++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันศุกร์ที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2555

สอนลูกเรียน อย่างเทพ เคล็ดลับจาก "พระ ว.วชิรเมธี"

สอนลูกเรียน อย่างเทพ เคล็ดลับจาก "พระ ว.วชิรเมธี"



ด้วยค่านิยม และชีวิตการทำงานของคนในสังคม ทำให้ "ความเก่ง" เป็นสิ่งที่พ่อแม่หลายท่านอยากให้เกิดกับลูก

แต่สำหรับพ่อแม่บางคน คงต้องยอมรับด้วยว่า ความเก่งไม่ได้เกิดกับเด็กทุกคนเสมอไป

ดังนั้นแทนที่จะไปกดดัน หรือคาดหวังในตัวลูก ลองค่อย ๆ สอน และหาแนวทางให้ลูกจับเคล็ดการเรียนให้เป็น

วันนี้ ทีมงาน Life and Family มีเคล็ดตัวช่วยจากประสบการณ์ตรงของ พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี หรือ ว.วชิรเมธี ผู้อำนวยการสถาบันวิมุตยาลัย

มานำเสนอเป็นแนวทางให้พ่อแม่ได้ใช้ฝึกลูกเก่งอย่างเซียน เรียนอย่างเทพกัน เริ่มจาก

ฟังให้มาก อ่านให้เยอะ ถามให้เก่ง

"คนฉลาดฟังข่าว คนง้าว (โง่) ฟังเพลง" ประโยคนี้ เป็นสิ่งที่โยมแม่ของพระมหาวุฒิชัย คิดขึ้นมา เพื่อสอนให้ลูกรู้จักฟังให้มาก

เพราะการฟัง หรือสุตะ เป็นส่วนหนึ่งของหัวใจนักปราชญ์ ซึ่งไม่เพียงแต่ฟังอย่างเดียวเท่านั้น

ต้องดู และอ่านไปพร้อม ๆ กันด้วย เป็นการสั่งสมข้อมูล และความเชี่ยวชาญในตัวเด็กได้ดีอย่างหนึ่ง

"พระอาจารย์เติบโตโดยมีแม่ตื่นตีห้าทุกวัน พอถึง 6 โมงเช้า เราก็จะได้ฟังข่าว

พอไปโรงเรียน เวลาครูถามปัญหาอะไรในบ้านเมือง พระอาจารย์ตอบได้หมด เพราะอะไร เพราะพระอาจารย์ฟังกับแม่ทุกวัน ซึ่งบางครั้งที่เราอยากฟังเพลง แต่มีจะฟังข่าว

แม่จึงสร้างคำขวัญขึ้นมาว่า คนฉลาดฟังข่าว คนง้าว (โง่) ฟังเพลง"

พระมหาวุฒิชัยเล่าชีวิตที่เติบโตมา พร้อมกับการฟัง (วิทยุ) กับแม่

ดังนั้น พ่อแม่ท่านใดที่อยากให้ลูกเรียนอย่างเทพ การฟัง และการอ่านเป็นสิ่งสำคัญ

การฝึกให้ลูกรู้จักฟังข่าว หรือฟังเรื่องที่เป็นสาระ พร้อม ๆ กับอ่านหนังสือให้ลูกฟัง หรืออ่านร่วมกัน จะทำให้ลูก มีคลังข้อมูลสั่งสมไว้ใช้ในอนาคตจำนวนมาก

รวมไปถึงการฝึกให้ลูกกล้าถามในเรื่องที่ควรถาม จะนำไปสู่การค้นหาคำตอบ และทำให้ลูกรู้จักแสวงหาความรู้ได้ด้วยตัวเอง

หนังสือพูดได้

บ้านไหนที่ลูกอ่านหนังสือเรียนเท่าไร ก็จำไม่ได้เสียที ลองใช้วิธีของพระนักคิดท่านนี้ดู ซึ่งเป็นการนำเอาเทคโนโยลีมาใช้ให้เกิดประโยชน์

โดยเฉพาะเครื่องอัดเสียงที่สมัยก่อน ท่านจะเลือกใช้ร่วมกับการอ่านหนังสือ และอัดเป็นเสียงเก็บไว้ เปิดฟังทำความเข้าใจในยามว่าง ซึ่งค่อนข้างได้ผลดีมาก

ดังนั้น เมื่อลูกท้อเพราะอ่านหนังสือไม่เข้าใจ หรืออ่านไม่รู้เรื่อง ลองให้อ่านออกเสียง และอัดด้วยเครื่องอัดเสียง เก็บไว้เป็นบทเรียนกันดู

