กระบวนการยุติธรรมนั้นมีความสำคัญต่อบ้านเมืองไม่ต่างกับแสนยานุภาพทาง
ทหาร เพราะกระบวนการยุติธรรมเป็นขื่อแปของบ้านเมือง
ในขณะที่แสนยานุภาพทางทหารเป็นรั้วของบ้านเมือง
แต่ทั้งสองกระบวนนี้กำลังถูกตั้งคำถามมากขึ้นทุกวัน
แสนยานุภาพของชาติที่ได้ใช้งบประมาณจากภาษีของประชาชนปีละกว่าแสน
ล้าน ก็ถูกตั้งคำถามว่าเหตุไฉนจึงปล่อยให้เขมรยึดครองดินแดนของประเทศไทย
และข่มขู่คุกคามหยามศักดิ์ศรีคนไทยอยู่ไม่เว้นในแต่ละวัน
แต่ นั่นก็ตอบได้ว่าแสนยานุภาพของชาติจะพึงใช้ได้ก็แต่โดยรัฐบาล
ในเมื่อรัฐบาลห้ามปรามไม่ยอมให้ใช้แสนยานุภาพทางทหาร
ปล่อยให้ต่างชาติรื้อหลักถอนรั้วเข้ามายึดครองเสียเฉยๆ
โดยไม่รู้ร้อนรู้หนาว ความรับผิดชอบจึงต้องตกอยู่กับรัฐบาล
ซึ่งกฎหมายในส่วนอาญาก็บัญญัติถึงความรับผิดชอบเอาไว้ว่าใครไหนก็ตาม
ทำให้ดินแดนของชาติตกอยู่ในมือของข้าศึกหรือต่างชาติ
ย่อมเป็นความผิดอันฉกรรจ์และมีระวางโทษถึงประหารชีวิต
แต่ในวันนี้เงื้อมมือของกฎหมายก็ไม่สามารถเอื้อมไปถึงผู้ที่ต้องรับ
ผิดชอบเหล่านั้น
กลายเป็นคนทำผิดคิดร้ายแผ่นดินกลับอยู่เหนืออำนาจแห่งกระบวนการยุติธรรม
ในวันนี้มีการตั้งคำถามกันทั่วทุกวงการ
แม้กระทั่งแม้ค้าขายของในตลาด
ถึงกระบวนการยุติธรรมของประเทศว่าจะยังเป็นที่พึ่ง เป็นความหวัง
และจะยังให้แผ่นดินนี้เป็นสุขต่อไปได้หรือไม่
มี การตั้งคำถามอย่างเป็นรูปธรรมว่า พวกโกงชาติ พวกขายชาติ
พวกปล้นชาติ อย่างมากก็ติดคุก 2 ปี และมีการรอลงอาญา
ในขณะที่คนด่าพวกโกงชาติ ด่าพวกขายชาติ ด่าพวกปล้นชาติ ติดคุก 2
ปีเหมือนกัน แต่ไม่รอการลงอาญา แสดงว่าการด่าคนผิดคิดชั่วต่อแผ่นดินต่างๆ
นั้นเป็นความผิดหนักหนาสาหัสยิ่งกว่าพวกโกงชาติ
พวกปล้นชาติและพวกขายชาติไปแล้วหรือ
คำถามอย่างนี้ตั้งขึ้นและถามกันไปกว้างขวางมากขึ้นเท่าใดก็กระทบ
กระเทือนต่อขื่อแปของบ้านเมืองเท่านั้น เพราะเป็นคำถามที่ตอบไม่ได้
และไม่มีทางตอบเป็นอย่างอื่น
นอกจากต้องตอบว่าในวันนี้ขื่อแปของบ้านเมืองพังทลายสิ้นแล้ว
เมื่อขื่อแปของบ้านเมืองพังทลายลง
บ้านเมืองก็ไม่อาจดำรงอยู่ต่อไปได้ สถานการณ์ในยามมีศึกสงคราม
แต่หากความยุติธรรมยังดำรงอยู่ บ้านเมืองก็ยังอยู่รอดปลอดภัยได้
แต่เมื่อใดก็ตามที่ขื่อแปบ้านเมืองพังทลายลงมาแล้ว
บ้านเมืองก็อยู่ไม่ได้ มีแต่จะต้องสร้างกันใหม่
เพราะไม่อาจตั้งความหวังใดๆ ไว้ได้ว่าเมื่อขื่อแปพังลงมาแล้ว
มันจะสามารถกลับไปสู่ที่ตั้งปกติดังแต่ก่อนได้อย่างไร
