++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพุธที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2555

เคล็ดไม่ลับ กับการเที่ยวลุยๆ แบบ “ออฟโรด”




     การท่องเที่ยวนั้น มีหลากหลายรูปแบบ แต่ละคนคงมีไลฟ์สไตล์เป็นของตัวเองในการเดินทางไปท่องเที่ยว แต่สำหรับหลายๆ คนที่มีความชื่นชอบสไตล์การท่องเที่ยวในแบบท้าทาย และเล้าใจ ก็คงจะหนีไม่พ้นการท่องเที่ยวในสไตล์แบบ “ออฟโรด” ที่หลายๆคนคงจะคุ้นหู นั้นก็เป็นอีกความชอบของการท่องเที่ยวของใครหลายคน
     
       คำว่า “ออฟโรด” นั้น ไม่มีความหมายเฉพาะเจาะจง แต่ในนิยามของใครหลายคน คือ การท่องเที่ยวในสถานที่ที่ท้าทายในการเดินทางที่ยากเข้าไปถึง พาหนะที่เหมาะสมสำหรับการเดินทาง จะพาเราผ่านเส้นทางที่ยากลำบากนี้เข้าไปสู่ที่หมายคงจะหนีไม่พ้น “รถยนต์” ทั้งรถขับเคลื่อน 4 ล้อ (โฟร์วีล) และ 2 ล้อสมรรถนะดี (เส้นทางโหดน้อย) และกระบะยกล้อสูง เสริมล้อใหญ่ที่หลายคนคงคุ้นชินตา คงจะเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับในการเดินทางไปท่องเที่ยวในไลฟ์สไตส์แบบนี้


บรรยากาศอำเภอสวนผึ้ง

       แต่รถนั้นก็เป็นเพียงแค่ตัวช่วยในการฝ่าฟันเส้นทางอันยากลำบากที่เหล่าสาวกออฟโรดชื่นชอบนั้น การที่เราจะไปสู่จุดหมายได้ เทคนิคการขับขี่ก็เป็นส่วนสำคัญและเป็นตัวช่วยให้ไปสู่ที่หมายอย่างปลอดภัย เราจึงมีคำแนะนำและเคล็ดลับในการ เตรียมความพร้อมก่อนออกเดินทางท่องเที่ยว มาแนะนำ
     
       ฟอร์ด เรนเจอร์ จึงได้จัดอบรมเรียนรู้เทคนิคการขับขี่ในแบบ “ออฟโรด” ที่สนามฝึก ปาร์ค ราน์ช อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี เพื่อเพิ่มทักษะและเรียนรู้การขับขี่ แก่ผู้ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวแบบออฟโรด โดยทางฟอร์ด เรนเจอร์ได้จัดรถฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ให้แก่ผู้อบรมได้ลองหัดขับในสนามด้วย


คุณสเถียร แสงสินทรัพย์ วิทยากรประจำ ปาร์ค ราน์ช

       เสถียร แสงสินทรัพย์ วิทยากรประจำ ปาร์ค ราน์ช ได้ให้คำแนะนำเทคนิคในการขับขี่แบบ ออฟโรด ดังนี้ เริ่มต้นด้วยการเช็กสภาพรถ ตรวจเกียร์ทุกครั้ง พร้อมจัดท่านั่งให้เหมาะสม เพื่อความสะดวกและปลอดภัย การจับพวงมาลัยควรจับในตำแหน่ง 9-3,10-2 นาฬิกา และไม่ควรที่จะสอดนิ้วมืออยู่ในพวกมาลัยในตำแหน่ง 9-3,10-2 นาฬิกา เพราะเวลาได้รับแรงกระแทกนิ้วอาจหักบนเส้นทางที่วิบากได้
     
       ในการขับขี่บนทางทราย ควรมีการปล่อยลมยางให้อ่อนๆ ประมาณ 15-18 ปอนด์ เพื่อเพิ่มพื้นที่สัมผัสของยาง และในส่วนของการขับผ่านน้ำ ควรมีการวสังเกตดูความลึกของน้ำก่อน ใช้เกียร์ต่ำในการขับขี่และปิดระบบแอร์และเปิดกระจก และในการขับผ่านไปนั้น พยายามอย่าให้เครื่องยนต์ดับ ขับอย่างช้า และหมั่นแตะเบรกเป็นจังหวะเพื่อไล่ความชื้นออกจากระบบเบรก


สถานการณ์ลุยเส้นทางวิบาก

       การขับขึ้นเนินต่างๆ นั้น ให้ศึกษาความเอียงของถนนก่อน ใช้เกียร์ต่ำ และเคลื่อนที่ไปอย่างช้าๆ พยายามใช้รอบเครื่องนิ่งๆ จับพวงมาลัยให้มั่นคงและระวังเรื่องสูงต่ำใต้ท้องรถ และเมื่อเจอร่องหรือหลุม ให้ระวังเรื่องมุมปะทะและมุมจาก พยามวางล้อให้ได้ 3 ล้อ เพื่อให้แต่ละล้อมีแรง
     
       ในสถานการณ์เส้นทางขรุขระ หรือเป็นโคลน ควรใช้ด้านขวาพิงผนังไว้ เพื่อสร้างความหนืดให้กับคันเร่ง ในขณะที่ขับขี่ผ่านโคลน ควรหมุนพวงมาลัย สลับกันซ้าย-ขวา อย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยในการทรงตัวและควบคุมรถเมื่อเจอกับ เหตุการณ์การติดหล่มซึ่งมีกรวดหินเล็ก ไม่ควรเร่งเครื่องเพื่อให้ล้อฟรี ไม่ใช่วิธีที่ถูก เพราะเศษหินจะเข้าไปยังช่องระหว่างล้อและทำให้ล้อแตกหรือาจจะทำให้ช่วงล่างชำรุดได้ และระวังหินบาดแก้มยาง
     
       นี่ก็เป็นเทคนิค สำหรับการใช้รถยนต์ในการท่องเที่ยวในแบบออฟโรด แต่ทักษะเหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งในการเดินทาง เพราะประสบการณ์จริงเราไม่สามารถรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราจึงต้องขับอย่างไม่ประมาท มีสติ และสมรรถนะของรถ ก็เป็นอีกส่วน ที่จะนำเราไปสู่จุดหมายอย่างปลอดภัย ทำให้เราได้สนุกกับสไตล์การท่องเที่ยวในแบบ “ออฟโรด”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น