตย
ดำเนินงานการเมืองภาครัฐตามแนวนโยบายของสภาพันธมิตรประชาชฯ
โดยนำนโยบายด้านต่าง ๆ ทั้งด้านสังคม ด้านเศรษฐกิจ ด้านการเมือง
ด้านความมั่นคงของประเทศ ด้านการต่างประเทศ
ด้วยการแปลงนโยบายเป็นแผนปฏิบัติ (Action Plan)
และดำเนินการให้เป็นไปตามแผน (Implement)

ภาระหน้าที่หลักของพรรคการเมืองของพันธมิตรประชาชนฯ ตัวอย่างเช่น
3.1 ยึดมั่นในนโยบายที่ได้รับฉันทามติจากสมัชชามวลชนพันธมิตรประชาชน ฯ
และสภาพันธมิตร ประชาชนฯ ด้วยการบริหารนโยบายด้านต่าง ๆ อย่างเป็นรูปธรรม
เช่น กำหนดแผนงานกำหนดโครงการ
เพื่อเป็นแผนปฏิบัติสนับสนุนนโยบายแต่ละด้าน
ซึ่งนโยบายแต่ละด้านอาจจะมีหลาย ๆ โครงการ หลาย ๆ แผนงาน โดยโครงการ
แผนงาน นั้น ๆ ผลสุดท้ายต้องตอบโจทย์ได้ว่าสนองนโยบายด้านต่าง ๆ
ได้อย่างแท้จริง รวมทั้งแผนปฏิบัติต้องมีจุดปฏิบัติเริ่มต้น และ
จุดปฏิบัติเสร็จสิ้น
ประสบความสำเร็จได้ตามเป้าหมายบภายในระยะเวลาที่กำหนด (End to End
Process)
3.2 ยึดมั่นในอุดมการณ์ที่จะสร้างการเมืองใหม่
ให้เป็นไปตามปณิธานการก่อตั้งพรรคการเมือง ของพันธมิตรประชาชนฯ
3.3 ยึดมั่นในความซื่อสัตย์สุจริต ไม่หลุ่มหลงในลาภยศสรรเสริญ
และไม่ขายตัว ย้ายพรรค

จาก ตัวอย่างรูปแบบ (Model)
การบริหารการเมืองภาคประชาชนและการเมืองภาครัฐ
เป็นลักษณะการกำหนดโครงสร้างแบบเป็นระบบครบวงจร คือ
มีองค์ประกอบไตรภาคีเชื่อมโยงกันอย่างเหนี่ยวแน่น ได้แก่

1. สมัชชามวลชนพันธมิตรประชาชน เพื่อประชาธิปไตย
ซึ่งเป็นเสียงสวรรค์ในการนำพา
ประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้าด้วยมือของประชาชน
2. สภาพันธมิตรประชาชน เพื่อประชาธิปไตย ซึ่งเป็นตัวประสานระหว่างประชาชน
และพรรคการเมือง
3. พรรคการเมือง ซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนนโยบายนำการเมืองใหม่
ในมิติการเมืองภาครัฐ ให้เป็นไปตามฉันทะมติของประชาชน

จาก แนวทางรูปแบบเบื้องต้น (ซึ่งยังไม่ได้ลงรายละเอียด) ที่นำเสนอข้างต้น
เพื่อให้มองเห็นภาพความเป็นไปได้เพื่อมุ่งสู่การปฏิบัติจริง
ของการเมืองภาคประชาชนและการเมืองภาครัฐ เพื่อมุ่งสู่การเมืองใหม่

