++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันศุกร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2557

อยากอยู่ถึง 100 ปี ต้องเริ่มต้นทำเดี๋ยวนี้ !!

อยากอยู่ถึง 100 ปี ต้องเริ่มต้นทำเดี๋ยวนี้ !!
1. อารมณ์ดีเสมอ

สิ่งสำคัญที่สุดที่จะทำให้มีชีวิตยืนยาวได้ถึง 100 ปี คือ ต้องตระหนักรู้ว่าสิ่งภายนอกมีผลกระทบต่อจิตใจ อารมณ์ขณะนั้นเป็นตัวสร้างสถานการณ์ คนที่เข้าใจตรรกะนี้จะดำเนินชีวิตได้อย่างราบรื่น ปราศจากความเครียด และไม่ตกเป็นเหยื่อของสถานการณ์ภายนอก

2. ทำอาหารทานเอง

การทำอาหารรับประทานเอง ทำให้เราเลือกวัตถุดิบที่นำมาปรุงได้ ต้องปราศจากสารกันบูด และไม่มีน้ำตาลหรือเกลือมากเกินควร จะดีไปกว่านั้นหากเป็นพืชผักที่คุณปลูกไว้ทานเอง เพราะเมื่อเก็บมาสดๆ จะอุดมด้วยธาตุอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระและวิตามิน คืนความเยาว์วัยให้สมองและร่างกาย

3. ทำงานที่รักและถนัด

ถ้าเลือกได้ จงทำงานที่รักและมีความถนัด เพราะไม่มีอะไรที่ทำให้ดูแก่เร็วไปกว่าการต้องทนทำงานที่ไม่ได้ชอบ หรือไม่ได้ใช้ความรู้ความสามารถที่มีอย่างเต็มที่ แต่ก็ไม่จำเป็นต้องลาออกจากงานที่ทำอยู่ เพียงแค่หาหนทางนำจุดแข็งที่มีมาใช้และกำจัดจุดอ่อน แล้วจะเห็นว่า ยิ่งเปลี่ยนแปลงมากเท่าไหร่ ยิ่งทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์มากเท่านั้น

4. เคลื่อนไหวร่างกายอยู่เสมอ

มีงานวิจัยระบุว่า คนที่ออกกำลังกายพื้นฐานเป็นประจำ เช่น เดินสัปดาห์ละ 3-5 ครั้ง จะมีชีวิตยืนยาวกว่าผู้ที่ไม่ค่อยเคลื่อนไหวร่างกาย โดยเฉพาะในคนสูงอายุที่ไม่ยอมขยับเขยื้อน

หากคุณยังคงกระฉับกระเฉง ควบคุมน้ำหนักให้พอดีกับเพศ อายุ และความสูง ก็จะทำให้อวัยวะต่างๆทำงานได้ดี ไม่ต้องกินยารักษาโรค และใช้ชีวิตอย่างมีความสุข

เพราะปัญหาสุขภาพของคนยุคนี้ ส่วนใหญ่เกี่ยวเนื่องกับวิถีการดำเนินชีวิต การมีสุขภาพดี จะทำให้บุคคลนั้นเกิดความรู้สึกดีไปด้วย และยิ่งรู้สึกดีมากเท่าไหร่ จะทำให้อายุยืนมากขึ้นเท่านั้น

5. ดื่มน้ำเยอะๆ

น้ำมีประโยชน์ต่อร่างกาย คุณควรดื่มน้ำวันละ 2 ลิตรหรือ 8 แก้ว และจะยิ่งดี หากคุณเลือกดื่มน้ำเปล่าแทนเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์หรือน้ำตาล เพราะจะช่วยให้ร่างกายสดชื่น มีอายุยืนถึง 100 ปีได้อย่างสบายๆ

6. โยนความเครียดทิ้งไป

อย่าเก็บความรู้สึกเครียดวิตกกังวลไว้กับตัวเองตลอดเวลา ต้องหาทางระบายออกเสียบ้าง เพราะถือเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องรู้จักจัดการกับความเครียดซึ่งมีผลกระทบต่อหัวใจ

เมื่อเร็วๆนี้มีงานวิจัยชี้ว่า ผู้หญิงที่อายุต่ำกว่า 50 ปีและผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน ที่มีปัญหาเรื่องความวิตกกังวล มีความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจเพิ่มมากขึ้น

7. กินอาหารทะเล

ประเทศไทยนับว่าโชคดีที่มีอาหารทะเลให้รับประทานตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นกุ้ง หอย ปู ปลา อาหารทะเลอุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมกา-3 ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อโครงสร้างและการทำงานของสมอง รวมถึงสุขภาพองค์รวมในทุกๆวัย