ยิ่งกระบวนการยุติธรรมขั้นต้นนั้นพังทะลายลงมาจนไม่เหลือซาก
และไม่มีผู้ใดยอมรับนับถืออีกต่อไป
วงการตำรวจไม่เป็นที่พึ่งหวังว่าจะพิทักษ์สันติราษฎร์หรืออำนวยความ
ยุติธรรมให้แก่บ้านเมืองได้
เพราะแม้แต่ภายในตำรวจด้วยกันเองก็ขาดไร้ซึ่งความยุติธรรม
ตำรวจ นับแสนๆ คนไม่เคยได้รับความยุติธรรมจากตำรวจด้วยกัน
การแต่งตั้งเลื่อนขั้นส่วนมากต้องใช้เงินซื้อขาย
บางคนติดยศตำแหน่งอยู่ในที่เดิมมานับๆ สิบปี
หลายคนทำความดีเท่าใดก็ไม่มีใครเห็น
ได้แต่เห็นคนอื่นข้ามหัวไปคนแล้วคนเล่า ด้วยกำลังเงินในการซื้อขายตำแหน่ง
สถาบันอัยการก็เสื่อมโทรมจนฐานะทนายความแผ่นดินสูญสิ้นไปแล้ว
กระทั่งใครต่อใครบางคนที่รู้เห็นสำนวนความยังกล้าบังอาจเอาความที่รู้เห็น
นั้นไปให้การช่วยจำเลยในศาล ทั้งๆ ที่เป็นการผิดกฎหมาย ผิดมารยาท
และผิดจรรยาบรรณทางวิชาชีพอย่างร้ายแรงที่สุด
ไม่ต้องรวมถึงการถ่วงรั้งคดี การไม่ทำหน้าที่ทนายความแผ่นดิน
และการมีประโยชน์ทับซ้อนในกระบวนการโกงบ้านกินเมืองต่างๆ
แม้สื่อมวลชนจะเปิดโปงถึงความอัปยศอดสูนี้สักเท่าใด
ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น
หน่วย งานที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการป้องกันและปราบปรามการโกงชาติ การผลาญชาติ
และการโกงบ้านกินเมือง ก็ไม่สามารถแสดงบทบาทได้สมกับฐานะ
วันนี้กระบวนการป้องกันได้ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง
ดังที่ปรากฏในรายงานการดำเนินงานของบางหน่วยงานเองว่าขณะนี้การโกงชาติได้
เพิ่มจำนวนขึ้นถึง 30-40% ของงบประมาณ และในปีล่าสุดก็มีการโกงชาติถึง
120,000 ล้านบาท
นี่เป็นแค่ 120,000 ล้านบาท ที่ตรวจพบเท่านั้น
และที่ตรวจไม่พบหรือที่ไม่ปรากฏอีกมหาศาลเท่าใดก็ไม่มีใครตอบได้
การที่การโกงชาติระบาดกว้างอย่างนี้ก็คือบทพิสูจน์ว่าระบบการป้องกันได้ล้ม
เหลวไปแล้วอย่างสิ้นเชิง
แม้ในส่วนการปราบปราม ก็มีคดีความคั่งค้างจำนวนมากมาย
ในขณะที่ออกผลไปดำเนินการได้จำนวนน้อยนิด
จนไม่รู้ว่าจะคุ้มค่ากับค่าใช้จ่ายจากภาษีของราษฎรหรือไม่
ดัง ตัวอย่างเช่น
คดีมหากาพย์การโกงชาติรายบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน
ซึ่งเป็นการโกงที่โด่งดังไปทั่วทั้งโลกที่ได้ผลาญเงินชาติไปแล้วกว่า
23,000 ล้านบาท ถึงวันนี้ก็ยังไม่มีใครติดคุกเลยแม้แต่คนเดียว
เหลือเวลาอีกไม่กี่เดือน คดีก็จะขาดอายุความ 15 ปีแล้ว
แต่ปรากฏว่านักการเมืองโกงชาติบางคนยังคงชูคอลอยนวลอยู่
และยังแอบแฝงบงการโกงชาติโดยไม่หวาดหวั่นต่อกบิลเมืองแม้แต่น้อย
