โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 24 พฤศจิกายน 2552 12:39 น.
“ในประเทศไทยนี้ ถ้าดูจากสถิติก็มีพลเมืองเพิ่มขึ้นทุกๆ วัน จึงสันนิษฐานได้ว่า พลเมืองของประเทศไทยนี้อยู่ในวัยเรียนมีอยู่เป็นส่วนมากทุกๆ ปี การที่ส่วนร่วมคือ ประชาชนทั้งประเทศเล็งเห็นความสำคัญของการศึกษาเป็นสิ่งที่ดีแล้ว จึงต้องช่วยจัดการให้เยาวชน ให้ประชาชนที่เกิดขึ้นมาใหม่นี้ ได้มีโอกาสรับการศึกษาที่ดี เราจะไปอาศัยรัฐบาลหรือาศัยทางราชการช่วยให้บ้านเมืองเจริญด้านเดียวไม่ได้ เพราะว่าในสมัยนี้ถือว่าเป็นสมัยประชาธิปไตย ทุกคนมีส่วนในงานของประเทศชาติ….”
นั่นคือ พระ บรมราโชวาทในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ ที่เหล่านักศึกษาจากชมรมราชมงคล “อาสาพัฒนาเฉลิมพระเกียรติ” มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล(มทร.)ธัญบุรี ได้ยึดมั่นและนำมาปฏิบัติตลอดมา พร้อมทั้งสานต่ออุดมการณ์ชาวค่ายฯ ที่ต้องการช่วยเหลือสังคม ด้วยการนำความรู้ไปพัฒนาโรงเรียนในเขตทุรกันดารและก่อสร้างอาคารเรียน หรือทดแทนอาคารที่เก่าชำรุดทรุดโทรม
ในปีนี้กลุ่มนักศึกษาจากชมรมราชมงคล “อาสาพัฒนาเฉลิมพระเกียรติ” มีภารกิจหลักสำคัญ หลังจากได้รับคำสั่งจากสำนักราชเลขาธิการ ให้ออกเดินทางไปยังเขตพื้นที่ทุรกันดารติดชายแดนไทย-ลาว ณ โรงเรียนบ้านบรรณโศภิษฐ์ อ.สองแคว จ.น่าน เพื่อทำการสร้างอาคารเอนกประสงค์ จำนวนหนึ่งหลัง
นายสกล โตสุวรรณ ผอ.ร.ร.บ้านบรรณโศภิษฐ์ กล่าวว่า เมื่อต้นปีที่ผ่านมา พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรีมาที่โรงเรียนจึงได้เรียนท่านว่าสถานที่อาคารคับแคบไม่เพียงพอแก่ นักเรียนและประชาชนในพื้นที่ที่จะมาใช้บริการ เช่น ห้องเรียน ห้องอาหาร ห้องประชุมทำกิจกรรม ขาดแคลนหมด นักเรียนจำนวน 352 คน จึงอยู่กันอย่างขาดแคลนพอสมควร ฯพณฯ องคมนตรีก็รับปากว่าจะไปประสานหน่วยงานที่จะช่วยได้ ไม่นานก็ได้รับแจ้งจากสำนักราชเลขาธิการให้ทำหนังสือฎีกาถวาย เพื่อขอพระราชทานความช่วยเหลือ แล้วก็ได้รับพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรด เกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระราชทรัพย์ 500,000 บาท และส่งนักศึกษาจากค่ายอาสาฯ มาช่วยสร้างโรงเรียนให้กับเด็กๆ
“การได้รับพระราชทานพระ มหากรุณาธิคุณดังกล่าวนำความปลาบปลื้มมาสู่โรงเรียนไม่ว่าจะเป็นครูอาจารย์ นักเรียน และชาวบ้านที่ได้รู้เรื่องกันถ้วนหน้า ซึ่งทุกคนต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและถือว่าเป็นบุญเป็นสิริมงคลอย่างที่ สุด”
“ท็อป” ธีระพัฒน์ ใจเรือน นักศึกษาชั้นปี 2 คณะวิศวกรรมศาสตร์ มทร.ธัญบุรี ประธานค่ายอาสาฯ เปิดเผยว่า หลังจากได้รับคำสั่งจากสำนักงานเลขาธิการฯ จึงเริ่มวางแผนที่จะสร้างอาคารเรียนตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา เริ่มจากลงพื้นที่สำรวจอาคารเรียน ซึ่งสิ่งที่พบมีเพียงความว่างเปล่า และสภาพอาคารที่ทรุดโทรม แต่ด้วยความตั้งใจของชาวค่ายอาสาพัฒนาเฉลิมพระเกียรติที่ตระหนักถึงความ สำคัญ 2 ประการ คือ การพัฒนาสังคมและประเทศชาติ อีกทั้งเพื่อสนองเบื้องยุคลบาทพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงพระราชทานความช่วยเหลือต่อ ร.ร.บรรณโศภิษฐ์ และเป็นการเฉลิมพระเกียรติในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ครบ 80 พรรษา ในปี พ.ศ.2550 จึงทำการก่อสร้างอาคารเรียนภายใต้ ชื่ออาคารว่า “ราชมงคลเฉลิมพระเกียรติ"
“อีก สิ่งที่สำคัญคือ กิจกรรมค่ายอาสาฯ เป็นการพัฒนานักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการ ถือเป็นการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ เรียนรู้ การทำงานร่วมกับผู้อื่น ตลอดจนรู้จักการเสียสละเพื่อสังคม"
“เทม” ปริพัฒน์ เนตรมณี นักศึกษาชั้นปี 1 คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการเกษตร มทร.ล้านนา จ.น่าน เอ่ยถึงกิจกรรมในครั้งนี้ว่า รู้สึกดีใจที่ทำสิ่งดีๆ เพื่อในหลวง แม้ว่าจะเป็นกิจกรรมเล็กน้อยๆ ที่พอจะใช้เวลาว่างจากการเรียนมาทำประโยชน์ ซึ่งนั้นก็ถือว่าเป็นความภูมิใจที่สุดในชีวิตของการเป็นนักศึกษาค่ายอาสาฯ
“เนตร” ธเนศ หงส์คำภา นักศึกษาปริญญาโท คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม มทร.ธัญบุรี ผู้คลุกคลีอยู่ในชมรมอาสา ตั้งแต่สมัยเรียนปริญญาตรี จนกระทั่งเรียนต่อในระดับปริญญาโท ก็ยังคงเข้าร่วมกิจกรรมของชมรมไม่ขาด และได้ใช้ประสบการณ์จากครอบครัวที่เป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง มาช่วยงานค่าย และแนะนำรุ่นน้อง
“ที่ สำคัญการทำกิจกรรมของค่ายอาสาฯ ครั้งนี้ และที่ผ่านมา ถือว่าเป็นบทเรียนที่มีค่ามากสุด ที่ครั้งหนึ่งได้ตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน และในหลวงของเรา”
ลูกๆขอร่วมโมทนาบุญทุกๆอย่างของพ่อหลวง ตลอดทุกๆชาติตั้งแต่ต้นจนปัจจุบัน และสืบไปในอนาคต พระผู้ทรงอภิญญาสูงสุดของแผ่นดิน
ตอบลบเสร็จภาระแล้วลองแวะที่นี่
http://www.ainews1.com/modules.php?name=Web_Board&file=view&No=171