8. ลองทำสิ่งใหม่ๆ

ความหลากหลายเป็นตัวเพิ่มรสชาติให้ชีวิต และเมื่อคุณให้โอกาสตัวเอง สมองก็สามารถเรียนรู้ไปเรื่อยๆ แม้จะมีอายุ 100 ปีแล้วก็ตาม

หากเปิดรับสิ่งใหม่ๆเข้ามาในชีวิต จะทำให้สมองตื่นตัว เช่น ปกติถนัดมือขวา ให้ลองเปลี่ยนเป็นใช้มือซ้ายหยิบจับสิ่งของหรือทำภารกิจประจำวันเป็นครั้งคราว วิธีนี้จะช่วยกระตุ้นสมองให้เตรียมพร้อมอยู่เสมอ

เพราะเมื่อทำแต่สิ่งเดิมๆ สมองจะเชื่อยชา และหากปล่อยไปเรื่อยๆ ก็ยากที่จะกลับมาตื่นตัวอีกครั้ง

9. ทำสมาธิ

ความเครียดเป็นสิ่งที่สะสมได้ เช่นเดียวกับความสงบในจิตใจ การใช้ชีวิตของคนเรา ก็เหมือนการขับขี่รถยนต์ หากคุณไม่แวะเติมน้ำมันบ้างตลอดเส้นทาง เมื่อน้ำมันในถังหมด รถก็จะวิ่งไม่ได้ ชีวิตก็เช่นกันที่นอกจากจะต้องกินอาหารเพื่อให้มีเรี่ยวแรงแล้ว ยังต้องดูแลจิตใจให้อยู่ในสภาพที่ดีด้วย

ลองหาเวลาสวดมนต์ ทำสมาธิ ฝึกหายใจ หรืออะไรก็ได้ที่ทำให้รู้สึกสงบและเกิดภาวะสมดุลของร่างกายและจิตใจ คุณจะรู้สึกได้ถึงความเครียดที่เริ่มจางหายไป ความสงบจะเข้ามาแทนที่ ซึ่งเมื่อทำเป็นประจำทุกวัน ไม่เพียงทำให้มีความสุขสงบ หากแต่อายุจะยืนยาวขึ้นด้วย

10. ยืนตัวตรงอย่างสง่าผ่าเผย

เมื่อเราอยู่ในท่าที่ไม่ถูกหลักสรีระนานๆ กระดูกอาจหักได้ จึงควรหันมาออกกำลังกายด้วยการวิ่งเท้าเปล่าเป็นครั้งคราว หรือออกกำลังกายแบบใช้แรงต้านง่ายๆ เช่น การยกดัมบ์เบล ที่สามารถทำที่โต๊ะทำงานหรือที่บ้านได้ ซึ่งจะช่วยให้ดูสมาร์ท อกผาย ไหล่ผึ่ง

หรือจะรำมวยไท้เก็ก ที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ข้อต่อไม่ติดขัด ทำให้เคลื่อนไหวสะดวก และทรงตัวได้ดี เมื่อฝึกเป็นประจำ จะส่งผลดีต่อสุขภาพกายและใจ

11. คิดบวก

พลังความคิดด้านบวกจะช่วยเยียวยา กระตุ้นให้เกิดพลังกายพลังใจ มีความคิดสร้างสรรค์ ส่งผลให้มีความสุขในชีวิต สิ่งที่เราบอกกับตัวเองและได้ฟังจากคนอื่น ล้วนมีผลต่อการดำเนินชีวิตของเรา ทั้งทางด้านร่างกาย ความคิด และจิตวิญญาณ ซึ่งจะทำให้อายุยืนยาวถึง 100 ปีเลยทีเดียว

12. ฝึกสมองลองปัญญา

เมื่อถามคนทั่วไปว่า อยากมีอายุยืนยาวแค่ไหน พวกเขามักตอบว่า “ตราบเท่าที่ยังมีความสุขใจ”

เพราะพื้นฐานสำคัญของการมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอยู่กับการมีสุขภาพสมองที่ดี จึงควรจำกัดการทำงานหลายอย่างในเวลาเดียวกัน เพราะมันจะส่งผลลบต่อจิตใจ ทำให้สมองล้ามากขึ้น และเครียดมากขึ้น

รวมทั้งต้องหลีกเลี่ยงการกระทำแบบเดิมๆ เพราะสมองจำเป็นต้องถูกกระตุ้นเรื่อยๆ เพื่อสร้างการเชื่อมต่อใยสมองในรูปแบบใหม่ๆ เป็นการพัฒนาเครือข่ายเส้นใยสมอง ช่วยในการแก้ปัญหาหรือคิดหาหนทางตอบโต้ ดังนั้น การจัดการด้วยการคิดไตร่ตรองอย่างลึกซึ้ง คือส่วนประกอบสำคัญที่ช่วยทำให้สมองมีสุขภาพ ดีนั่นเอง

(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 136 เมษายน 2555 โดย พิสุทธิ์)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น