โครงการโกงชาติรายบ่อบำบัดน้ำเสียนี้โกงกันตั้งแต่การซื้อที่ดินที่
เอาทะเลไปออกโฉนดมาขาย โกงกันตั้งแต่แบบแผนการก่อสร้าง
ตลอดจนราคาค่าก่อสร้างและผลการก่อสร้าง กระทั่งผลาญเงินชาติไปมากมาย
แต่กลับใช้ไม่ได้เลย
กลายเป็นอนุสาวรีย์ของมหากาพย์โกงชาติเย้ยหยันกระบวนการยุติธรรมไปทั่วโลก
บรรดา เจ้าหน้าที่ที่ได้ร่วมขบวนการโกงชาติจากโครงการนี้นอกจากจะไม่ถูกลงโทษทัณฑ์
ให้สาสมกับความผิดความชั่วแล้ว
ยังคงได้รับการปูนบำเหน็จส่งเสริมให้มีอำนาจในหน่วยงานต่างๆ ต่อไปอีก
นับเป็นการส่งเสริมคนชั่วให้มีอำนาจในบ้านเมืองโดยไม่ใส่ใจต่อกระแสพระราช
ดำรัสที่ทรงแนะนำให้ส่งเสริมคนดีให้มีอำนาจในบ้านเมือง
บางคนแก่เฒ่าจนเกษียณอายุราชการไปแล้ว
แต่เพราะเคยร่วมขบวนการโกงชาติในโครงการนี้ก็ได้รับการสมนาคุณอย่างดียิ่ง
ด้วยการทำนุบำรุงส่งเสริมให้มีบทบาทในหน่วยงานของรัฐต่อไปอีก
เป็นแต่หลีกเลี่ยงแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษา
มัน น่าเจ็บใจก็คือนักการเมืองโกงชาติคนสำคัญที่ได้โกงชาติขนาดนี้กลับยังมี
อำนาจว่าราชการหลังม่านอยู่ในปัจจุบันในกิจการพลังงานของชาติ
ที่ดูดเลือดเนื้อประเทศชาติและประชาชนอีกปีละร่วม 400,000 ล้านบาท
อย่างหน้าตาเฉย
การโกงชาติจากกิจการพลังงานน้ำมันปีละร่วม 400,000
ล้านบาทนี้หมายความว่าอย่างไร?
หมาย ความว่าคนไทยทั้งประเทศต้องจ่ายค่าพลังงานแพงกว่าปกติที่ควรเป็นถึง
400,000 ล้านบาทนั่นเอง หากคิดเฉลี่ยจำนวนประชากร 63
ล้านคนแล้วก็เท่ากับคนไทยแต่ละคนถูกโกงจากค่าใช้จ่ายพลังงานคนละ 6,349
บาท
ตัวอย่างของมหกรรมโกงชาติที่เกิดขึ้นและยังดำเนินการต่อเนื่องมาถึง
วันนี้คือสิ่งที่บ่งชี้ว่าการป้องกันและปราบปรามการทุจริตที่ควรเป็นความ
หวังของประชาชนนั้น ผลที่แท้จริงกลับเป็นสิ่งตรงกันข้าม
ผลแท้จริงคือกำลังกลายเป็นการปกป้องการทุจริตแห่งชาติไปแล้ว
เพราะป้องกันก็ไม่ได้ ปราบปรามก็ไม่ได้ผล
จึงเป็นต้นเหตุให้คนผิดคิดชั่วและคนโกงชาติฮึกเหิมลำพองไม่ยำเกรงอำนาจแห่ง
ความยุติธรรม แล้วทำการโกงชาติ โกงแผ่นดินกันอย่างครึกโครม
และครื้นเครงยิ่ง
คน ไทยจะหวังอะไรได้อีกเล่า จึงต้องเลิกหวังลมๆ แล้งๆ ได้แล้ว
แล้วมาทำในสิ่งที่เป็นจริงเป็นจังกัน นั่นคือการฟื้นฟูสร้างประเทศไทยใหม่
เพื่ออนาคตของลูกไทยหลานไทยสืบไป.
http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9520000116781
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น