ซึ่งสมัยนี้ มีสื่อที่เอื้อ ต่อการนำมาประยุกต์ กับการเรียน เป็นจำนวนมาก

หนานักก็ทำให้บาง

ปฏิเสธไม่ได้ว่า ด้วยความหนาของหนังสือ เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เด็กท้อ และไม่อยากอ่านไปโดยปริยาย

โดยเฉพาะบางเล่มที่หนาเป็นร้อย ๆ หน้า พอจะหยิบมาอ่านเพื่อทบทวนบทเรียน เป็นอันต้องทำใจก่อนทุกครั้ง



เช่นเดียวกับ พระว.วชิรเมธี เวลาต้องที่ต้องอ่านหนังสือเล่มหนา ๆ มีจำนวนมากหน้า ซึ่งมีบ้างที่จะรู้สึกท้อ และไม่อยากอ่าน

แต่ท่านจะใช้วิธีชำแหละหนังสือให้เหลือเป็นบท ๆ เพื่อให้ความหนาบางลง ทำให้น่าอ่านมากขึ้น



ดังนั้น พ่อแม่ที่เห็นลูกท้อ ไม่อยากอ่านหนังสือเรียน ลองสังเกตดูว่า หนังสือที่ลูกอ่านเล่มหนาหรือไม่

ถ้าหนา ลองนำวิธีของพระนักคิดไปใช้กันดู โดยอาจจะถ่ายเอกสารบทเรียน แล้วแยกเป็นบท ๆ เพื่อให้ดูอ่านง่าย

วิธีนี้เชื่อว่า เด็ก ๆ จะอ่านหนังสือเรียนอย่างไม่หนักใจ และจำรายละเอียดของเนื้อหาในหนังสือได้ขึ้นใจ

เขียนบันทึกฝึกการคิด

ไม่เพียงเท่านี้ พระนักคิด ยังบอกเทคนิคเรียนอย่างเทพต่อว่า การเขียนเป็นส่วนที่ทำให้เด็กรู้จักคิดเป็น และเมื่อฟัง อ่าน และเขียนไปพร้อม ๆ กันด้วยแล้ว

จะยิ่งทำให้เด็กจดจำเรื่องราวต่าง ๆ ในชีวิตได้เป็นอย่างดี

"สมัยประถม พระอาจารย์เขียนบันทึกทุกวัน แล้วท้าทายตัวเองด้วยการบอกว่า ฉันจะไม่เขียนเรื่องซ้ำ เพราะถ้าเขียนซ้ำ ๆ การเขียนบันทึกจะไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย

ดังนั้นเมื่อเราเขียนเรื่องใหม่ ทุกวัน มันทำให้เรามีทักษะการเขียนไปเรื่อย ๆ จนฝึกให้เราเป็นนักคิดได้" พระนักคิดเล่า

พ่อแม่สามารถนำแนวทางนี้ไปใช้กับลูกที่บ้านได้ โดยการฝึกให้ลูกรู้จักเขียนบันทึกประจำวัน หรือบันทึกเรื่องราวส่วนตัว อาจจะหาไดอารี่เล่มเล็ก ๆ ประจำตัวลูก

แล้วค่อย ๆ ฝึกให้เขียนตั้งแต่เด็ก บอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ที่พบเจอ เพื่อให้ลูกคิดเป็น จดจำ และมีความละเอียดในการใช้ชีวิตทั้งในบ้าน และการเรียนที่ดี

"ถ้าเราอยากเก่งในเรื่องไหน ขอเดินเข้าไปหามัน นั่นจะทำให้เรารู้มากขึ้น เพราะความรู้มันกองอยู่ทุกที่

อยู่ที่เราจะโกยมาเป็นข้อมูลสั่งสมหรือไม่ก็เท่านั้น" ท่าน ว.วชิรเมธีทิ้งท้าย

เทคนิคที่เล่ามาทั้งหมดนี้ มาจากประสบการณ์ตรงของท่านว.วชิรเมธี ที่ทำให้ท่านกลายเป็นพระนักคิด นักเขียน และนักเทศน์ได้ในวันนี้

ดังนั้น จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ผลึกประสบการณ์ดังกล่าว จะเป็นแนวทางให้กับคุณพ่อคุณแม่ทุกท่านนำไปบอก หรือเล่าให้ลูกฟังจนเกิดประโยชน์ไม่ก็มากก็น้อย

แต่กระนั้น นอกจากจะฝึกลูกให้เก่งแล้ว คุณพ่อคุณแม่ต้องไม่ลืมที่จะใส่ทักษะคุณธรรมจริยธรรมเข้าไปด้วย

เพื่อให้เด็กใช้ความเก่งในทางที่ถูก ไม่ทำลายคนอื่น สังคม และประเทศชาติ




เรียบเรียง : ไพบูลย์ ลังลองสถิตย์

ที่มา : http://www.anubansatit.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=539212382&Ntype=12

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น