ประชาชน
25 พฤษภาคม 2552

++
ไม่อยากให้พรรคพันธมิตรได้คืบจะเอาศอก..แต่อยากให้พรรคพันธมิตรไปให้ถึงดวง
อาทิตย์ไม่ใช่ดวงจันทร์หรือดวงดาว..เพราะเราหวังว่าจะได้รับความเป็นธรรม..
แต่สิ่งที่ได้รับ..คนผิดก็ยังไม่ต้องรับผลของความผิด..ยังอยู่สุขสบายกันดี
อยู่..แม้แต่นายกอภิสิทธิ์ถึงจะเป็นคนดี..แต่เหมือนไร้แขนไร้ขาต้องอาศัย
พรรคร่วมที่ส่อถึงความไม่จริงใจในการบริหารบ้านเมืองและผลที่ออกมาก็กอบโกย
ผลประโยชน์ใส่ตัวโดยไม่คิดถึงผลเสียต่อส่วนรวมและบ้านเมือง..เราจึงต้อง
เริ่มตั้งพรรคเพื่อการเมืองใหม่และร่วมสรรหานักการเมืองที่มีคุณธรรมเสียสละ
ตั้งใจช่วยประชาชนและบ้านเมืองคืนความเป็นธรรมสู่สังคมและประเทศชาติ..ดัง
นั้นสนับสนุนการจัดตั้งพรรคพันธมิตรและสนับสนุนแกนนำทุกท่านทุกรุ่นทุกคนและ
พี่น้องที่มีความสามารถร่วมมือร่วมใจและกำลังกายกำลังทรัพย์ตามความสามารถ
ของแต่ละคนเหมือนที่เราเคยร่วมกันมา..และไม่ต้องกังวลต่อการรับตำแหน่ง..ควร
รับทุกตำแหน่งที่สามารถรับได้หากมีความสามารถที่จะบริหารให้เกิดผลดี..อย่า
มัวเกรงใจกันจะตันในทรวงเหมือนทุกวันนี้..ต้องมองตาปริบๆจะทำอะไรก็ไม่มี
อำนาจ..คนมีอำนาจก็ไม่ทำ..จะช่วยประชาชนได้ทุกระดับและทุกภาคส่วนต้องขึ้นไป
สู่อำนาจที่สูงสุดและมีฐานพี่น้องบุกลุยช่วยเหลือแก้ไขสิ่งผิดทุกภาคส่วน..
เพราะพันธมิตรกล้าทำกล้าต่อสู้เรามากินมานอนตามท้องถนนเพื่อขับไล่ทักษิณ
ทั้งๆที่เสี่ยงต่อชีวิตของทุกคน..พวกเรารักความเป็นธรรมจึงมารวมกันเป็น
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย..เรารอความเป็นธรรมมานาน..เราได้นายก
อภิสิทธิ์ที่เป็นคนดี..และเราเห็นนายกหวุดหวิดตาย..เราเห็นการสกัดกั้นการทำ
งานของนายกอภิสิทธิ์แทนการสนับสนุนในการบริหารงานเพื่อประเทศชาติ..แม้แต่
วันนี้เราก็เห็นการบกพร่องของสื่อรัฐในการถ่ายทอดสดของรถโอบีที่ถ่ายทอดสด
งานนายกไม่ได้ 45
นาที..มันมีอะไรหรือใครที่เป็นหนอนในสื่อรัฐ..ดังนั้นจึงอยากให้คห.7มองให้
ออกว่าใครกันที่มีมลทิน..ใครกันที่ไม่จริงใจ..ใครกันแน่ที่กอบโกยทรัพย์แผ่น
ดิน..ใครกันเอาเปรียบประชาชน..ใครกันโกงของหลวง..อุดมการณ์ที่ดีจะเป็นจริง
ต้องลงมือทำ..พันธมิตรเริ่มต้นในวันนี้เพื่ออบรมสั่งสมคุณงามความดีให้เกิด
ในใจในสมองของเด็กในวันนี้เพื่อจะเป็นนักการเมืองที่ดีในวันหน้า..รัฐ
ธรรมนูญจะได้ไม่ต้องเป็นตุ๊กตาล้มลุก..คนชั่วครองเมืองจนต้องเกิดวีรชนคน
กล้าลุกขึ้นมาขับไล่..จนทำให้คนชั่วถล่มตายและคนชั่วไม่ต้องรับผิดอย่างทุก
วันนี้..เรารอ..รอ..รอ.จนคุณสนธิถูกถล่ม..สุดท้ายพันธมิตรต้องลุกขึ้นมาลง
ความเห็นในการตั้งพรรคเพื่อเป็นการเปิดประตูเข้าไปต่อสู้ในสภา..เพื่อความ
หวังลบล้างนักกินเมืองที่โสโครก..เปรียบเหมือนถ้าเดินได้ก็ควรเดินอย่าเอา
แต่นอน..เพราะจะไม่ถึงจุดหมายปลายทาง..อย่าอ้างร้อน..อ้างฝน..อ้างหนาว..
อย่ากลัวคนติฉินนินทา..อย่ากลัวคนดึงแข้งดึงขา..อย่ากลัวคนอ้างโน่นอ้างนี่
..จะดีจะชั่วอยู่ที่การกระทำของตนเอง..ไม่ได้อยู่ที่การคิดหรือการพูดของใคร
o
++
๑) พระพุทธองค์ (ธรรมราชา) ทรงมี สิ่งสูงสุดกว่าพระองค์ คือ ธรรม
ที่ทรงตรัสรู้ชอบด้วยพระองค์เอง.....ใช่ไหม?

