++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพุธที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2557

แท็กซี่อันตราย : คำเตือน

ต้อง อ่าน!!!! อยากเตือนเพื่อนๆๆๆ โดยเฉพาะเพื่อนผู้หญิง !!!
8 ธันวาคม เขตคลองเตย เมื่อสักประมาณทุ่มเศษๆเราเรียกรถแท็กซี่เพื่อกลับบ้าน หน้าSCB park plaza ไปส่งกลับบ้านแถวคลองเตย แต่เรียกรถคันแรกไม่ไป (ผู้หญิง) บอกส่งรถไม่ทัน มาเจอคันต่อมา เป็นคนแก่ผมหงอก อายุ น่าจะห้าสิบกว่าได้ เราขึ้นรถมาพร้อมสัมภาระที่ต้องนำกลับบ้าน กล่องใหญ่กล่องหนึ่ง หลังจากโบกตกลงไปก็ขนของขึ้นหน้ารถด้วยกัน เรานั่งข้างหลังเยื้องคนขับ บนรถมีพระทรงเครื่องห้อยเต็มกระจกมองหลังเต็มไปหมด และคอนโซลรถข้างหน้าก็มีพระวางเต็ม คนขับเปิดซีดีธรรมะฟัง ตอนแรกเราไม่กะฟัง แต่พอดีไม่มีหูฟังเพลงส่วนตัวเลยนั่งฟังไปด้วยอย่างเพลิดเพลินและตั้งใจฟัง ตลกขบขันกับมุกในคำบรรยายเล่าเรื่องธรรมะนั้นไปด้วย แต่เราสังเกตว่าคนขับไม่มีวี่แววตลกขบขันด้วยสักนิด แต่กลับชะงักเล็กน้อยเมื่อได้ยินเราหัวเราะหึๆออกมาบ่อยๆ เราก็ไม่ได้สนใจอะไรแค่คิดว่าเค้าคงฟังบ่อย แอร์เย็นพอประมาณทั่วรถแต่ลมแรงมาก เราเริ่มง่วง!! ก็ไม่แปลกอะไร ปกติเป็นคนชอบนอนหลับบนรถ(เมล) แต่สันนี้ง่วงบนแท็กซี่ เพราะลมกำลังเย็น ธรรมะบรรยายเบาบ้างบ้างดังบ้างตามจังหวะของเนื้อเรื่อง ในใจแอบคิดและสังเกตคนขับว่าเค้าจะหยิบน้ำมาดื่มไหม เราจะปากแห้งคอแห้งหิวน้ำไหม แต่ก็ไม่ เราเริ่มง่วงมากขึ้น ตาจะปิดให้ได้ ในใจคิดว่าถ้าจะหลับคงไม่เป็นไร คนขับก็ดูธรรมะธัมโม แต่พอเริ่มสะลึมสะลือหลายรอบ สังเกตเห็นว่าคนขับเหลือบมามองเสี้ยวหน้าเวลาที่เราพยายามจะลืมตาสะลึมสะลือ และก็เห็นเค้าเคี้ยวไรบางอย่างเบาๆ ก็ไม่ได้แสดงท่าทีตกใจอะไร แต่ตัดสินใจเอามือถือ(บริษัท) ขึ้นมาไลน์หา เพื่อนสนิทบอกมันไว้สักหน่อยว่าอยู่บนแท็กซี่และง่วงมาก ปกติเพื่อนเราไม่อ่านไลน์ นานๆมาอ่านที เราก็ไม่ได้สนใจไร เก็บมือถือไป สักแปปเพื่อนโทรมาถามว่าอยู่บนแท็กซี่หรอ ทำไมง่วง ง่วงเองหรือเพราะยา เราก็บอกไปว่าสงสัยเป็นเองมั้ง เพื่อนบอก เอองั้นถึงบ้านและไลน์มาบอกด้วย เราก็เออ.. พอวางโทรศัพท์ไป เราเอามือถือขึ้นมาพิมพ์ต่อแก้ง่วง เห็นไลน์เพื่อนตอบมาจากที่พิมเมื่อกี้ ว่าง่วงเอง หรือเพราะยา ลงเหอะ เราเลยตอบว่าไม่น่าจะมีไร คนขับดูธรรมะ เปิดธรรมะ สักแปปเพื่อนโทรมาเลย บอก ลงเลย ลงเดี๋ยวนี้เลย ! เราก็ยังดื้อแพร่ง แต่อยู่ๆตอนนั้นใจเริ่มสั่น สั่นมากๆ แขนสั่นด้วย หน้าเริ่มชานิดๆ ตอนแรกกะจะไม่ลงเพราะคิดว่าน่าจะใกล้ถึงบ้านแล้วแต่พอเป็นอย่างนั้นเลือก เชื่อเพื่อน บอกแท็กซี่ว่าจอดตรงนี้เลยค่ะ แท็กซี่ถามเสียงดังเล็กน้อย ทำไมอ่ะ?! เรายถามว่านี่เอกมัยแล้วใช่ไหม เค้ารีบบอกว่าใช่! เราบอกว่าพอดีเพื่อนมาแล้วนัดเพื่อนไว้ เค้ายยอมจอด ตอนนั้นเรามือสั่นมาก ใจสั่น ทีแรกคิดว่าเพราะตื่นเต้นหรือเพราะความกลัวแต่ไปๆมาๆชักไม่ใช่แล้ว เรารีบหยิบเงินผิดๆถูกๆยื่นให้คนขับ ตอนทอนก็ทอนเงินลีลามาก ใจภาวนาอยากรีบๆลงจากรถ เรารีบเปิดประตูผลัวะ ออกไปก่อนที่คนขับจะทอนเงินเสร็จดี รีบคว้าข้าวของและหอบตัวเอง(พร้อมส้นเตารีด)ออกมา!! ยืนหน้าชาใจสั่นขาสั่นแขนสั่นอยู่ข้างถนน พร้อมกับพูดกะเพื่อนว่าลงรถมาแล้ว เพื่อนบอกว่ามึงเจอไอคนเดียวกับที่พี่ที่ทำงานเคยเจอ ตอนแรกคิดว่ามึงง่วงเองแต่พอได้ยินคำว่าธรรมะเท่านั้นแหละ เพื่อนเลยรีบให้ลง มันหากินแถวหน้าSCB เราไม่รู้ ไอกลัวก็กลัวแต่มันน่าจะเกิดอาการสั่นและง่วงจากฤทธิ์ยา อยากให้ช่วยแชร์เรื่องนี้ เพราะตอนผิดสังเกตมันเกิดตั้งแต่เราพยายามจะพิมพ์บอกเพื่อนว่าขึ้นรถทะเบียน อะไรมา กระจกข้างทั้งสองที่ปกติกระจกหลังของผู้โดยสาย มีกระจกเล็กและใหญ่ ส่วนกระจกเล็กนั้นถูกปิดทึบด้วยสติ๊กเกอร์สีดำ ทั้งสองฝั่ง คือถ้านั่งพิงเบาะจะไม่สามารถเห็นผู้โดยสารจากภายนอกได้ และตรงป้ายทะเบียนรถนั้น ทม58_6 เลขหายไปตัวนึงอย่างบังเอิญ!!(หรอ) เหมือนโดนอะไรป้ายออกไป เราเลยเหลือบมองอีกฝั่งประตู โชคดีมากที่เลขฝั่งนั้นอยู่ครบ!! "ทม5876" รถแท็กซี่สีเหลือง มีพระเครื่องห้อยเต็มกระจกมองหลังและวางเต็มคอยโซลหน้ารถ!! เปิดธรรมะ ไว้หลอกผู้โดยสารว่าเป็นคนดี ใครกำลังขึ้นแท็กซี่ได้โปรดระวังตัว!! เหจุการณ์เพิางเกิดขึ้นวันนี้ 08.12.2014!! ราวทุ่มเศษ ได้โปรด แชร์เรื่องนี้ออกไป !! เราไม่กล้าแจ้งความเพราะยังไม่ได้ถูกทำร้ายอะไร แต่ณ ตอนนี้ยังมีอาการปากชาเล็กน้อย เรากลับถึงบ้านปลอดภัยแล้วเพราะนั่งแท็กซี่อย่างหวาดระแวงต่อมาอีกคัน!! อย่าให้คุณหรือคนรอบตัวขอวคุณต้องเป็นเหยื่อรายต่อไป!!! เราอาจไม่ได้สูญเสียแค่ทรัพย์สินแต่มันอาจหมายถึงชีวิตของลูกผู้หญิงคนนึง!!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น