(๒) ธรรม -วินัย ที่ตถาคตแสดงบัญญัติไว้ดีแล้ว
จักเป็นศาสดาของพวกเธอ..... มหาปรินิพพานสูตร

ทำไม ไม่ช่วยกัน สร้าง
กฎบัตรพรรคพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
(อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ...อย่าลืม)

เป็น สิ่งสูงสุด

ที่พันธมิตรทั้งปวง รวมทั้ง แกนนำ ๕ +๑ ด้วย นั่นแหละ
ต้อง เคารพ ทำตาม

ทั้งในภาคประชาธิปไตยข้างถนน และ ภาคประชาธิปไตยรัฐสภา ละ

ข่ม ขี่ (เพราะสมควรข่มขี่ ก่อน สมานฉันท์) ระบบพรรคการเมืองเก่า
โดยเฉพาะ ระบบทักษิณ โดยเอา ความถูกต้องคือ ธรรมะ (อันเป็นสากล) นำหน้า
คือ
สัปปุริส ธรรม ๗ + โพชฌงค์ ๗ ประยุกต์ คือ องค์แห่งการ รู้พร้อมเฉพาะ
(ตรัสรู้ภาคโลกียธรรม) ว่า...การเมืองใหม่ แบบ change ต้องแบบนี้ๆ
..แน่นอน ต้องมี แกนนำ เป็น พระครู พี่เลี้ยง ฯลฯ

ชีวิตสั้น ศิลปะ(การปกครองประเทศระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
+ ระบบเศรษบกิจพอเพียง +ระบบรัฐสภา แบบ เอาธรรมะนำหน้า โดยมี
พรรคของมหาประชาชน ที่มี ธรรมเป็น หัวหน้าพรรคที่ ใครก็ฆ่าไม่ตาย)ยืนยาว

เสนอแด่คุณสนธิ และแกนนำ ครับ
naimai
++
ภารกิจของพันธมิตร คือมุ่งหวังที่จะให้ประเทศไทยมีการเมืองใหม่
และต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อประโยชน์
และฟอกความผิดให้กับนักการเมืองกันเอง
ทั้ง สองประเด็น ยังไม่บรรลุ คงไม่รอความหวังจากพรรค ปชป.
เนื่องจากไม่มีกำลังเพียงพอ และยังมีนักการเมืองเก่าอยู่เป็นจำนวนมาก
การตั้งพรรค เป็นกิจกรรมอย่างหนึ่งที่จะช่วยผลักดันให้บรรลุเป้าหมายได้เร็วขึ้น
ขอสนับสนุนให้มีพรรคการเมืองครับ
พันธมิตร กทม.
++

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น